วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

วันนี้ที่ภูกามยาว / ครบรอบ ๒๐ ปีวันเสียชีวิตเพาะเหียน มัจฉา (๙ กันยายน ๒๕๖๒)

วันที่๙ เดือน๙ ปี๙๙
เพาะจากเรา อย่างไม่ มีวันกลับ
ยี่สิบปี ผ่านพ้น ที่ล่วงลับ
มิอาจดับ ความรัก ความผูกพัน 
...........
วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๒ (ค.ศ.๑๙๙๙) เพาะเหียน มัจฉา ได้ละโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง ๖๓ ปีท่ามกลางความอาลัยรักของแมะ,ลูก,หลานและญาติสนิทมิตรสหาย ซึ่งนับถึงวันนี้ก็ครบ ๒๐ ปีเต็มแล้ว ขอดวงวิญญาณของเพาะจงสถิตอยู่สัมปรายภพตลอดไปด้วยเทอญ
บางช่วงบางตอนกับงานฌาปนกิจศพเพาะเหียน มัจฉา ที่วัดพังราดไทย หมู่ ๔ ตำบลพังราด อำเภอแกลง จังหวัดร่ะยองเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๒ (ภาพทั้งหมดคลิกที่นี่)


วันนี้วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒ วันทำงานวันแรกของพี่น้องส่วนใหญ่และเป็นวันครบรอบวันที่เพาะเหียน หรือคุณพ่อเหียน มัจฉา พ่อของผมเสียชีวิตไปแล้ว ๒๐ ปีเต็มโดยเพาะเหียนท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๒ ผมจึงขอนำเรื่องราวเรื่องนี้มาบันทึกไว้เป็นเรื่องแรกในวันนี้ก่อนจะเข้าสู่โหมดการทำงานครับ
แล้วก็เหมือนเดิมเฉกเช่นทุกวันนั่นแหละครับเมื่อถึงที่ทำงานแล้วก่อนจะนั่งทำงานให้มันสนุกบ้านช่องห้องหอจะต้องสะอาดสะอ้านดูดีน่านั่ง น่าทำงานเสียก่อน การทำก็เหมือนเดิมอีกนั่นแหละ "เราทำของเราเอง" ไม่ต้องเกรงใจใครทั้งนั้น บ้านเราห้องเราเราทำได้ก็เลยจัดการซะอย่างที่เห็นนั่นแหละทั้งกวาด ถู เช็ด มีหมด สบายๆ เสร็จแล้วก็นั่งทำงานด้วยความชุ่มใจ อ้ะอ๊า

งานช่วงเช้าวันนี้มีมานิดๆ หน่อยๆ ไม่มากไม่น้อย ใช้เวลาทำจริงๆ ไม่นานเพราะเจ้าหน้าที่เขาทำไว้กันดี เราในฐานะผู้บังคับบัญชาแค่ตรวจๆ ทานๆ ดูว่าเรียบร้อยไม่ขาดตกบกพร่องแล้วก็จบ แต่จบเฉพาะงานที่เขานำมาเสนอเท่านะครับงานอื่นๆ (ที่ผมมองว่าเป็นงาน) มีอีกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ถ้าเราจะทำ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตราการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ การดูแลพี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการให้พี่น้องได้รับการบริการจากเราที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ อันไหนที่คิดว่ายังขาดตกบกพร่องก็แนะนำเจ้าหน้าที่เขาไปและจัดการแก้ไขตรงนั้นเสีย

อย่างเช่นราวๆ ๑๐ โมงเศษๆ ช่วงเช้าวันนี้ผมเดินไปดูเจ้าหน้าที่ประจำวันลงบันทึกให้พี่คนเสื้อขาวที่มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและเห็นว่าเอกสารในส่วนที่ให้คนแจ้งเก็บไว้ซึ่งเป็นสำเนาที่ใช้กระดาษคาร์บอนสีน้ำเงินรองเขียนโดยต้นฉบับหรือต้นขั้วเก็บไว้ในเล่มนั้นมีลักษณะสีค่อนข้างซีดมองหรืออ่านได้ไม่ชัดนักเนื่องจากใช้งานมานานจนแทบไม่มีหมึกเหลืออยู่หรือเหลือก็ไม่ชัดเจนเท่าที่ควรจึงบอกเจ้าหน้าที่เขาให้เปลี่ยนกระดาษคาร์บอนอันใหม่เอาไว้รองเขียนเพื่อให้ตัวสำเนาที่จะมอบให้คนแจ้งนั้นมีความคมชัดและเห็นง่ายยิ่งขึ้นซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ปฏิบัติตามที่ผมแนะนำสร้างความพอใจแก่ผู้ที่มาแจ้งความเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันผมก็ได้แนะนำเจ้าหน้าที่ว่าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการนั้นตำรวจเราควรจะต้องให้บริการให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ส่วนที่ว่าดีที่สุดจะแค่ไหนเพียงไรนั้นก็แล้วแต่กรณีๆ ไป แต่อย่างน้อยเราก็จะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้เป็นสำคัญและนี่ก็คืออีกหน้าที่หนึ่งในงานของการเป็นผู้บังคับบัญชาที่ผมเคยบอกหรือเขียนไว้หลายครั้งที่ผ่านมาแล้วนั่นเอง

