วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ๔ (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔)
วันนี้เหมือนๆ กับหลายวันที่ผ่านมาคืองานที่ต้องทำในส่วนของผมไม่ค่อยมีหรือเรียกว่าแทบจะไม่มีอะไรเลยก็ว่าได้ แต่จะมานั่งเศร้าซึมอยู่ไยในเมื่องานที่เคยทำเคยรับผิดชอบเขาไม่ให้เราทำก็ต้องหาอะไรมาทำให้ได้ผมคิดอย่างนี้เลยรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกโข จึงใช้เวลาว่างๆ วันนี้สอนคอมพิวเตอร์ที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างให้น้องๆ ในห้องธุรการเขาโดยผมสอนวิธีการแทรกเอกสาร WORD ลงในเอกสาร EXCEL ที่น้องๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อน แต่การสอนจะเป็นการแนะนำวิธีการปฏิบัติโดยให้น้องๆ เขาลองทำดูตามที่บอก ได้ผลดีครับ LEARNING BY DOING เรียนรู้โดยการทำด้วยตนเอง แป๊บเดียวเองครับน้องๆ เขาเป็นกันแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าทำแบบนี้ได้ด้วย จริงๆ นะเรื่องนี้ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้หรือทำกันเพราะเท่าที่เห็นจากเอกสาร รายงานหลายหน่วยที่ต้องทำเป็นเอกสาร WORD และเอกสาร EXCEL ด้วยในเรื่องเดียวกันมักจะใช้แยก WORD ไว้ส่วนหนึ่งและ EXCEL ไว้อีกส่วนหนึ่งซึ่งความจริงสามารถรวมกันได้ แต่อย่างว่าแหละครับใครจะรู้ตั้งแต่เกิด ไม่มีหรอก ต้องค่อยๆ ฝึกค่อยๆ สอน ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ผมดีใจครับที่ได้ถ่ายทอดเรื่องที่เรารู้ให้คนที่ไม่รู้ได้รู้ ถือเป็นวิทยาทานอย่าง ๑ก็เลยขออนุญาตบันทึกเรื่องราวการทำงานวันนี้ไว้หน่อย
พระบรมราโชวาท (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔)
....ผู้ที่เข้ามาเป็นตำรวจย่อมทราบดีกันทุกคนว่างานในหน้าที่ของตนนั้นเต็มไปด้วยปัญหาสารพัด ทั้งยังมีภัยอันตรายที่จะต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงอีกมากในการกำราบปราบปรามผู้ทุจริต ตำรวจทุกคนจึงต้องตั้งตัวตั้งใจให้มั่นคงและหนักแน่นเป็นพิเศษตั้งแต่วาระเริ่มแรกที่จะต้องรักษาความสุจริตและถูกต้องเป็นธรรมไว้เสมอทุกเมื่อ จะต้องรักษาความเพียรพยายาม ความกล้าหาญ อดทน เสียสละไว้ไม่ให้เสื่อมถอย จะต้องควบคุมสติความรู้เท่าทันเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา และจะต้องฝึกฝนความรู้ ความคิดวินิจฉัยของตนให้กระจ่างแจ่มชัดพร้อมที่จะนำมาใช้ได้ทุกขณะ ความระมัดระวังตั้งใจและเตรียมตัวพร้อมอยู่เสมอดังนี้จะช่วยประคับประคองและส่งเสริมให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ว่าเป็นภาระยากลำบากนั้นได้สำเร็จ
นอกจากนี้ใคร่จะขอเตือนว่าอุปสรรคสำคัญของตำรวจคือความท้อถอยและความขลาดหวาดหวั่น อันเป็นเครื่องบั่นทอนความสามารถ และความฉลาดในตนเองอย่างร้ายกาจ ตำรวจจะยอมแพ้แก่ความยากลำบากหรือแก่คนทุจริตไม่ได้เป็นอันขาด ตรงข้าม จะต้องมั่นใจและระลึกไว้เสมอว่าตำรวจเป็นฝ่ายที่เป็นธรรมและสุจริตย่อมอยู่ในสภาพที่เหนือกว่าผู้กระทำผิดทุกประการ จึงต้องเอาชนะผู้กระทำผิดได้เป็นแน่นอน และเมื่อแต่ละคนทำจิตใจให้เชื่อมั่นและหนักแน่นได้ดังนี้ ย่อมจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ลุล่วงได้ด้วยความกล้าหาญ เที่ยงตรง เป็นธรรม และด้วยประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมโดยไม่มีทุจริตชนคนใดจะเอาชนะความดีความสามารถของตนได้เลย....
(พระบรมราโชวาทเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ ๓๖ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๒๖)
วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกหลานท่านเล่น ๓ (๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๔)
ผ่านไปอีกครึ่งวันสำหรับการทำงานอำนวยการที่โรงพักเวียงป่าเป้าวันนี้ เหมือนเดิมครับงานแทบมีอะไรเลย ออกจะเงียบเหงาไปซะหน่อยด้วยซ้ำ จากคนที่เคยออกตะลอนๆ ไปทั่วแทบไม่อยู่โรงพักเพราะงานก่อนนั้นถือว่างานนอกโรงพักเป็นงานหลัก งานใหญ่และเป็นหัวใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องออกพบปะเยี่ยมเยียน ตรวจตราดูแลทุกข์สุขให้พี่น้องประชาชนกลับต้องมานั่้งประจำอยู่กับที่ ไม่เป็นไรครับค่อยๆ ปรับเดี๋ยวก็ชินไปเองแม้ว่าใจจริงส่วนลึกจะนึกถึงพี่น้องประชาชนซึ่งผมรักอยู่ตลอดเวลาก็ตาม
บางคนอาจสงสัยว่า เอ้า!! การเป็นตำรวจนั้นหน้าที่หลักคือการตรวจตราดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนไม่ใช่เหรอแล้วทำไมไม่ออกไปล่ะอยู่โรงพักทำไม ก็ขอตอบว่างานตำรวจเราก็เหมือนกับหน่วยงานทั่วๆ ไปที่มีการแบ่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้คนนั้นทำส่วนนี้คนนี้ทำส่วนนั้น งานสายตรวจหรือการพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนนี้สายงานป้องกันปราบปรามรับผิดชอบ ส่วนงานธุรการจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารและต้องอยู่ประจำโรงพักอะไรประมาณนี้งานอำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วทีนี้ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานอำนวยการก็ต้องอยู่ประจำโรงพักจะออกไปข้างนอกทั้งๆ ที่ใจอยากทำจะตายอยู่แล้วก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นการแย่งงานคนอื่นเขามันไม่เหมาะสมเลยต้องทำต้องอยู่อย่างงี้
แต่อย่างที่เคยบอกนั่้นแหละผมไม่อยากปล่อยเวลาว่างให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์รวมทั้งนึกถึงสุภาษิตไทยเราที่ว่า "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น"ขึ้นมาจึงใช้เวลาว่างๆ นั้นสอนและแนะนำอะไรต่อมิอะไรที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานในหน้าที่ได้ให้แก่น้องๆ ห้องอำนวยการเขาซึ่งวันนี้น้องๆ ได้หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ สนุกดีครับ ผมว่านะความรู้สึกที่ได้ถ่ายทอดความรู้เป็นวิทยาทานนั้นมันเป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว "ให้อะไรก็ไม่ดีเท่ากับให้ความรู้" ผมคิดอย่างนี้และทำอย่างนี้มาตลอด
ประการสำคัญสิ่งที่ถ่ายทอดให้น้องๆ นั้นผมไม่อยากให้รู้เฉพาะในส่วนของโรงพักเท่านั้นอยากจะนำออกเผยแพร่ไปสู่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตำรวจอื่นที่เขาไม่รู้ได้รู้ด้วยจึงเขียนคำแนะนำการใช้ Microsoft word ขึ้นมาอีก ๑ เรื่องคือ "เรามาหาอะไรใช้แทนคำหรือข้อความที่เราใช้กันบ่อยๆ ดีไหม" ซึ่งผมนำออกเผยแพร่ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรายละเอียดของเรื่องนี้กรุณาคลิกดูได้ที่นี่ครับ
ที่มาของหนังสือฉบับด้านซ้ายกรุณาคลิกที่นี่ครับ
