วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558

ความทรงจำครั้งเยาว์วัย : ก่อนวันสงกรานต์ (๑๓ เมษายน ๒๕๕๘)

วันนี้พวกเราเด็กๆ ดีใจกันมากเพราะนอกจากโรงเรียนจะปิดเทอมใหญ่แล้ววันพรุ่งนี้ก็จะถึงวันสงกรานต์ที่พวกเรารอคอยกันอีกด้วย ตอนเช้าพวกเราเอาเสื้อผ้าที่คิดว่าใหม่ที่สุดซึ่งก็มีกันแค่คนละชุดสองชุดไม่เกินนี้ไปแช่แฟ้บได้ราวชั่วโมงกว่าๆ พี่น้อยซึ่งเป็นพี่คนโตก็รับหน้าที่เอาไปซักและตากแดดที่กำลังจ้าเพื่อให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วตอนบ่ายๆ พี่น้อยเขาก็จะเอาไปรีดด้วยเตารีดที่ใช้ถ่านไม้โกงกางหลังบ้านเพื่อใส่กันในวันพรุ่งนี้

ตอนบ่ายๆ เพาะกับแมะเตรียมทำขนมเพื่อนำไปทำบุญสงกรานต์โดยพวกเราลูกๆ เป็นลูกมือช่วยนั่นช่วยนี่ หยิบนั่นหยิบนี่ไปตามประสา ขนมวันนี้ที่บ้านเราทำอยู่ ๒ อย่างคือขนมขี้หนูกับขนมจาก อุปกรณ์ส่วนประกอบก็ไม่ต้องซื้อต้องหาจากไหนใช้ของในบ้านนี่แหละ ข้าวที่ใช้ทำขนมน่ะแมะแช่ไว้เมื่อวานเย็นแล้ว ตอนเที่ยงกว่าๆ แมะก็เอามาโม่กับโม่หินที่บ้านเราซึ่งมีอยู่ ๑ ตัว แมะเป็นคนโม่ส่วนพี่น้อยคอยใช้ช้อนตักข้าวที่แช่ไว้ในกะมัง (กาละมัง) ค่อยๆ หยอดลงหลุมทีละช้อนๆ ข้าวที่ได้จากการโม่ซึ่งละเอียดดีมากเลยค่อยๆ ไหลลงมาในกะมังอีกใบหนึ่งที่แมะรองไว้ด้านล่าง ใช้เวลานานพอสมควรเหมือนกันกว่าจะโม่เสร็จหลังจากโม่เสร็จแล้วแมะเอาแป้งที่ได้ไปใส่ไว้ในผ้าขาวบางและใช้โม่ทับไว้เพื่อให้แป้งมันหมาดรอทำขนมต่อไป

สำหรับเพาะเดินไปตัดใบมะพร้าวข้างบ้านเพื่อเอาไว้ใช้ห่อขนมจากโดยเราคอยเป็นลูกมือให้ เพาะจะตัดมะพร้าวที่ดูแล้วว่ามันโตได้ที่ สภาพสวยมาทั้งทางแล้วริดเอาใบออก คัดๆ เอาแต่ใบที่ดี สภาพสมบูรณ์ไว้ห่อขนม รวมถึงเอาก้านของมันส่วนหนึ่งสำหรับกลัดขนมเวลาห่อด้วย เราจะช่วยแต่เพาะบอกว่า “ไอ้หนูเอ๊ย ไอ้หนูยังเด็กอยู่เดี๋ยวโตอีกหน่อยถึงค่อยทำ ดีไม่ได้มีกินมือ(บาดมือ) ได้ ไม่เป็นรา (ไรหรอก) เดี๋ยวเพาะทำเอง

บ่ายขึ้นมาอีกนิดหนึ่งเมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้วพวกเราก็มาลงมือทำขนมกันที่ชานหน้าบ้าน เริ่มที่การทำขนมขี้หนูก่อนเสร็จแล้วถึงไปทำขนมจากที่เพาะขุดดินไว้สำหรับย่างข้างล่าง ทำไปคุยไป เพาะกับแมะก็ค่อยๆ บอก ค่อยสอนๆ พวกเราถึงการทำขนมนมเนยบ้าง เล่านิทานให้ฟังบ้างจนเวลาเกือบใกล้พระอาทิตย์ตกดินทุกอย่างจึงเสร็จเรียบร้อย

ขนมที่ทำนั้นเพาะกับแมะแบ่งไว้ ๒ ส่วนซึ่งจะคัดในส่วนที่ดีที่สุด ส่วนหนึ่งเอาไว้ทำบุญ อีกส่วนหนึ่งเอาไปให้พ่อแก่แม่คุณ (ตาตาย) กับปู่ย่า โดยในส่วนที่จะเอาให้พ่อแก่แม่คุณนั้นพี่น้อยมัจฉาพี่สาวคนโตรับอาสาถือเอาไปให้ ส่วนของปู่กับย่าเราเป็นคนเอาไปเพราะบ้านปู่กับย่าค่อนข้างห่างจากบ้านเรานิดหนึ่ง (ราว ๒-๓ เส้น) เพาะกับแมะบอกว่าขนมส่วนที่คัดไว้ทำบุญกับเอาไปให้พ่อแก่แม่คุณกับปู่ย่านั้นเป็นของสูง ห้ามเด็กๆ แผ็บ (แอบกินครั้งละเล็กละน้อย) เด็ดขาด ตายไปจะตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ทำให้พวกเราไม่มีใครกล้าทำเลยสักคน เมื่อแบ่งขนมที่จะเอาไปทำบุญในวันพรุ่งนี้และให้พ่อแก่แม่คุณกับปู่ย่าเรียบร้อยแล้วพวกเราก็ลงมือกินขนมที่เหลือกันอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งคืนนี้พวกเราคงจะนอนหลับกันอย่างมีความสุขเพื่อตื่นเช้ามาในวันพรุ่งนี้จะได้สดชื่นและไปทำบุญวันสงกรานต์กันด้วยรอยยิ้มแน่ๆ

ด.ช.สุพจน์ มัจฉา
๑๒ เมษายน ๒๕๑๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น