วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ที่ ภ.จว.น่าน (๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ วันกึ่ีงกลางของสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือนที่ ๗ ในปี ๒๕๕๖ เร็วจริงๆ เลยและคิดว่าคงจะเป็นเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วมากๆ สำหรับพี่ๆ ที่จะเกษียณอายุราชการปีนี้ซึ่งยังเหลือเวลาอีกแค่ ๒ เดือนเท่านั้นเอง ดีที่เรายังเหลืออายุราชการอีกบานเบอะเลยไม่ต้องไปนึกถึงข้อนี้ นึกเพียงว่าทำงานอย่างไรให้ดีที่สุดก็พอ

งานอำนวยการแทบทุกวันจะเหมือนหรือคล้ายๆ กัน เป็นงานประเภท routine หรืองานประจำนั่นแหละ ไม่มีอะไรหวือหวาแต่ก็สำคัญเพราะหลายอย่างเกี่ยวข้องกับตำรวจแทบทุกคนรวมถึงพี่น้องประชาชนด้วยแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดเหมือนพี่น้องตำรวจที่อยู่โรงพักก็เถอะแต่ในหลายๆ มีความสัมพันธ์กันหมด เพราะฉะนั้นคนทำงานนี้ต้องละเอียดรอบคอบยิ่งเราอยู่ในฐานะคนคอยกำกับดูแลด้วยแล้วจะต้องให้ความสำคัญตรงนี้ให้มากเป็นพิเศษ ซึ่งวันนี้ก็ทำแบบทุกวันนั่นแหละ งานมีไม่มากนัก ทุกอย่างผ่านฉลุยด้วยวิธีการทำงานอย่างที่บอก

เสร็จจากงานประจำบนโต๊ะแล้วก็อาศัยเวลาว่างๆ ช่วงนั้นค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ในโลกไซเบอร์ผ่านจอสี่เหลี่ยมในห้องเพื่อหาอะไรต่อมิอะไรบางอย่างที่จะสามารถนำไปใช้งานซึ่งก็ได้เยอะแยะเหมือนกัน ของอย่างนี้ยิ่งอ่านยิ่งรู้ ยิ่งดูยิ่งเพิ่มพูนปัญญาครับ
ภาพซ้ายมือเป็นภาพห้องเทคโนโลยีและสารสนเทศ ภ.จว.น่านซึ่งผมเข้าไปเยี่ยมเยียนและเซ็นงานที่รับผิดชอบกันที่นี่เลย เพราะเหตุที่ตัวเองไม่ค่อยชอบนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วให้เจ้าหน้าที่นำงานมาเสนอ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเดินเข้าไปหาเขาซะที่ห้องทำงานเลย ดูงานที่เขาทำ ถ้าถูกต้องก็เซ็นผ่านแต่หากยังบกพร่องหรือต้องแก้ไขเพิ่มเติมก็จัดการซะในห้องนั้นเลย แบบนี้งานเดินและมีประสิทธิภาพมากกว่าการให้เจ้าหน้าที่เขานำมาเสนอเราที่ห้องนะผมว่า

อนึ่ง วันเดียวกันนี้เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงษ์สามี ผบก.ภ.จว.น่านได้เชิญข้าราชการตำรวจในสังกัดที่จะครบเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณนี้ประชุมที่ห้อง ศปก.ภ.จว.น่านเพื่อขอบคุณที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีตลอดเรื่อยมาจวบจนวันสุดท้ายของอายุราชการ (ภาพทั้งหมดในส่วนนี้)

ภาคเย็น
เย็นนี้หลังจากเลิืกงานที่ ภ.จว.น่านแล้วผมเดินทางกลับไปที่ที่พัก สภ.แม่จริม (เมื่อคืนพักที่น่าน) อย่างว่าแหละครับที่แม่จริมนี่เป็นเมืองเล็กๆ ตลาดร้านรวงแทบไม่มี ยิ่งตอนเย็นด้วยแล้วหากใครไม่รีบไปหาข้าวปลาที่ตลาดทานก่อนหกโมงเย็นหรือเลยกว่านั้นนิดหน่อยก็ต้องไปหุงหาอาหารทานเองที่บ้าน แต่ส่วนใหญ่ผมจะเลือกการหุงข้าวทานเองโดยกับข้าวหาซื้อที่ร้านค้าเล็กๆ หน้า่โรงพักนั่นแหละ ถูกด้วย ๑๐ บาท ๒๐ บาทก็ซื้อได้แล้ว เย็นนี้ก่อนเข้าที่พักซื้อกับข้าวไป ๒ อย่างๆ ละ ๒๐ บาทบวกมาม่าไว้กินยามหิวกลางคืนอีก ๒ ซองๆ ละ ๕ บาท สนนราคาสำหรับอาหารมื้อนี้ก็ตก ๕๐ บาท สบายมากครับ ในส่วนของข้าวใช้วิธีหุงเอง ใครจะทำแบบผมก็ได้นะไม่สงวนลิขสิทธิ์