บางคนอาจสงสัยว่า เอ้า!! การเป็นตำรวจนั้นหน้าที่หลักคือการตรวจตราดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนไม่ใช่เหรอแล้วทำไมไม่ออกไปล่ะอยู่โรงพักทำไม ก็ขอตอบว่างานตำรวจเราก็เหมือนกับหน่วยงานทั่วๆ ไปที่มีการแบ่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้คนนั้นทำส่วนนี้คนนี้ทำส่วนนั้น งานสายตรวจหรือการพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนนี้สายงานป้องกันปราบปรามรับผิดชอบ ส่วนงานธุรการจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารและต้องอยู่ประจำโรงพักอะไรประมาณนี้งานอำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วทีนี้ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานอำนวยการก็ต้องอยู่ประจำโรงพักจะออกไปข้างนอกทั้งๆ ที่ใจอยากทำจะตายอยู่แล้วก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นการแย่งงานคนอื่นเขามันไม่เหมาะสมเลยต้องทำต้องอยู่อย่างงี้
แต่อย่างที่เคยบอกนั่้นแหละผมไม่อยากปล่อยเวลาว่างให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์รวมทั้งนึกถึงสุภาษิตไทยเราที่ว่า "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น"ขึ้นมาจึงใช้เวลาว่างๆ นั้นสอนและแนะนำอะไรต่อมิอะไรที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานในหน้าที่ได้ให้แก่น้องๆ ห้องอำนวยการเขาซึ่งวันนี้น้องๆ ได้หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ สนุกดีครับ ผมว่านะความรู้สึกที่ได้ถ่ายทอดความรู้เป็นวิทยาทานนั้นมันเป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว "ให้อะไรก็ไม่ดีเท่ากับให้ความรู้" ผมคิดอย่างนี้และทำอย่างนี้มาตลอด
ประการสำคัญสิ่งที่ถ่ายทอดให้น้องๆ นั้นผมไม่อยากให้รู้เฉพาะในส่วนของโรงพักเท่านั้นอยากจะนำออกเผยแพร่ไปสู่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตำรวจอื่นที่เขาไม่รู้ได้รู้ด้วยจึงเขียนคำแนะนำการใช้ Microsoft word ขึ้นมาอีก ๑ เรื่องคือ "เรามาหาอะไรใช้แทนคำหรือข้อความที่เราใช้กันบ่อยๆ ดีไหม" ซึ่งผมนำออกเผยแพร่ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรายละเอียดของเรื่องนี้กรุณาคลิกดูได้ที่นี่ครับ
ที่มาของหนังสือฉบับด้านซ้ายกรุณาคลิกที่นี่ครับ
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ๒ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔)
ช่วงที่ผมนั่งเขียน(พิืมพ์)เรื่องนี้อยู่ที่ทำงานนั้นเวลาก็ปาเข้าไปหกโมงเย็นกว่าๆ แล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าอยู่ทำไมที่ทำงาน ทำไมไม่กลับบ้าน งานก็งานธุรการประเภทเช้าไปเย็นกลับ ก็ขอเฉลยนิด ๑ ครับว่าอาจจะมาจากความเคยชินของผมที่แทบจะไม่เคยกลับบ้านช่วงเวลาแบบนี้ อย่้างน้อยที่สุดก็ต้องสามทุ่มไปก่อนถึงจะกลับบ้าน อีกประการ ๑ บ้านที่พักอยู่ซึ่งห่างจากตัวโรงพักราวๆ ๒ กิโลเศษๆ ผมไม่ได้เอาเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรมาเลยไม่ว่าจะเป็นทีวี,วิทยุ,ตู้เย็นฯ เพราะไม่อยากให้ยุ่งยากพอไปถึงบ้านก็ไม่มีอะไรต้องทำต้องดูก็เลยตัดสินใจว่าอยู่มันเสียที่โรงพักนี่แหละ มืดๆ ถึงค่อยกลับ อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก็นอนเลยตอนเช้าตื่นทำธุระเสร็จก็มาทำงาน นี่แหละคือที่มาของคำว่าทำไมยังไม่กลับบ้าน
