สำหรับนโยบายส่วนหนึ่งของ ผบ.ตร.ท่านปัจจุบัน (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ที่เกี่ยวกับเรื่องที่พูดถึงและผมนำไปปฏิบัติในครั้งนี้มีดังนี้
๕.๕ ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการท้องถิ่นและชุมชน โดยสถานีตำรวจต้องพร้อมรับฟังความคิดเห็นและสนองตอบต่อความต้องการของประชาชน
หมายเหตุ : พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ "พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่รักของประชาชน" พร้อมทั้งมอบนโยบาย ๘ ข้อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศยึดถือปฏิบัติ ในโอกาสขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ดังนี้
๑.ปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์
๑.๑ รณรงค์ เทิดทูนและเสริมสร้างความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณให้คนในชาติมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
๑.๒ เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ดำเนินการเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการละเมิดสถาบันทุกด้านและดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
๑.๓.พัฒนากลไกการถวายความปลอดภัยของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงสุด
๑.๔ กำหนดมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะเนื้อหาไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ
๑.๕ ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
๒.รักษาความมั่นคงของชาติและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
๒.๑ เร่งรัด ติดตามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อสถาบัน ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตลอดจนความผิดที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งการสืบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่ายในคดีความผิดที่มีการใช้อาวุธปืนสงคราม วัตถุระเบิดอย่างเฉียบขาดและจริงจัง
๒.๒ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤต การรักษาความสงบเรียบร้อย การชุมนุมเรียกร้องหรือต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยผลักดันให้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการชุมนุมในที่สาธารณะ เพื่อลดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
๒.๓ รณรงค์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ร่วมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปให้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศเพื่อนบ้านทุกระดับ เพื่อสร้างพันธมิตรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง
๒.๔ เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นหลักปฏิบัติ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ขยายกลุ่มพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และ
๒.๕ ควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชนน้อยที่สุด
๓.ป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในทุกระดับ
๓.๑ กำหนดมาตรการแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในทุกหน่วยงาน โดยมุ่งเน้นการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงานที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
๓.๒ ปลูกฝังค่านิยมให้แก่ข้าราชการตำรวจทุกระดับดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาต้องเป็นต้นแบบในการประพฤติปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
๓.๓ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับติดตามเอาใจใส่ มิให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุจริตประพฤติมิชอบโดยสังเกตการณ์ขจัดเหตุที่อาจก่อให้เกิดการกระทำผิด และต้องกวดขัน ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ เป็นผลดีต่อทางราชการ
๓.๔ แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจทั้งในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการ กองบังคับการและกองกำกับการ เพื่อให้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบติดตามความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยงานตามลำดับชั้น
๓.๕ ดำเนินการทางวินัยและกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
๔.ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด
๔.๑ ปราบปรามจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติดในทุกระดับอย่างจริงจัง เน้นการสกัดกั้นจุดเสี่ยงและจุดผ่านแนวชายแดน เพิ่มประสิทธิภาพสกัดกั้นป้องกันมิให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นใน สืบสวนปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทั้งในและต่างประเทศ ยกระดับมาตรฐานด้านการข่าวเชื่อมโยงข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดต่างประเทศกับกลุ่มผู้ค้าภายในประเทศ
๔.๒ เร่งรัดมาตรการยึดทรัพย์ มาตรการสมคบ และการฟอกเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามกฎหมาย โดยรวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อทำลายสถานภาพทางเศรษฐกิจของผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง
๔.๓ แสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน โรงเรียน และสถานประกอบการต่างๆ และกำหนดมาตรการในการป้องกันกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยง จัดระเบียบสังคม และเข้มงวดกวดขันอบายมุขในพื้นที่อย่างจริงจังไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุมและแพร่ระบาดของยาเสพติด