เป็นตัวอย่าง ที่ดีดี ที่เห็นอยู่
เป็นตัวอย่าง ที่ควรดู เป็นเยี่ยงอย่าง
เป็นตัวอย่าง ที่ทำไว้ ให้แนวทาง
เป็นตัวอย่าง ของตัวอย่าง อย่างพี่ตง



ประมาณ ๑๑.๐๐ น.ผมเดินไปตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ห้องสืบสวนก็พบพวกเราอยู่ที่นั่นพร้อมหน้าพร้อมตาและพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่โดยพร้อมเพรียงกันและที่สำคัญที่สุดก็คนนี้ครับ "พี่เบตง" หรือ ร.ต.อ.เบตง ทะนันชัย เจ้าหน้าที่ธุรการคนขยันของงานสืบสวนเราที่ถึงแม้ว่านับจากวันนี้ไปจะยังเหลืออีกแค่ ๒๑ วันพี่แกก็จะเกษียณอายุราชการแล้วแต่พี่แกก็ยังมานั่งทำงานของตนเองเหมือนเดิมอย่างขยันขันแข็งและทุ่มเท เห็นแล้วก็อดที่จะปลาบปลื้มใจไม่ได้ที่มีลูกน้องแบบนี้ เสียดายที่พี่แกจะต้องเกษียณอายุราชการไปซะนี่ แต่ก็เป็นวิถีทางแห่งระบบราชการหรือการงานครับ เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป อย่างผมเองอีก ๒ ปีผมก็ต้องไปเหมือนกันเพียงแต่ว่าระหว่างที่อยู่ในระบบเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เป็นสำคัญ ขอบคุณมากนะครับพี่เบตง ทะนันชัย


ในขณะเดียวกันก็ร่วมปรึกษาหารือเรื่องงานกับเจ้าหน้าที่สืบสวนที่อยู่ ณ ที่นั้นด้วยในกรณีที่ยังดำเนินการไม่เรียบร้อยหรืออยู่ในระหว่างดำเนินการรวมถึงสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการและมอบหมายมาเป็นกรณีพิเศษโดยใช้เวลาในเรื่องปรึกษาหารือกันนี้ประมาณ ๓๐ นาทีเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกที่ตั้งพร้อมส่งภาพและข้อมูลเข้ามาทางไลน์กลุ่มเพื่อรายงานผลการดำเนินการเป็นระยะๆ ดังส่วนหนึ่งของภาพรวมด้านล่าง (ภาพด้านล่างนี้เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนติดตามเรื่องทรัพย์ในเขตพื้นที่)
ขาวสามด้าน บนสั้นจู๋ ดูเท้เท่
ใครได้เห็น เป็นต้องเฮ เย้..เอาได้
ทรงผมงาม ยอดยิ่งยวด ตำรวจไทย
คนอาไร้ ไยล้อหล่อ พ่อเจ้าเอ๊ยย (เหอๆๆๆ)

...........
ช่วงพักทานอาหารกลางวันหลังจากหาอะไรกินอิ่มหนำสำราญดีแล้วยังมีเวลาอีกเยอะแยะกว่าจะถึงเวลางานภาคบ่ายก็เลยอาศัยเวลาว่างช่วงนี้ไปตัดผมซะหน่อยเพราะมีความรู้ว่ามันเริ่มยาวแล้ว (จริงๆ แล้วน่ะไม่ยาวหรอก ยังอยู่ในระเบียบตำรวจอยู่ที่เขาให้ตัดข้างขาวทั้ง ๓ ด้าน ส่วนผมด้านบนยาวไม่เกิน ๓ เซ็นติเมตร) แต่มีความรู้สึกว่ามันยาวและรำคาญก็เลยตัดซะเลย เดี๋ยวนี้พวกเราตำรวจไทยนี่ตัดผมกันเฉลี่ยสัปดาห์ละครั้งครับ ดีเหมือนกันเย็นหัวดี เสร็จแล้วกลับไปทำงานต่อ


"หลังเกษียณแล้วผมจะมาเยี่ยมนายที่ห้องนี้นะครับ บรรยากาศร่มรื่นเหมือนรีสอร์ทจังเลย" พี่เบตง ซึ่งจะเกษียณในอีกไม่กี่วันพูดกะนายเขาช่วงเอางานมาเสนอที่ห้องทำงาน << ข้อมูลในเฟสบุ๊ก >>
...........
ช่วงบ่ายผมนั่งทำงานต่อที่โรงพักเหมือนเดิมครับ งานข้างนอกไม่ต้องออกเพราะมีเจ้าหน้าที่สืบสวนเขาดำเนินการอยู่แล้วเราในฐานะผู้บังคับบัญชาเพียงแค่คอยรับรายงานการดำเนินการหรือสั่งการอะไรไปตามเรื่องตามหน้าที่ก็เพียงพอ อีกประการหนึ่งงานที่ว่านี้แค่เจ้าหน้าที่ทำก็เหลือแหล่แล้ว สำหรับสถานที่ทำงานก็ทั้งในโรงพักนั่นแหละ ในห้องทำงานมั่ง เดินไปห้องนั้นห้องนี้มั่งรวมถึงที่นี่ อ้ะอ๊า รีสอร์ทหน้าโรงพักมั่ง ได้บรรยากาศดี๊ดี
ภาพทั้งหมดในวันนี้คลิกที่ลิงก์ด้านล่างครับ

<< ตรงนี้จ้าาา >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น