แต่ถ้าอยู่โรงพักเฉยๆ ก็ดูกระไรอยู่เพราะอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่นผมจึงใช้เวลานี้ขีดๆ เขียนๆ อะไรต่างๆ ที่ผมพอจะมีึความรู้อยู่บ้างเพื่อแจกจ่ายให้ตำรวจศึกษาและนำไปใช้งานกันโดยผมใช้เวลานี้เขียนความรู้เกี่ยวกับการใช้ Microsoft word ในหัวข้อการลดขนาดไฟล์ที่มีภาพประกอบซึ่งตอนนี้เสร็จและเผยแพร่ให้ตำรวจเขาแล้วจึงนำเรื่องราวช่วงนี้มาบันทึกไว้หน่อย สำหรับรายละเอียดของข้อมูลนี้กรุณาลิกดูได้ที่นี่ครับ
แต่ถ้าอยู่โรงพักเฉยๆ ก็ดูกระไรอยู่เพราะอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่นผมจึงใช้เวลานี้ขีดๆ เขียนๆ อะไรต่างๆ ที่ผมพอจะมีึความรู้อยู่บ้างเพื่อแจกจ่ายให้ตำรวจศึกษาและนำไปใช้งานกันโดยผมใช้เวลานี้เขียนความรู้เกี่ยวกับการใช้ Microsoft word ในหัวข้อการลดขนาดไฟล์ที่มีภาพประกอบซึ่งตอนนี้เสร็จและเผยแพร่ให้ตำรวจเขาแล้วจึงนำเรื่องราวช่วงนี้มาบันทึกไว้หน่อย สำหรับรายละเอียดของข้อมูลนี้กรุณาลิกดูได้ที่นี่ครับ
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ๑ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔)
บ่ายวันนี้งานที่ผมจะต้องทำไม่มีอะไรเลยครับ เงี้ยบเงียบ ไม่เหมือนกับที่เคยทำอยู่ที่โรงพักพานมีงานให้ทำได้ทั้งวันเยอะแยะไปหมด ทำจนเพลินเรียกว่าลืมเวลาไปเลยก็ได้เพราะต้องตะลอนออกไปโน่นมานี่ พบปะพูดคุยกับพี่น้อง เป็นวิทยากร โอ๊ย จิปาถะ ม้วนม่วน สนุ้กสนุก แต่อยู่ที่โรงพักเวียงป่าเป้าทำแบบนั้นไม่ได้เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องรับผิดชอบ ครั้นจะทำแบบที่โรงพักพานก็กลัวคนที่มีหน้าที่เขาจะเหม็นหน้าเอา แล้วทีนี้ทำไงดีล่ะครับท่านผู้ชม งานก็ไม่มีให้ทำ แหมชีวิตของสุพจน์มัุจฉาจากคนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำต้องมานั่งแหมะอยู่กับที่แบบนี้หรือ ไม่ใช่แน่ นั่นมิใช่วิสัยของสุพจน์มัจฉาแน่นอนแล้วจะทำไงล่ะ คิดไปคิดมา เอ้อ คิดออกแล้ว "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น" นี่ สุภาษิตโบราณที่เคยได้ยินได้ฟังมานั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเราจำต้องมาอยู่เวียงป่าเป้าแล้วจะนิ่งดูดายได้เยี่ยงไรจำต้องหางานมาทำให้ได้ชีวิตจะได้มีรสชาติเพิ่มขึ้น
ที่นี้งานที่จะต้องทำให้ืได้นั้นคืออะไรล่ะ จะไปยากไยตัวเราก็ ๑ ในตองอูด้านคอมพิวเตอร์ของวงการตำรวจอยู่นี่นา เอาล่ะ เอาเรื่องที่ตัวเองมีความรู้นี่แหละเขียนให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตำรวจที่ยังไม่รู้ได้รู้เสียเลย ผมจึงเขียนบทความเรื่องคำแนะนำการใช้ word ขึ้นโดยจะเขียนเป็นตอนๆ ค่อยๆ ใช้เวลาว่างเขียนไปเรื่อยๆ วันนี้ทำเสร็จแล้วตอน ๑ คือเรื่องการทำคำอัตโนมัติครับรายละเอียดของเรื่องท่านสามารถคลิกดูได้ที่นี่
ที่นี้งานที่จะต้องทำให้ืได้นั้นคืออะไรล่ะ จะไปยากไยตัวเราก็ ๑ ในตองอูด้านคอมพิวเตอร์ของวงการตำรวจอยู่นี่นา เอาล่ะ เอาเรื่องที่ตัวเองมีความรู้นี่แหละเขียนให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตำรวจที่ยังไม่รู้ได้รู้เสียเลย ผมจึงเขียนบทความเรื่องคำแนะนำการใช้ word ขึ้นโดยจะเขียนเป็นตอนๆ ค่อยๆ ใช้เวลาว่างเขียนไปเรื่อยๆ วันนี้ทำเสร็จแล้วตอน ๑ คือเรื่องการทำคำอัตโนมัติครับรายละเอียดของเรื่องท่านสามารถคลิกดูได้ที่นี่
สวัสดีเวียงป่าเป้า ๓ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔)