อาบน้ำอาบท่า ทานข้าวทานปลาเรียบร้ือยแล้วก็ไปยังที่หมายเหมือนกับทุำกครั้งนั่นก็คือโรงพักแม่จริมครับ อยู่ที่นี่กลางคืนไม่มีอะไรท่องเที่ยวหรอก ตกเย็นหน่อยพี่น้องเขาก็เข้าบ้านกันแล้ว บ้านใครบ้านมัน สถานบริการ สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนไม่ต้องถามถึงไม่มีแล้วก็ไม่เคยมีมาตั้งนานแล้วด้วย ดีเหมือนกัน ประหยัด ปลอดภัย ครอบครัวอุ่นใจโขเลย

ที่โรงพักคืนนี้ไม่มีพี่น้องมาใช้บริการ ห้องขังก็ไม่มีผู้ต้องหาสักคน นี่สิดีมาก ผู้ต้องหาไม่มีก็ไม่มีการกระทำผิด สังคมมีความสุข พี่น้องมีความปลอดภัยเป็นยอดปรารถนาของตำรวจเราอยู่แล้ว แต่...ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามโรงพักหรือสถานตำรวจจะต้องมีตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง คืนนี้ผู้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพักก็มีสิบเวรคนหนึ่ง พนักงานวิทยุคนหนึ่ง แล้วก็พนักงานสอบสวนเวร แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนคืนนี้น้องๆ เขาขยันมาเข้าเวรคนหนึ่งอีกคนหนึ่งมาสะสางงาน เห็นแล้วดีใจครับที่น้องๆ เขาขยันดี สองคนที่ว่าก็คือ (ภาพจากซ้ายไปขวาครับ) คนแรก ร.ต.ท.กฤษดิกร กันบุญ อีกคนคือ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ มีึชัย พนักงานสอบสวน สภ.แม่จริมคนขยันของเรา สุดยอดเลยน้อง

ใช้เวลาว่างช่วงนี้รวบรวมผลการปฏิบัติครึ่งปีงบประมาณหลัง (เมษายนถึงตุลาคม) เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาซึ่งจะมีการแจ้งให้ดำเนินการในเร็วๆ นี้ แต่ของผมไม่มีปัญหาครับเพราะผมบันทึกการทำงานไว้ทุกเรื่้อง ทุกช็อตในบล็อกส่วนตัว 
http://supote2503.blogspot.com/ แล้วก็เอาข้อมูลเรื่องราวรายละัเอียดในบล็อกนั่นแหละ copy ไปวางไว้ใน word อีกที ประมาณว่านายให้ส่งเมื่อไรสุพจน์มัจฉาพร้อมทันที อ้ะอ๊า

ภาพด้านล่างนี้เป็นภาพที่เฟสบุ๊ค "โรงพักเพื่อประชาชนทั่วไทย" https://www.facebook.com/police.station191?fref=ts เขากรุณานำภาพการทำงานของผมไปลงเผยแพร่ต่อก็ต้องขอบคุณมากเลยครับ ภาพนี้เป็นภาพสมัยผมรับราชการอยู่ที่ สภ.พาน จ.เชียงรายครับเลยขออนุญาตนำมาบันทึกไว้ในบล็อกนี้อีกทอดหนึ่ง

ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งเมื่อครั้งผมออกตรวจหน่วยบริการประชาชนตำบลหัวง้มและพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนนักเรียนเขตตำบลหัวง้ม อำเภอพาน เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ http://supote2503.blogspot.com/2011/11/blog-post_7258.html


ปิดท้ายก่อนนอนด้วยภาพโรงพักแม่จริมยามค่ำคืน ขอให้พี่น้องทุกท่านนอนหลับฝันดีโดยทั่วกัน

