วันนี้วันเสาร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๓ ปีขาล รัตนโกสินทร์ศก ๒๓๐ ตรงกับที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว ๒๕๕๔ ปี วันหยุดสำหรับหลายๆ ท่านซึ่งคงจะมีพี่น้องเดินทางไปที่ต่างๆ กันพอสมควร ก็อยากจะฝากไว้เหมือนเดิมครับเดินทางไปไหนมาไหนอย่าลืมใส่ใจ เคารพและปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
วันนี้ผมขอนำเรื่องทิศทางการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาบันทึกไว้หน่อยซึ่งข้อมูลนี้ผมนำมาจากเว็บไซต์สำนักงานเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่นำออกประกาศเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ผ่านมาและเห็นว่าคงจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอยู่บ้างตามสมควรจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ในบล็อกของผมอีกต่อหนึ่ง เรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้
พล.ต.ท. สมเดช ขาวขา ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชี้แจงว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อนุมัติให้สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกองตำรวจสื่อสารจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ทิศทางการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ขึ้นในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐–๑๖.๓๐ น. ณ สโมสรตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการระดมสมองและนำความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไปใช้ในการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ เพื่อบริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๖ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่บริการประชาชนพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนในลักษณะ Call Center ขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้พัฒนาปรับปรุงระบบแจ้งเหตุทางโทรศัพท์สายด่วน ๑๙๑ ซึ่งหน่วยงานตำรวจบางแห่งนำมาใช้งานและเป็นที่จดจำของประชาชนทั่วไปอยู่แล้วให้เป็นศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ของตำรวจภูธรจังหวัดในแต่ละจังหวัดเพียงแห่งเดียว และเป็นศูนย์ที่สามารถควบคุมสั่งการปฏิบัติได้อย่างมีเอกภาพ โดยได้มอบให้กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการมาตามลำดับดังนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้รับงบประมาณตามโครงการฯ ระยะที่ ๑ จัดตั้งให้กับตำรวจภูธรจังหวัดจานวน ๑๐ แห่งได้แก่ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก นครปฐม สุราษฎร์ธานี และสงขลา
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับงบประมาณตามโครงการ ฯ ระยะที่ ๒ จัดตั้งให้กับตำรวจภูธรจังหวัดจำนวน ๑๐ แห่ง ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด เชียงราย นครสวรรค์ กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช และพัทลุง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับงบประมาณตามโครงการ ฯ ระยะที่ ๓ จัดตั้งให้กับตำรวจภูธรจังหวัด จานวน ๕ แห่ง ได้แก่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต และนราธิวาส
ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับงบประมาณตามโครงการ ฯ ระยะที่ ๔ จัดตั้งให้กับตำรวจภูธรจังหวัด จานวน ๕ แห่ง ได้แก่ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี กาฬสินธุ์ เพชรบูรณ์ ราชบุรี และปัตตานี
สาหรับในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ ได้ตั้งคำของบประมาณตามโครงการ ฯ ระยะที่ ๕ เพื่อจัดตั้งให้กับตำรวจภูธรจังหวัดที่เหลืออีก ๔๖ แห่งเพื่อให้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ
ในการปรับปรุงศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ นี้มีเป้าหมายให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินทางโทรศัพท์สายด่วนหมายเลข ๑๙๑ เพียงหมายเลขเดียวเท่านั้น ณ ที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ เมื่อแจ้งเหตุในเขตพื้นที่จังหวัดใดก็จะเรียกเข้าศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ในจังหวัดนั้น ประชาชนจะไม่สับสนในการใช้หมายเลขโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินอีกต่อไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าไปช่วยเหลือหรือระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพราะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินที่สูญเสียไป
ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแบบใหม่นี้ได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Data Processing) เช่นเดียวกับ ศูนย์ Call Center ของภาคเอกชนมาใช้ โดยระบบจะจัดการเสียงและข้อมูลแจ้งเหตุในรูปแบบดิจิตอลส่งผ่านไปยังสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่มีสาเหตุจากบุคคลและอุปกรณ์ในการจดบันทึกเหตุและการประสานงานที่ไม่ชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถสืบค้น รวบรวมข้อมูล ทั้งฐานข้อมูลบุคคล แผนผังสถานที่ในจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และที่สำคัญประชาชนสามารถตรวจสอบการทางานของเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา
ในการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ แบบใหม่นี้ สานักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มอบให้สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้นในครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทางการพัฒนาที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการประชาชนต่อไปครับ นั่นก็คือทิศทางการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ของตำรวจเราที่ต่อไปจะใช้ระบบเดียวกันทั่วทั้งประเทศเพื่อความสะดวกในการแจ้งเหตุของพี่น้องประชาชน
อนึ่ง ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นมา รายละเอียดท่านสามารถคลิกดูได้ที่นี่นะครับ
ขอบคุณครับผม
ข้อโทรนะครับ ณ เวลา 12.00-13.00 ตำรวจหายหัวไปไหนหมดคับ บอกว่ารับแจ้งเหตุ กูโทรไปเพราะยายกุโดนทำร้ายแต่พวกเมิงกลับไม่อยู่รับโทรศัพ กุโทรไป 3-4 ครั้ง กุอยู่ ลำลูกกา คลอง 3 ซอยสายไหม 9
ตอบลบแม่กุทำร้ายยาย กุโทรไปแจ้งแต่แสือกหายหัวไม่มีใครรับสักคน แล้วเมิงจะมีไว้ทำไม ท่าคิดว่าพักเที่ยง พวกคุณก็น่าจะ มีคนคอยรับตอนพักเที่ยงบ้าง ไม่ใช้ว่าต้องรอแม่ง บ่ายโมงกว่าจะมา ท่าเกิด มีคนตายตอน เที่ยง กุโทรไปหา 191 กุคงต้องรอพวกคุณกินข้าวให้เสร็จกันก่อนใช้มั้ยวะ