ผ่านไปแล้วครึ่งวันสำหรับการทำงานในหน้าที่อำนวยการที่โรงพักเวียงป่าเป้าวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ ๘ ของจำนวน ๓ เดือนที่ผู้บังคับบัญชาให้ผมมาปฏิบัติ เช้านี้งานที่ทำไม่ค่อยมีเพราะส่วนใหญ่น้องๆ ตำรวจที่รับผิดชอบงานนั้นทำเสร็จสิ้นเรียบร้อย ผมตรวจดูก็เข้าท่าดีครับ ทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์๋็ในพอสมควรเรียกว่าพอเห็นงานที่เข้ามาปั๊บก็รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อไปจึัีงไม่มีอะไรหนักใจในเรื่องนี้
ในส่วนของผมนั้นช่วงเช้าที่ผ่านมาได้แนะนำการเขียน การใช้คำพูด การใช้คอมพิวเตอร์ที่น้องๆ ใช้มาแต่ไม่ค่อยถูกต้องนักให้เขานำไปปรับปรุงแก้ไขอยู่บ้างเล็กน้อยโดยคำบางคำที่บางคนอาจมองข้ามไปเพราะไม่คิดว่าไม่ถูกต้องรวมทั้งไม่เคยมีใครให้คำแนะนำมาก่อนจนทำให้คิดว่าสิ่งนั้นถูกต้องแล้วที่เห็นง่ายๆ ก็อย่างเช่้นการใช้เครื่องหมายวรรคตอนซึ่งทุกคนใช้เหมือนกันคือคำว่า "ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเวียงป่าเป้า" ผมแนะนำน้องๆว่าคำคำนี้เป็นคำเดียวกันเพราะฉะนั้นการเขียนจะต้องติดกันไม่ต้องเว้นวรรคคือระหว่างคำว่า "ผู้กำกับการ" และ "สถานีตำรวจ..." ผมแนะนำให้ใช้คำว่า "ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงป่าเป้า" ซึ่งไม่มีวรรคตอนรวมทั้งแนะนำด้วยว่าภาษาไทยของเรานั้นแยกคำด้วยการเว้นวรรคแต่ถ้าเป็นคำคำเดียวกันให้เขียนหรือพิมพ์ติดต่อกันไปเลย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกหลายอย่างจนน้องๆ เข้าใจดีแล้วก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง
ในส่วนของการใช้งานคอมพิวเตอร์ฺผมได้แนะนำให้น้องๆ เขาหลายอย่างเช่นกันโดยสิ่งที่แนะนำนั้นน้องๆ บอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยทำให้ดีใจกันมากเนื่องจากประหยัดเวลาและมีความถูกต้องมากขึ้นกว่าเดิมเช่นการใช้คำอัตโนมัติ การใช้คำสั้นๆ แทนที่คำยาวๆ ที่พิมพ์ค่อนข้างยากและเสียเวลาอะุไรประมาณนี้ครับ
เช้าที่ผ่านมาสนุกดีกับงานซึ่งผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าเราสนุกกับงานงานนั้นก็จะสนุกไปด้วย
สวัสดีเวียงป่าเป้า
ในส่วนของผมนั้นช่วงเช้าที่ผ่านมาได้แนะนำการเขียน การใช้คำพูด การใช้คอมพิวเตอร์ที่น้องๆ ใช้มาแต่ไม่ค่อยถูกต้องนักให้เขานำไปปรับปรุงแก้ไขอยู่บ้างเล็กน้อยโดยคำบางคำที่บางคนอาจมองข้ามไปเพราะไม่คิดว่าไม่ถูกต้องรวมทั้งไม่เคยมีใครให้คำแนะนำมาก่อนจนทำให้คิดว่าสิ่งนั้นถูกต้องแล้วที่เห็นง่ายๆ ก็อย่างเช่้นการใช้เครื่องหมายวรรคตอนซึ่งทุกคนใช้เหมือนกันคือคำว่า "ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเวียงป่าเป้า" ผมแนะนำน้องๆว่าคำคำนี้เป็นคำเดียวกันเพราะฉะนั้นการเขียนจะต้องติดกันไม่ต้องเว้นวรรคคือระหว่างคำว่า "ผู้กำกับการ" และ "สถานีตำรวจ..." ผมแนะนำให้ใช้คำว่า "ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงป่าเป้า" ซึ่งไม่มีวรรคตอนรวมทั้งแนะนำด้วยว่าภาษาไทยของเรานั้นแยกคำด้วยการเว้นวรรคแต่ถ้าเป็นคำคำเดียวกันให้เขียนหรือพิมพ์ติดต่อกันไปเลย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกหลายอย่างจนน้องๆ เข้าใจดีแล้วก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง
ในส่วนของการใช้งานคอมพิวเตอร์ฺผมได้แนะนำให้น้องๆ เขาหลายอย่างเช่นกันโดยสิ่งที่แนะนำนั้นน้องๆ บอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยทำให้ดีใจกันมากเนื่องจากประหยัดเวลาและมีความถูกต้องมากขึ้นกว่าเดิมเช่นการใช้คำอัตโนมัติ การใช้คำสั้นๆ แทนที่คำยาวๆ ที่พิมพ์ค่อนข้างยากและเสียเวลาอะุไรประมาณนี้ครับ