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับผม


วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ร่วมประชุม Video conference (๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น.เป็นต้นไป ผมเข้าร่วมประชุมด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video conference) ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.น่าน การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดให้มีขึ้นพร้อมกับหน่วยงานตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศโดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นประธาน ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้บังคับบัีญชาชั้นผู้่ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ภาค/กองบัญชาการ,สถานีตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง และสำหรับในส่วนของ ภ.จว.น่านนั้น พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบก.ภ.จว.น่านพร้อมนายตำรวจฝ่ายอำนวยการเข้าร่วมประชุม
ระเบียบวาระการประชุมครั้งนี้มีดังนี้
๑. เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
๒. หน่วยงานระดับภาค/กองบัญชาการรายงานเหตุการณ์และสถานการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
๓. ข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชาระดับสูง
๔. สรุปและข้อสั่งการของประธาน
เสร็จสิ้นการประชุมในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น.หลังจากนั้นเป็นการประชุมในส่วนของตำรวจภูธรภาค ๕ ซึ่ง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.๕ เป็นประธานจนถึงเวลาประมาณ ๑๑.๑๕ น.จึงเสร็จสิ้ันการประชุม

ช่วงพักเที่ยงวันนี้ก็เหมือนทุกวันทำการที่ผ่านมานั่นแหละพวกเราตำรวจฝ่ายอำนวยการ ภ.จว.น่านทานอาหารกลางวันฟรีกันที่นี่ อร่อย ฟรี ถูกหลักอนามัย สนับสนุนโดยท่านผู้การ พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงษ์สามี ขอบคุณนะครับท่าน

ช่วงบ่ายถึงเวลาทำงานก็ทำกันต่อแบบสนุกๆ สบายๆ กับมันแล้วจะรู้สึกว่างานมันสบายๆ และสนุกๆ ด้วยครับ

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ภารกิจวันนี้ (๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้วันจันทร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่ ๗ แห่งศักราชนี้ผมมาทำงานอำนวยการที่ ภ.จว.น่านตามปกติแล้วหลังจากไม่ได้มาทำงานเสียอาทิตย์เศษๆ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีวันหยุดนักขัตฤกษ์ ๒ วันส่วนอีก ๓ วันป่วยต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพะเยา
ที่ตัวเมืองน่านวันนี้ฝนตกลงมาต้องใช้คำว่าทุกที่ทุกแห่งไม่มีเว้นก็ได้ บนท้องฟ้าไม่เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีเดียว เห็นอยู่อย่างเดียวคือเมฆก้อนใหญ่สีดำทะมึนอยู่เต็มไปหมด ดูข่าวคราวจากหลายๆ สำนักรายงานว่าหลายอำเภอของจังหวัดน่านเรามีน้ำท่วมจำนวนมาก เช่น ท่าวังผา,ปัว ฯ ขณะนี้หน่วยราชการรวมถึงตำรวจเราออกไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกันแล้วครับ (ในภาพประกอบเป็นน้ำท่วมเขตพื้นที่อำเภอปัวซึ่ง พ.ต.อ.จำเริญ หวลธรรม ผกก.ฯ กับเจ้าหน้าที่ออกตรวจและช่วยเหลือพี่น้องตามหน้าที่ : ภาพทั้งหมดในส่วนนี้คลิกที่นี่ครับ)

งานในหน้าที่วันนี้ซึ่งผมรับผิดชอบงานศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.),เทคโนโยลีและการเงิน,งานป้องกันปราบปรามและงานจราจรมีมาตามปกติครับ สบายๆ ทำงานไปทักทายพูดคุยกับน้องๆ เขาไปท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างเย็นโดยไม่ต้องเปิดแอร์ให้เปลืองไฟเปลืองสตางค์ อันดีดีครบถ้วนถูกต้องก็เซ็นผ่าน ถ้ายังไม่ครบก็แนะนำ ให้เพิ่มเติมกันตรงนั้น เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็นำเสนอผู้บังคับบัญชา งานแบบนี้ไม่มีอะไรยากครับ

ใกล้ๆ เที่ยงวันวันนี้ได้รับวุฒิบัตรซึ่งตำรวจภูธรภาค ๕ ส่งมาทางไปรษณีย์ ๑ ฉบับ วุฒิบัตรนี้เป็นเรื่องที่ผมผ่านการอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเมื่อวันที่ ๔ เมษายนที่ผ่านมาซึ่งการอบรมครั้งนั้นพวกเราทำการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค ๕ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปางครับ (รายละเอียดของการอบรมคลิกดูได้ที่นี่)





