วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อาสาสมัครตำรวจชุม (๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕)

ช่วงลาพักผ่อนนี้อย่างที่บอกแหละครับว่าผมใช้เวลาว่างๆ ทบทวนการทำงาน การประพฤติปฏิบัติของตนเองช่วงที่ผ่านมาว่ามีข้อดีข้อเสียที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้างเพื่อให้ผลการปฏิบัติออกมาดีที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งพึงมี รวมถึงศึกษาเรื่องราวต่างๆ ทั้งของตนเองที่เขีัยนหรือบันทึกไว้ในบล็อกตลอดเรื่อยมาและการทำงานของคนอื่นๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ มีอยู่เรื่องหนึ่งครับที่จะนำมาบันทึกไว้วันนี้นั่นก็คือโครงการตำรวจชุมชนซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ ๑๐ ปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒๕๕๕-๒๕๖๔) เรื่องนี้หน่วยงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่กับพี่น้องประชาชนทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีตำรวจต่างๆ เห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและนำมาปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรา ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายก็เช่นเดียวกันโดยเราจัดให้มีการฝึกอบทวนให้ความรู้ความเข้าใจและแนววิธีการปฏิบัติแก่พี่น้องสมาชิกอาสาสมัครตำรวจชุมชนสถานีตำรวจต่างๆ ในสังกัด ๒๔ สถานีระหว่างวันที่ ๑-๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่โรงแรมลักษณวรรณรีสอร์ต ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย มีพี่น้องอาสาสมัครตำรวจชุมชนเข้ารับการอบรมประมาณ ๕๐๐ คน

โ่ครงการนี้ผมในฐานะคนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นเกือบจะทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการร่างโครงการ,กำหนดหลักสูตร,จัดหาวิทยากร ฯ รวมถึงอยู่คลุกคลีกับผู้เข้ารับการอบรมแทบตลอดเวลาช่วงวันที่ ๑-๒ พฤษภาคมที่ผ่านมารู้สึกดีใจครับที่ผู้บังคับบัญชาเล็งเห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วันเปิด (๑ พฤษภาคม) ท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (พล.ต.ต.สุีรเชษฐ์ โทปุญญานนท์) ให้เกียรติไปประธานพร้อมพูดคุยให้แนวคิดแก่ผู้เข้ารับการอบรม ระดับรองๆ ลงมาก็นี่ครับตัวหลัักของงานนี้เลย พ.ต.อ.ดร.รังสิต โลไทยสงค์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ที่อยู่กับพวกเราแทบจะตลอดเวลารวมทั้งทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจทั้งสองวัน



สำหรับผมเองได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมร่วมกัึบคณะวิทยากรของเราตามหัวข้อที่กำหนดซึ่งก็นำมาจากโครงการตำรวจชุมชนที่ถือว่าเป็นหลักสูตรกลางที่ทุกหน่วยงานจะต้องใช้ในการอบรมด้วยเช่นกัน



การอบรมครั้งนี้ใ่ช่ว่าอบรมแล้ว รับวุฒิืบัตรแล้วก็จบลงแค่นั้น เป็นที่น่ายินดีครับที่ผู้บังคับบัญชาระดับกองบังคับการของเราให้ความสนใจและเห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยได้สั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งต่อยอดไปเรื่อยๆ เพื่อให้การดำเนินการนี้ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง เช่นอาจจะอบรมให้ความรู้ความเข้าใจแก่สมาชิกคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่โดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนและผู้ผ่านการอบรมรุ่นนี้เป็นพี่เลี้ยงในโอกาสต่อไป , การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการ เป็นต้น รวมถึงจะต้องรายงานผลการดำเนินการให้ทราบเป็นระยะๆ ประมาณว่าควบคุมดูแลการปฏิบัติว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่นั่นแหละครับ



อีกอย่างหนึ่งก็คือผมทราบมาว่าหลังจากเสร็จสิ้นการอบรมรุ่นนี้แ้ล้วผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบังคับการได้เรียกประุชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนทุกสถานีเพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการและแนวทางปฏิบัติในอนาคตต่อไปอีกด้วยซึ่งทุกอย่างที่พวกเราทำนั้นก็คือวัตถุประสงค์หลักเดียวกัน "ความผาสุก ความอุ่นใจต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน" นั่นเอง

สุดท้ายนี้ผมเองซึ่งรับผิดชอบงานนี้และสัมผัสคลุกคลีกับพี่น้องหรือชุมชนมาเกือบตลอดระยะเวลาที่รับราชการมาก็จะสืบและสานต่อโครงการนี้หรือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนต่อไปอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อ "พี่น้องประชาชน" ของเราตลอดไป (ดูเรื่องราวการทำงานของผมกรณีนี้ได้ที่นี่)

ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น