เช้าที่ผ่านมาสนุกดีกับงานซึ่งผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าเราสนุกกับงานงานนั้นก็จะสนุกไปด้วย
สวัสดีเวียงป่าเป้า
วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สถานภาพกำลังพลตำรวจเวียงป่าเป้า (๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๔)
ผมชอบจดชอบบันทึีกเรื่องราวอะไรต่างๆ ไว้อย่างน้อยที่สุดก็เอาเก็บไว้ดูตอนหลัีงว่าวันนั้ันวันนี้ที่ผ่านมามีหรือทำอะไรบ้างอย่างที่หลายๆ ท่านคงจะเ้ห็นกันจนชินตานั่นแหละ แล้วทีนี้ตอนนี้ผมมาอยู่ สภ.เวียงป่าเป้าโดยผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ทำงานอำนวยการก็เลยขออนุญาตบันทึีกเรื่องราวของสถานภาพกำลังพลตำรวจ สภ.เวียงป่าเป้าไว้หน่อยว่ามียังไง โดยสถานภาพกำลังพลของ สภ.เวียงป่าเป้า ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ มีดังนี้ครับ
๑. นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร อัตราอนุญาต ๒๓ มีตัวคนปฏิบัติงานจริง ๑๑ ว่าง ๑๒ อัตรา
๒. ชั้นประทวน อัตราอนุญาต ๙๓ มีตัวคนปฏิบัติืงานจริง ๗๘ ว่าง ๑๕ อัตรา
ซึ่งปัจจุบันแทบจะทุกโรงพักจะมีอัตราว่างคล้ายๆ กับโรงพักเวียงป่าเป้านั่นแหละครับ
๑. นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร อัตราอนุญาต ๒๓ มีตัวคนปฏิบัติงานจริง ๑๑ ว่าง ๑๒ อัตรา
๒. ชั้นประทวน อัตราอนุญาต ๙๓ มีตัวคนปฏิบัติืงานจริง ๗๘ ว่าง ๑๕ อัตรา
ซึ่งปัจจุบันแทบจะทุกโรงพักจะมีอัตราว่างคล้ายๆ กับโรงพักเวียงป่าเป้านั่นแหละครับ
สวัสดีเวียงป่าเป้า ๒ (๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๔)
วันนี้ผมเดินทางมารับงานที่ สภ.เวียงป่าเป้าอย่างเต็มตัวแล้วครับ งานที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายก็คืองานด้านอำนวยการทั้งหมดอย่างเช่นงานนโยบายและแผน,งานกำลังพลประมาณนี้ การทำงานลักษณะนี้จะคล้ายๆ กับเจ้าหน้าที่ธุรการทั่วๆ ไปนั่นก็คือเช้าไปเย็นกลับยกเว้นแต่มีเหตุหรืองานเร่งด่วนเข้ามาเป็นห้วงๆ ก็คงสนุกดีไปอีกแบบหนึ่งเพราะผมคงจะใช้ัเวลานี้นำความรู้ความเข้าใจในหลายๆ ด้านที่ตำรวจไม่ค่อยจะเป็นหรือคล่องมากนักมาปรับปรุงพัฒนาเท่าที่ผมจะทำได้
งานแรกที่คิดว่าตอนนี้ที่ว่าจะทำหรือปรับปรุงให้ก็คือเว็บไซต์ของโรงพัก http://wiengpapao.chiangrai.police.go.th/ ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้รับคำตอบคล้ายๆ กันคือมันยากและไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ไม่เป็นไรครับผมจะค่อยๆ สอน ค่อยๆ ให้ความรู้และพอเป็นกันบ้างแล้วก็จะอยู่เบื้องหลังต่อไป ไม่มีอะไรยากถ้าเราต้องการทำ ผมแจ้งตำรวจไปแบบนี้ซึ่งทุกคนรู้สึกว่าจะมีรอยยิ้มพอสมควร ส่วนงานต่อๆ ไปก็คงจะดูไปเป็นวันๆ หรือดูกันอีกทีหนึ่งและก็เหมือนเดิมครับมีอะไรผมจะุบันทึกเรื่องราวไว้ในบล็อกส่วนตัวของผม อย่าลืมติดตามแวะเวียนเข้ามาอ่านนะครับ
สวัสดีเวียงป่าเป้า
งานแรกที่คิดว่าตอนนี้ที่ว่าจะทำหรือปรับปรุงให้ก็คือเว็บไซต์ของโรงพัก http://wiengpapao.chiangrai.police.go.th/ ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้รับคำตอบคล้ายๆ กันคือมันยากและไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ไม่เป็นไรครับผมจะค่อยๆ สอน ค่อยๆ ให้ความรู้และพอเป็นกันบ้างแล้วก็จะอยู่เบื้องหลังต่อไป ไม่มีอะไรยากถ้าเราต้องการทำ ผมแจ้งตำรวจไปแบบนี้ซึ่งทุกคนรู้สึกว่าจะมีรอยยิ้มพอสมควร ส่วนงานต่อๆ ไปก็คงจะดูไปเป็นวันๆ หรือดูกันอีกทีหนึ่งและก็เหมือนเดิมครับมีอะไรผมจะุบันทึกเรื่องราวไว้ในบล็อกส่วนตัวของผม อย่าลืมติดตามแวะเวียนเข้ามาอ่านนะครับ