ถึงเวลาพักเที่ยงลงไปทานอาหารกลางวันที่ ผบก.ภ.จว.น่านจัดเลี้ยงตามปกติด้านล่างอาคารที่ทำการ แต่วันนี้ทานไม่ค่อยลง ไม่ใช่อาหารไม่อร่อย อร่อยดีครับ อร่อยมากด้วย แต่อาจเป็นเพราะเราเพิ่งจะฟื้นไข้ใหม่ๆ ก็ได้ ไม่เป็นไร ทานไม่ค่อยลงก็ต้องฝืนทานเอาหน่อยจะได้หายเร็วๆ

ตอนบ่ายทำงานต่อท่ามกลางสายฝนแต่ไม่มีปัญหาสำหรับพวกเราอยู่แล้วครับ สบายมากเรื่องพรรค์นี้ อยู่ใต้ฟ้าจะไปกลัวอะไรกับฝน ฝนเป็นเรื่องธรรมชาติ สำหรับเหตุที่ไม่กลัวก็นี่เลย...เราทำงานกันในห้องครับไม่ได้ออกไปตากซะหน่อย (ฮา) ทำไปทำไปจนถึงเวลาเลิกงานผมก็เดินทางกลับไปที่พักที่ สภ.แม่จริมซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ ๓๘ กิโลเมตรท่ามกลางสายฝนโปรยปรายมาตลอดทาง ขับรถควบคุมรถค่อนข้างลำบาก ใช้เวลาราว ๕๐ นาทีก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย



ภาคกลางคืนที่แม่จริม

หลังจากกลับถึงที่พักที่แม่จริม อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็เดินจากที่พักมาที่โรงพักครับ ไม่อยากปล่อยเวลาว่างให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ดูโน่นดูนี่อะไรหลายอย่างที่คิดว่าน่าจะสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานหรือแม้แต่ในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงตรวจตราดูแลเจ้าหน้าที่เวรยามซึ่งเข้าเวรวันนี้ว่าเขาอยู่กันครบถ้วนหรือไม่ มีปัญหาติดขัดบ้างไหม ถ้ามีจะได้ช่วยกันแก้ไขปรับปรุง สนุกดีครับ ชีวิตนี้
คืนนี้ออกจาก สภ.แม่จริมกลับไปที่พักซึ่งอยู่ด้านหลังราว ๒๐ เมตรเมื่อเวลาประมาณ ๔ ทุ่มครึ่งเศษๆ โดยก่อนไปนอนสิ่งที่ลืิมไม่ได้ก็คือ update ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของตำรวจน่านเราลง Facebook ภ.จว.น่าน (https://facebook.com/nan.police5) เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทีฆายุโก โหตุ มหาวชิราลงกรณ (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า พ.ต.ท.สุพจน์ นางนภาพัน นางสาวปัทมาพร มัจฉา

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลาป่วย (๒๔-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ป่วยเป็นไข้เลือดออก หมอให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเสีย ๓ วันเต็มๆ เฮ้อ เพิ่งรู้ครับว่าการป่วยการไข้เนี่ยมันไม่สบายแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะ คนเราถึงไ่ม่นิยมป่วยกัน พี่น้องว่าเหมือนผมไหม

ชายคนหนึ่งไม่สบายจึงไปหาหมอ หลังจากหมอซักถามรายละเอียดอะไรต่างๆ แล้วก็บอกชายคนนั้นว่า
"เท่าที่ดูจากเวลาตกฟาก ฤกษ์ผานาทีที่เริ่มเป็นไข้ ช่วงลัคนาเล็งราหูแบบนี้แล้วหมอฟันธงเลยว่าคุณไม่รอดแน่ๆ ที่มาหาผม....เพราะผมเป็นหมอดู...ไม่ใช่หมอรักษาคน"

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สวัสดีวันหยุด (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้วันเข้าพรรษาประจำปี ๒๕๕๖ วันหยุดสำหรับหลายๆ ท่านแต่บางคนหยุดไม่ได้ครับเพราะมีหน้าที่สำคัญอย่างภาพเหล่านี้ สุดยอดจริงๆ ใครเนี่ย?

