วันนี้เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด ๗๗ ปีของแมะเผือน มัจฉา ขออวยพรให้แมะสุขภาพแข็งแรง อายุ่มั่นขวัญยืนและอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกๆ หลานๆ ตราบนานเท่านาน
สุขสันต์วันเกิดหนะแมะ รั่กแมะหนะ
คำว่า “แม่” แม้พยางค์ เพียงสั้นสั้น
แต่ “แม่” นั้น ท่านสูงส่ง กว่าทุกที่
เราเกิดมา เป็นตัวตน จนวันนี้
เพราะว่ามี แม่นั้น ท่านห่วงใย
แม่ถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงลูกน้อย
ตั้งแต่ตีน เท่าฝาหอย จนเติบใหญ่
แม่ไม่เคย หวังตอบแทน จากสิ่งใด
นอกจากให้ ความรัก ความเมตตา
พระคุณแม่ ล้นฟ้า มหาสมุทร
เกินคำพูด หรือวจี ที่สรรหา
สมควรที่ ทุกท่าน กตัญญูตา
คิดถึงแม่ บ้างหนา ลูกหญิงชาย
“ถ้าไม่มีเพาะกะแมะ” ฉันก็คงมีสภาพแบบที่เห็น แม้ว่าการเป็นชาวนาจะเป็นอาชีพที่น่ายกย่อง สรรเสริญและสมควรให้กำลังใจที่เอาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินปลูกข้าวเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกอย่างเหน็ดเหนื่อยตรากตรำก็ตาม แต่ “เพาะกะแมะ” ก็ไม่ยอมให้ฉันเป็นแบบนี้ อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูแลให้ฉันได้ร่ำเรียนจนมีอาชีพการงานจนถึงทุกวันนี้
“กราบเท้าขอบคุณเพาะกะแมะเป็นอย่างสูงนะครับ”
อย่าดูหมิ่นชาวนาเหมือนดั่งตาสี
เอาผืนนาเป็นที่ พำนักพักพิงร่างกาย
ชีวิตเอย ไม่เคยสบาย
ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย
ไล่ควายไถนาป่าดอน
เหงื่อรินหยด หลั่งลงรดแผ่นดินไทย
จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุทธรณ์
เพิงพักกาย มีควายเคียงนอน
สาบควายกลิ่นโคลนเคล้าโชยอ่อน
ยามนอนหลับแล้วใฝ่ฝัน
กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว
แห่งชาวบ้านนา ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน กลิ่นกระแจะจันทร์
หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา
อย่าดูถูกชาวนาเห็นว่าอับเฉา มือถือเคียวชันเข่า
เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา ชีวิตคนนั้นมีราคา
ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา บูชากลิ่นโคลนสาบควาย
กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว
แห่งชาวบ้านนา ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน กลิ่นกระแจะจันทร์
หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา
อย่าดูถูกชาวนาเห็นว่าอับเฉา มือถือเคียวชันเข่า
เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา ชีวิตคนนั้นมีราคา
ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา บูชากลิ่นโคลนสาบควาย
..........
เพลง "กลิ่นโคลนสาบควาย"
ไพบูลย์ บุตรขัน : แต่ง
ชาญ เย็นแข : ขับร้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น