สวัสดีเวียงป่าเป้า
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
หลักธรรมของนักบริหาร (๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๔)
หลักธรรม หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนับถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๒๕๕๐ กว่าปีแล้ว แต่ทุกหลักธรรมยังคงทันสมัยอยู่เสมอ สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องดำเนินชีวิตและแนวทางในการบริหารงานได้เป็นอย่างดี ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะหลักธรรมดังกล่าวเป็นความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ที่เรียกว่า “สัจธรรม” ปฏิบัติได้เห็นผลได้อย่างแท้จริงอยู่ที่เราจะนำหลักธรรมข้อใดมาใช้ให้เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด สำหรับนักบริหารก็มีหลักธรรมสำหรับยึดถือและปฏิบัติอย่างมากมาย ซึ่งได้นำเสนอไว้บ้าง เรื่องที่สำคัญดังต่อไปนี้
พรหมวิหาร ๔
เป็นหลักธรรมของผู้ใหญ่(ผู้บังคับบัญชา) ที่ควรถือปฏิบัติเป็นนิตย์ มี ๔ ประการ คือ
๑. เมตตา ความรักใคร่ ปราถนาจะให้ผู้อื่นมีความสุข
๒. กรุณา ความสงสาร คิดช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
๓. มุทิตา ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข
๔. อุเบกขา วางตนเป็นกลาง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เมื่อผู้อื่นถึงวิบัติ มีทุกข์
อคติ ๔
อคติ หมายความว่า การกระทำอันทำให้เสียความเที่ยงธรรม มี ๔ ประการ
๑. ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรักใคร่
๒. โทสาคติ ลำเอียงเพราะโกรธ
๓. โมหาคติ ลำเอียงเพราะเขลา
๔. ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
อคติ ๔ นี้ ผู้บริหาร/ผู้ใหญ่ ไม่ควรประพฤติเพราะเป็นทางแห่งความเสื่อม
ที่มา : http://bit.ly/j4Ic7C
พรหมวิหาร ๔
เป็นหลักธรรมของผู้ใหญ่(ผู้บังคับบัญชา) ที่ควรถือปฏิบัติเป็นนิตย์ มี ๔ ประการ คือ
๑. เมตตา ความรักใคร่ ปราถนาจะให้ผู้อื่นมีความสุข
๒. กรุณา ความสงสาร คิดช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
๓. มุทิตา ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข
๔. อุเบกขา วางตนเป็นกลาง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เมื่อผู้อื่นถึงวิบัติ มีทุกข์
อคติ ๔
อคติ หมายความว่า การกระทำอันทำให้เสียความเที่ยงธรรม มี ๔ ประการ
๑. ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรักใคร่
๒. โทสาคติ ลำเอียงเพราะโกรธ
๓. โมหาคติ ลำเอียงเพราะเขลา
๔. ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
อคติ ๔ นี้ ผู้บริหาร/ผู้ใหญ่ ไม่ควรประพฤติเพราะเป็นทางแห่งความเสื่อม
ที่มา : http://bit.ly/j4Ic7C
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ภาพที่ผมประทับใจ (๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๔)
สวัสดีวันหยุดครับ