ล้างรถซะเอี่ยม ประมาณมืออาชีพก็ไม่ปาน



บ้านช่องห้องหอจัดการซะสะอ๊าดสะอาด

ขอให้มีความสุขกับวันหยุดโดยทั่วกันนะครับ

สวัสดีวันเข้าพรรษา (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้วันอังคารแรมค่ำ ๑ เดือน ๘ ปีมะเส็ง รัตนโกสินทรศก ๒๓๒ ตรงกับวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว ๒๕๕๖ ปีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งนั่นก็ํคือ "วันเข้าพรรษา" ซึ่งพระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนด ๓ เดือนตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่นหรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่าจำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่าพักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรมค่ำ ๑ เดือน ๘ ของทุกปี (หรือเดือน ๘ หลังถ้ามีเดือน ๘ สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือวันออกพรรษา

ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดทั้ง ๓ เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งสิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ คือมีการถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ด้วยเพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา

ในอดีตชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนเมื่ออายุครบบวชจะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง ๓ เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า "บวชเอาพรรษา" นอกจากนี้ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็น "วันงดดื่มสุราแห่งชาติ" โดยในปีถัดมายังได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันห้ามขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยตั้งสัจจะอธิษฐานงดการดื่มสุราในวันเข้าพรรษา และในช่วง ๓ เดือนระหว่างฤดูเข้าพรรษาเพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีให้แก่สังคมไทย ก็ขอชวนเชิญทุกท่านลด ละ เลิกอบายมุขสิ่งมั่วเมาทั้งหลายทำจิตใจให้เป็นกุศลตลอดช่วงเข้าพรรษานี้รวมถึงหากมีเวลาก็อย่าลืมเข้าวัดเข้าวาฟังเทศน์ฟังธรรม ทำบุญ รวมถึงน้อมนำเอาธรรมะคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นหลักหรืิอแนวทางในการดำเนินชีวิตกันด้วยนะครับ

สวัสดีวันเข้าพรรษา

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สวัสดีวันอาสาฬหบูชา (๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้วันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ปีมะเส็ง รัตนโกสินทรศก ๒๓๒ ตรงกับวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งนั่นก็คือวันอาสาฬหบูชาซึ่งเป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ

ในการแสดงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ ๒ ประการคือ
ก. มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลาง ๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด ๒ อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ
๑. การหมกหมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่า เป็นการหลงเพลิดเพลินหมกหมุ่นในกามสุข หรือ กามสุขัลลิกานุโยค
๒. การสร้างความลำบากแก่ตนดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น การดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค
ดังนั้นเพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ ๘ ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ ๘ ได้แก่
๑. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง
๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม
๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต
๔. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต
๕. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต
๖. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี
๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด
๘. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน
ข. อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่
๑. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด
๒. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ
๓. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา
๔. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห้งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ ประการดังกล่าวข้างต้น

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญเดือน ๘ คือ
๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา
๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์
๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว
๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า
เนื่องในวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนาวันนี้ขอเชิญชวนทุกท่านน้อมนำเอาคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นแนวทางปฏิืบัติในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยพร้อมเพรียงกันด้วยนะครับ

สวัสดีวันอาสาฬหบูชา

ช่วงเย็นวันนี้พาครอบครัวไปบ้านคุณตาคุณยายที่บ้านสันโค้งหลวง หมู่ ๒๔ ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ไปถึงก็เลยถือโอกาสโชว์ฝีมือซะหน่อย น่าจะอร่อยนะเนี่ย

อีกพักหนึ่งเด็กๆ ลูกๆ หลานๆ มากันครบทีมจึงทานอาหารร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจร่วมมวลชนสร้างความสุขชุมชน : โลกตำรวจ โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

ตำรวจปริญญาเอกคือหนังสือเล่มสำคัญที่อาจใช้ในการสร้างความรู้ด้านยุทธวิธีในการเพิ่มมุมมองเพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลที่ลึกซึ้ง เพื่อให้ "เข้าใจตำรวจ" ในบริบทการทำงานที่แท้จริงของตำรวจไทย ที่นับได้ว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่สำคัญของทีมงานสื่อสารองค์กรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (มีหรือไม่?) การประชาสัมพันธ์องค์กรเป็นภารกิจที่สมควรทำมากกว่าการประชาสัมพันธ์ตำรวจรายบุคคลดังเช่นที่เรามักพบภาพนายตำรวจบนป้ายข้างทางจนดูราวกับว่าท่านเตรียมตัวสร้างความคุ้นเคยให้ประชาชนจดจำชื่อของตำรวจท่านนั้นแต่เพียงเท่านั้น มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ประการใดต่อองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหมายถึงเหล่าพลพรรคตำรวจกว่า ๒ แสนชีวิต

