แมะ : แหม่ไอ้หนูเอ๊ย เสื้อเนี่ยน่าจะซั่กซ้าหน่อยก่อนแล่วถึงค่อยมาใส่ ยังเหม็นขี้เจ้กอยู่เลย
ลูก : ก็แช้นอยากใส่เอาไปอวดเพื่อนเกี๊ยแมะ คอยดูหนะเดี๋ยวเถ้าเพื่อนคนไหนไม่มีเสื้อใหม่ใส่แช้นจ้ะกิ๊วๆ
.........
“เหม็นขี้เจ้ก” (เหม็นขี้เจ๊ก) ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองบ้านเราคำนี้เอาไปเอามาผมว่านะเด็กรุ่นหลังๆ เนี่ยะคงแทบไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้ว เด็กสมัยนี้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่กันเบิกบาน บางคนมีเป็นโหล ซื้อมาแล้วไม่เคยใส่เลยก็มีหรือถ้าจะใส่ก็ต้องซักให้สะอาดสะอาดเสียก่อน ไม่เหมือนสมัยตอนผมเป็นเด็กกว่าจะมีเสื้อผ้าใหม่ใส่กับเขาทีก็ต้องรอเพาะกับแมะมีสะตุ้งสตางค์ก่อนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนหลังเกี่ยวข้าว มีอะไรก็ใส่กันตามมีตามเกิด บางครั้งชุดเดียวใส่เป็นอาทิตย์เลยก็มี ถามว่าเหม็นไหม ก็งั้นๆ แทบไม่ได้กลิ่นหรอกเพราะทุกคนก็คล้ายๆ หรือเหมือนกัน
ลูก : ก็แช้นอยากใส่เอาไปอวดเพื่อนเกี๊ยแมะ คอยดูหนะเดี๋ยวเถ้าเพื่อนคนไหนไม่มีเสื้อใหม่ใส่แช้นจ้ะกิ๊วๆ
.........
“เหม็นขี้เจ้ก” (เหม็นขี้เจ๊ก) ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองบ้านเราคำนี้เอาไปเอามาผมว่านะเด็กรุ่นหลังๆ เนี่ยะคงแทบไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้ว เด็กสมัยนี้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่กันเบิกบาน บางคนมีเป็นโหล ซื้อมาแล้วไม่เคยใส่เลยก็มีหรือถ้าจะใส่ก็ต้องซักให้สะอาดสะอาดเสียก่อน ไม่เหมือนสมัยตอนผมเป็นเด็กกว่าจะมีเสื้อผ้าใหม่ใส่กับเขาทีก็ต้องรอเพาะกับแมะมีสะตุ้งสตางค์ก่อนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนหลังเกี่ยวข้าว มีอะไรก็ใส่กันตามมีตามเกิด บางครั้งชุดเดียวใส่เป็นอาทิตย์เลยก็มี ถามว่าเหม็นไหม ก็งั้นๆ แทบไม่ได้กลิ่นหรอกเพราะทุกคนก็คล้ายๆ หรือเหมือนกัน
ทีนี้พอได้เสื้อผ้าใหม่ที่เพาะกับแมะหรือใครก็ตามซื้อให้เนี่ยะทุกคนย่อมจะต้อง “เห่อ” กันเป็นธรรมดา ใจน่ะอยากจะใส่ตั้งแต่ซื้อโน่นแล้ว จริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก “อยากเอาไปอวดเพื่อน” ว่าฉันมีชุดใหม่ของเธอไม่มี กิ๊วๆ ประมาณนั้น พอถึงบ้านปั๊บนี่ถอดชุดเก่าทิ้งทันทีแล้วใส่ชุดใหม่ที่เพิ่งได้มาทันควันทั้งๆ ที่ชุดนั้นยัง “เหม็นขี้เจ้ก” อยู่เลย ฮ่ะๆๆๆ แบบนี้มันเรื่องธรรมดาๆ เรื่องพื้นๆ ของเด็กบ้านเราสมัยนั้นครับ “ผมเองก็เป็น”
"เหม็นขี้เจ๊ก" ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองเป็นสำนวนซึ่งก็หมายถึง "เห่อของใหม่" นั่นเองครับพี่น้อง
“พี่น่องบ้านเราคนไหนส้ะหมัยเป็นเด็กๆ เคยใส่เสื้อผ้าที่ยัง “เหม็นขี้เจ้ก” มั่งรั่บสาร่ะภาพออกมาซะดีๆ ๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น