วันนี้วันเสาร์แรม ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีเถาะ รัตนโกสินทรศก ๒๓๐ ตรงกับวันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว ๒๕๕๔ ปี ซึ่งก็เหมือนเดิมครับตามที่สัญญาไว้ว่าวันหยุดหรือวันที่ผมไม่มีกิจกรรมในงานใดๆ ก็จะนำเรื่องราวอื่นๆ มาเล่ามาบอกมาฝากกันแทนแล้วันนี้ผมก็ได้หยุดด้วยเลยต้องทำสัญญาหน่อย
ก่อนเขียน(พิมพ์) เรื่องราวนี้ผมไปเปิด mail ของตัวเองที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ซึ่งมีเยอะมากเลยทีเดียวครับในแต่ละวันหนึ่งในนั้นมีอยู่ท่านหนึ่งใช้ชื่อว่า pingpong ส่งข้อความที่อ่านแล้วประทับใจจริงๆ อดที่จะเก็บไว้คนเดียวไม่ได้จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดมาบอกต่อกันอีกทีหนึ่งข้อความมีดังนี้ครับ
วันนี้วันเสาร์แรม ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีเถาะ รัตนโกสินทรศก ๒๓๐ ตรงกับวันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว ๒๕๕๔ ปี ซึ่งก็เหมือนเดิมครับตามที่สัญญาไว้ว่าวันหยุดหรือวันที่ผมไม่มีกิจกรรมในงานใดๆ ก็จะนำเรื่องราวอื่นๆ มาเล่ามาบอกมาฝากกันแทนแล้วันนี้ผมก็ได้หยุดด้วยเลยต้องทำสัญญาหน่อย
ก่อนเขียน(พิมพ์) เรื่องราวนี้ผมไปเปิด mail ของตัวเองที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ซึ่งมีเยอะมากเลยทีเดียวครับในแต่ละวันหนึ่งในนั้นมีอยู่ท่านหนึ่งใช้ชื่อว่า pingpong ส่งข้อความที่อ่านแล้วประทับใจจริงๆ อดที่จะเก็บไว้คนเดียวไม่ได้จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดมาบอกต่อกันอีกทีหนึ่งข้อความมีดังนี้ครับ
มีสิ่งสำคัญอยู่ ๔ ประการที่อยู่เหนือการควบคุมของคุณ
ก้อนหิน...เมื่อขว้างมันออกไปแล้ว
ก้อนหิน...เมื่อขว้างมันออกไปแล้ว
คำพูด...เมื่อได้พูดออกไปแล้ว
เวลา...เมื่อหมุนผ่านพ้นไป
โอกาส...เมื่อได้สูญเสียมันไป
ทุกๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปอย่างนี้เสมอ
จะหลงเหลืออยู่บ้างก็เพียงร่องรอยของความทรงจำ
ฉะนั้นจงสร้างร่องรอยแห่งความทรงจำที่ดี
พูดบวก เพราะจะทิ้งร่องรอยแห่งความชื่นชม
ดูแลสุขภาพกาย/ใจให้ดีเพราะจะชราแต่งแข็งแรง
และจงสร้างความสำเร็จให้ชีวิต...เพราะยังมีโอกาส
นี่คือข้อความที่ประทับใจผมมากเลยทีเดียวก็ขอฝากไว้กับทุกๆ ท่านด้วยแล้วกันครับ
ขอบคุณคุณ pingpong มากนะครับ
พูดถึงข้อความประทับใจที่เพื่อนส่งมาให้แล้วก็นึกถึงภาพต่างๆ ที่ผมนำลงในบล็อกส่วนตัวตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ซึ่งมีอยู่น่าจะมากกว่า ๑๐,๐๐๐ ภาพก็เลยเปิดดูภาพเหล่านั้น ดูไปดูมามีอยู่มากเหมือนกันที่ประทับใจผม(อาจจะคนเดียวก็ได้) เลยขออนุญาตคัดเลือกบางส่วนมานำเสนอว่าภาพที่(ผม)ประทับใจนั้นมีอะไรบ้าง แต่ตรงนี้ต้องขอบอกแบบออกตัวหน่อยนะครับว่านั่นเป็นเพียงมุมมองของผมที่อาจจะไม่ตรงกับหลายๆ ท่านก็ได้ สำหรับภาพที่ผมขออนุญาตนำเสนอปรากฎด้านล่างนี้นะครับ
พูดถึงข้อความประทับใจที่เพื่อนส่งมาให้แล้วก็นึกถึงภาพต่างๆ ที่ผมนำลงในบล็อกส่วนตัวตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ซึ่งมีอยู่น่าจะมากกว่า ๑๐,๐๐๐ ภาพก็เลยเปิดดูภาพเหล่านั้น ดูไปดูมามีอยู่มากเหมือนกันที่ประทับใจผม(อาจจะคนเดียวก็ได้) เลยขออนุญาตคัดเลือกบางส่วนมานำเสนอว่าภาพที่(ผม)ประทับใจนั้นมีอะไรบ้าง แต่ตรงนี้ต้องขอบอกแบบออกตัวหน่อยนะครับว่านั่นเป็นเพียงมุมมองของผมที่อาจจะไม่ตรงกับหลายๆ ท่านก็ได้ สำหรับภาพที่ผมขออนุญาตนำเสนอปรากฎด้านล่างนี้นะครับ
ขอบคุณครับผม