การสื่อสารองค์กรเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนนี้ จะก่อให้เกิดคุณูปการที่แง่ของการเพิ่มทุนทางสังคมให้แก่เพื่อนตำรวจร่วมอาชีพด้วย การที่ตำรวจมีต้นทุนทางสังคมที่ต่ำ (พิจารณาจากความรู้สึกที่แสดงออกในรูปแบบต่างๆ ของประชาชนที่มีต่อตำรวจไทย) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจ ขวัญและกำลังใจในการทำงาน และสุขภาพจิตของตำรวจไทยตำรวจไทยจำนวนไม่น้อยมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากบริบทของการทำงานและวิถีชีวิต (ที่วุ่นวายสับสนระหว่างงานและครอบครัวอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า work-family conflict)

ข้อถกเถียงท้าทายระหว่างนักวิชาการกับตำรวจผิวสีในหนังสือตำรวจปริญญาเอกในประเด็นที่ว่า "ความก้าวร้าวของตำรวจเกิดขึ้นจากบริบทของการทำงานหรือมาจากคุณลักษณะนิสัยหรือบุคลิกภาพที่ติดตัวมาก่อนที่จะมาเป็นตำรวจกันแน่?” ผ่านบทพิสูจน์ด้วยการท้าทายให้นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิที่เคยมองด้วย "มุมคนนอก” (outsider view) ลองมาสัมผัสและเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานในบริบทการทำงานของตำรวจเพื่อเพิ่มพื้นที่และเปิด "มุมมองแบบคนใน" (insider view)...บริบทของการทำงานที่เลวร้าย ส่งผลให้บุคลิกภาพผู้ปฏิบัติงานเปลี่ยนไป อย่างเช่นใช้ความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยกระทำมาก่อน อารมณ์เสีย โกรธ หงุดหงิดง่าย เป็นต้น

นอกเหนือจากการทำงานจะส่งผลต่อความก้าวร้าวแล้วนั้น ยังส่งผลต่อความชาชิน คุ้นเคยกับปรากฏการณ์ความรุนแรง ประกอบกับการมีความขาดแคลนทรัพยากรในการทำงาน ส่งผลให้ตำรวจส่วนหนึ่งมีพฤติกรรมนิยมใช้วิธีการใส่เกียร์ว่าง ไม่ใส่ใจ ไม่ใช้ความพยายามในการสืบสวน สอบสวน ปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเพื่อรับโทษตามกฎหมาย และยังไม่นับรวมถึงการป้องกันอาชญากรรมที่ได้รับความสนใจติดตามงานน้อยกว่างานปราบปรามด้วย นอกจากนี้การปล่อยให้ระบบคุณธรรมในการบริหารงานตำรวจถูกแทรกแซงจนขาดอิสระในการดำเนินการจนไม่สามารถสร้างศรัทธา ความมั่นใจ ความไว้วางใจแก่ตำรวจว่า "เมื่อตั้งใจทำงาน ทำดีแล้วจะได้ดีส่งผลให้ความกระตือรือร้นในการทำงาน ความมุ่งมั่นที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชนกลายเป็นการทำงานเพียงแค่พอผ่าน

แต่ถึงกระนั้น สังคมไทยก็ยังเห็นภาพของตำรวจส่วนหนึ่งที่มีหัวใจของความเป็นตำรวจ ดังเช่นดาบตำรวจ สถานีตำรวจอุทัย พระนครศรีอยุธยา เป็นตำรวจจราจรแต่กลับสวมหัวใจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์วิ่งไล่จับโจรลักสายไฟจนหัวใจวาย หมดสติ อาการโคม่าเนื่องมาจากมีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่เดิม เป็นต้น หรือบ่อยครั้งที่ตำรวจสื่อสารถึงดิฉันผ่านการเล่นไลน์ (Line) เพื่อคลายเครียดในการทำงานว่า "อาจารย์คร้าบผมไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้ว" นายบอกว่า "ถ้ามึงจับตัวมันมาไม่ได้มึงก็ไม่ต้องกลับมานายที่ดีลูกน้องก็พร้อมจะทุ่มเททำงานอย่างที่สุดเช่นกัน!!!