๔.๔ เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับยาเสพติด ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสพรายงานตัวเข้ารับการบำบัดโดยสมัครใจ มีกลไกติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ และ
๔.๕ ควบคุม ดูแลความประพฤติของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นและป้องกันไม่ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อขบวนการค้ายาเสพติดหรือกระทำผิดเสียเอง
๕.พิทักษ์รับใช้ให้บริการประชาชนในทุกมิติ ทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการอำนวยความยุติธรรมเพื่อให้ตำรวจเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างแท้จริง
๕.๑ ระดมสรรพกำลังให้สถานีตำรวจเพิ่มมาตรฐานการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการบริการรับใช้ประชาชนให้สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตำรวจเป็นมิตร มีความพึงพอใจ รักและศรัทธาตำรวจ
๕.๒ ยกระดับมาตรฐานการรักษาความสงบเรียบร้อยและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมเฉพาะทาง เช่น การโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่นกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบบอกตำแหน่งพิกัด (GPS) กล้องติดรถยนต์สายตรวจ ฯลฯ
๕.๓ บังคับใช้กฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมทางคดีอาญาด้วยความเสมอภาค เป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรม สร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธาในกระบวนการสอบสวนดำเนินคดีอาญา กำหนดมาตรฐานการสอบสวนให้เป็นที่ยอมรับ
๕.๔ เพิ่มประสิทธิภาพระบบงานสายตรวจพร้อมระงับเหตุ และเพิ่มความถี่การตรวจ ทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย พัฒนาระบบศูนย์รับแจ้งเหตุให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รับแจ้งเหตุ ๒๔ ชั่วโมง ถึงที่เกิดเหตุเร็วที่สุด สถานีตำรวจต้องปรับปรุงภูมิทัศน์และที่พักสายตรวจหรือหน่วยบริการประชาชน (ป้อมตำรวจ) ให้เอื้อต่อการบริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service) และ
๕.๕ ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการท้องถิ่นและชุมชน โดยสถานีตำรวจต้องพร้อมรับฟังความคิดเห็นและสนองตอบต่อความต้องการของประชาชน
๖.อำนวยการจัดการจราจรอย่างเป็นระบบ ทันสมัยซื่อสัตย์สุจริต
๖.๑ บริหารจัดการจราจรอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกโครงข่ายจราจรและบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
๖.๒ ศึกษา วิเคราะห์ วางแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางการจราจรอย่างเป็นระบบ
๖.๓ ยกระดับมาตรฐานการจัดการจราจร นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่น กล้องตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟ หรือสัญญาณจราจรต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพระบบใบสั่งจราจรออนไลน์ เพื่อความคล่องตัว
๖.๔ ปลูกจิตสำนึกตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สุภาพและยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ และ
๖.๕ ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร เมื่อกระทำผิดต้องยอมรับการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่เสนอสินบนให้ตำรวจจราจร
๗.บริหารจัดการให้ตำรวจดำรงชีพได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและเป็นที่รักของประชาชน
๗.๑ ยกระดับสวัสดิการด้านความเป็นอยู่ของตำรวจให้อยู่ดีมีสุขแบบพอเพียง สร้างที่พักอาศัยให้ตำรวจและครอบครัวอย่างเพียงพอเหมาะสมตามแนวทาง "อยู่พอดี มีพอใช้ ใจเป็นสุข"
๗.๒ จัดหาอุปกรณ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ พาหนะ เครื่องมือที่จำเป็นในการปฏิบัติงานให้เพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนกำลังพลตามสัดส่วนความหนาแน่นของประชากรและสภาพปัญหาอาชญากรรม
๗.๓ บริหารงานกำลังพลทั้งการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนเงินเดือน การปูนบำเหน็จความชอบ การลงโทษทางวินัยโดยยึดหลักคุณธรรม โปร่งใส สร้างหลักเกณฑ์เป็นที่ยอมรับ
๗.๔ ส่งเสริม แนะนำ ฝึกอบรมให้ความรู้ทักษะทางด้านวิชาชีพและการดำรงชีวิตเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณอายุราชการ และ
๗.๕ ส่งเสริมภาพลักษณ์ กระบวนงาน มาตรการในการดำเนินงานบริการรับใช้ประชาชนและผลการปฏิบัติงานให้ประชาชนได้รับรู้ตามช่องทางสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างศรัทธาต่อองค์กรตำรวจ
๘.เตรียมความพร้อมสูงสุดเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
๘.๑ เร่งรัด ติดตาม การปฏิบัติของทุกหน่วยงาน และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภายนอกเพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
๘.๒ พัฒนาหน่วยฝึกอบรมต่างๆ ให้มีความพร้อม มีมาตรฐาน มีขีดความสามารถรองรับการฝึกอบรมตำรวจให้มีความเชี่ยวชาญ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
๘.๓ ส่งเสริมให้ตำรวจทุกระดับ มีความรู้ ทักษะโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ รวมทั้งภาษาของประเทศในกลุ่มอาเซียน 8.4 ปรับปรุงสถานีตำรวจเส้นทางหลวงแผ่นดินซึ่งเชื่อมโยงโครงข่ายประเทศอาเซียน (Asian Highway Route) ให้พร้อมบริการแก่ประชากรอาเซียน และ
๘.๕ เตรียมความพร้อมบังคับใช้กฎหมาย แก้ไขปรับปรุงกฎหมายระหว่างประเทศอาเซียน เพื่อทำความตกลงในการปฏิบัติร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งประชาชนทุกประเทศสมาชิก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น