ภาพสติกเกอร์ในระบบไลน์ที่ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผู้บังคับการตำรวจพระนครศรีอยุธยา รวมถึงเหล่าบรรดาผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ ส่งเชียร์ให้กำลังใจลูกน้องที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างเข้มแข็ง หรือในบางคราวการสั่งการให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดและเข้มแข็งเพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ หรือการรายงานเหตุอย่างชัดเจนเพื่อนำข้อมูลมาใช้เพื่อวิเคราะห์วางแผนงานเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำนั้น แสดงให้เห็นการทำงานเป็นทีม การมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกัน และวินัยในการทำงานของเหล่าบรรดาตำรวจราจรมดงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญ...นายและลูกน้องร่วมสร้างความสุขในการทำงาน

การทดลองก้าวเข้าไปสู่โลกของระบบไลน์ของทีมงานตำรวจจราจรพระนครศรีอยุธยาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย (biological clock) ของดิฉันปั่นป่วนอันเนื่องมาจากการติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันทั้งคืนของเหล่าบรรดาตำรวจ...จะมีประชาชนสักกี่คนที่รับรู้ว่า ตำรวจทำงานอย่างไร? บริหารเวลาในการทำงานอย่างไร? ความกดดันและข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเงื่อนไขบริบทการทำงานเป็นอย่างไร? บริบทดังกล่าวส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อตำรวจอย่างไร?

โครงการตำรวจร่วมมวลชนลดอาชญากรรมที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นอีกโมเดล (แบบจำลอง) หนึ่งที่อาจเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสโลกของตำรวจในรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นผู้ช่วยตำรวจที่ทำงานแบบอาสาสมัคร หากแต่มีคุณค่าและความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของกระบวนการทำงานร่วมกันที่สามารถทำให้ทั้งตำรวจและประชาชนมีความสุขในการร่วมสร้างชุมชนที่ปลอดภัย ร่วมสร้างความเข้าใจความเป็นตำรวจ ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าเลือกในการทำงานท่ามกลางความขาดแคลนทรัพยากรการบริหารงานและภาวะการมีต้นทุนทางสังคมที่ต่ำ (เกินจริง) ในโลกของตำรวจ!!

ที่มา : http://goo.gl/OlTJh

สวัสดีวันหยุด (๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

ไม่หวังลาภ ยศศักดิ์ มากกว่านี้
ขอเพียงได้ ทำหน้าที่ พิทักษ์สันติ์
บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ขจัดพาล 
ดั่งที่ตั้ง ปณิธาน เท่านั้นพอ

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลากิจส่่วนตัว (๑๗-๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ กรกฎาคมนี้ผมลากิจส่วนตัว ๓ วันจึงไม่มีกิจกรรมเกี่ยวกับงานในหน้าที่มาบันทึกไว้ครับ

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ที่ ภ.จว.น่าน (๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้ทำงานอำนวยการที่ ภ.จว.น่านเหมือนเดิมครับ มาถึงที่ทำงานก่อนใครเพื่อนซะอีก นี่ถ้าเป็นสมัยตอนเด็กๆ และถึงโรงเรียนก่อนเพื่อนก็จะแซวคนซึ่งมาทีหลังว่า "เย้ เขาชนะตัวเอง เขามาก่อน" แน่นอนเลย แต่ตอนนี้โตแล้ว (เริ่มแก่ด้วย ฮา) จึงทำแบบนั้นไม่ได้เดี๋ยวน้องๆ เขาจะหาว่าคนอะไร้ไม่เจียมสังขาร อ้ะอ๊า ก็เลยเฉยๆ









อย่างว่าแหละ มาถึงที่ทำงานก่อนเขาแล้วยังไม่ถึงเวลาทำงานด้วย พอดี๊พอดีแม่ค้าขายล็อตเตอรี่เขาเอาโชคมาให้จึงอุดหนุนไป ๑ ใบ คือแบบว่าเราเป็นคนไม่โลภน่ะ ไม่เอาหรอกประเภทซื้อทีละ ๑๐ ใบ ๒๐ ใบเหมือนคนอื่น เปลืองตังค์ด้วย ผมซื้อใบเดียวก็พอ (แต่ในใจอธิษฐานขอรางวัลที่ ๑+แจ็ตพอต ๓๔ ล้าน แหม ถ้าเป็นจริงก็เป็นเสี่ยพจน์เลยนะเนี่ย เฮ้อ ขอให้เป็นจริงเทอะ เจ้าประคู้ณ)




งานวันนี้สบายๆ ไม่มีอะไรยาก แล้วก็ไม่มากด้วย น้องๆ เขาทำเสร็จเราตรวจทานดูความเรียบร้อย พอเห็นว่าทุกอย่าง OK ก็นำเสนอผู้บังคับบัญชาครับ

เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจจราจรดีเด่นที่ห้อง ศปก.ภ.จว.โดย พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล รอง ผบก.ภ.จว.น่านเป็นประธาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่สมัครใจขอรับการคัดเลือกจำนวน ๓ คนจาก สภ.เมืองน่าน,สภ.เชียงกลาง และ สภ.ท่าวังผา การประชุมพวกเราได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและดีที่สุด ๑ คน โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกนั้นจะถูกเสนอชื่อไปยังตำรวจภูธรภาค ๕ ในนามของตำรวจจังหวัดน่านเพื่อพิจารณาในส่วนนั้นต่อไป

เสร็จสิ้นการประชุมเมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. หลังจากนั้นก็ทำงานต่อครับ
ช่วงพักเที่ยงได้เวลาทานอาหารกลางวันก็ทานกับตำรวจ ภ.จว.น่านเขาที่นี่นี่แหละ อาหารก็ใช้ได้ อร่อย สำคัญคือฟรีครับเพราะท่านผู้การ (พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงษ์สามี) จัดเป็นสวัสดิการแก่พวกเรา ขอบคุณนะครับนาย

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ที่ ภ.จว.น่าน (๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖)

วันนี้วันจันทร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มาทำงานที่ ภ.จว.น่านถึงที่ทำงานในเวลาปกติไม่ขาดไม่เกิน อากาศที่เมืองน่านเช้านี้บนท้องฟ้ามีเมฆครึ้มเป็นส่วนใหญ่ บางที่บางแห่งมีฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ด้วยแล้ว เย็นสบายดี

ช่วงเช้่างานที่รับผิดชอบยังไม่มีอะไร อาจจะเป็นเพราะวันแรกของสัปดาห์หรืองานยังไม่เข้ามาก็ได้ รออีกสักพักงานก็เข้ามาตามปกติแต่ไม่มาก ๒-
๓ เรื่อง ใช้เวลาแป๊บเดียวเสร็จนำเสนอผู้บังคับบัญชาได้เลย

ต่อมาเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.เข้าร่วมประชุมด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพหรือ Video conference ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.ฯ ซึ่งวันนี้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมซึ่งหน่วยงานตำรวจทุกแห่งเข้าร่วมประชุม ณ ที่ตั้งของตนเอง ในส่วนของ ภ.จว.น่านนั้น พ.ต.อ.สิรภพ พุ่มเฉลิม รอง ผบก.ฯ ,ผม และเจ้าหน้าที่งานอำนวยการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมครั้งนี้เสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ ๑๒.๒๐ น.
สำหรับภารกิจอื่นๆ นอกเหนือจากงานประจำในวันนี้ก็นี่ครับเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.ผมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานจราจรและงานป้องกันปราบปราม ภ.จว.น่านประชุมเกี่ยวกับงานในอำนาจหน้าที่ที่ห้องประชุมย่อยซึ่งอยู่ที่ชั้น ๒ ของอาคารที่ทำการ ภ.จว.ฯ (หน้าห้องทำงานผม) การประชุมวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับปรุงและนำเทคนิคการทำงานยุคใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ในยุคโลกไซเบอร์นั่นเองครับ ในขณะเดียวกันน้องๆ เจ้าหน้าที่เขาก็มีข้อเสนอแนะข้อคิดเห็นใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วยซึ่งคิดว่าต่อไปงานของเราคงจะทันสมัยและใหม่เสมอ ทันยุค ทันเหตุการณ์และทันโลกปัจจุบันได้อย่างแน่นอน สำหรับการประชุมครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาทีครับ

อนึ่ง วันนี้เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.๕ และคณะเดินทางมาตรวจราชการ ภ.จว.น่านโดยช่วงแรกได้ชมการสาธิตการปฏิบัติของชุมควบคุมฝูงชน ณ สนามศูนย์ราชการจังหวัดน่านหลังจากนั้นเดินทางไปประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจระดับหัวหน้าสถานีตำรวจขึ้นไป ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.น่าน

สำหรับข้อสังการของ รอง ผบช.ภ.๕ ในการประชุมครั้งนี้สรุปได้ดังนี้
๑. ห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิดโดยเด็ดขาด
๒. สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ความประพฤติอย่าสุ่มเสี่ยง ล่อแหลม ผิดกฎหมาย เคร่งครัดวินัย
๓.ปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วน
๔. หาโครงข่ายอาสาสมัคร ตำรวจอาสา ตำรวจบ้านเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจเราในการปฏิบัติหน้าที่
<< ภาพทั้งหมด >>