เช้านี้ผมเดินทางไปถึงโรงพักภูกามยาวก่อนเวลาราชการเล็กน้อยเฉกเช่นทุกวันท่ามกลางบรรยากาศแจ่มแจ๋ว ท้องฟ้าสดใสสีครามแจ่มตาไร้แทบจะไร้ซึ่งเมฆปกคลุม อากาศค่อนข้างร้อนนิดหน่อยผิดจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาเคยพยากรณ์ไว้ว่าตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคมนี้จะเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการแต่ก็ไม่เป็นไรครับของพรรค์นี้จะให้เหมือนดังว่าเป๊ะๆๆ ก็คงลำบากที่แน่ๆ ก็คือช่วงนี้เข้าสู่หน้าหนาวแล้วแม้จะยังไม่หนาวนักก็ตาม
แล้วก็เหมือนเคยครับเมื่อถึงโรงพักและทักทายกับเจ้าหน้าที่เขาตามธรรมเนียมแล้วก่อนจะทำงานห้องหับต้องสะอาดสะอ้านด้วยมือเราก่อน ยิ่งถ้าเป็นวันจันทร์หรือวันแรกในสัปดาห์ของการทำงานแบบนี้ด้วยแล้วจะต้องทำเป็นพิเศษแต่ก็ใช้เวลาไม่นานนักแค่ ๓-๔ นาทีก็เรียบร้อยเพราะเราทำของเราเองทุกวัน ห้องก็ไม่กว้างขวางอะไรมากมายแค่ราวๆ ๓x๒.๕ เมตรเท่านั้นเอง เอาไม้กวาดมากวาด เอาผ้ามาเช็ดโต๊ะเก้าอี้รวมถูพื้นอีกนิดนึงก็เสร็จพิธีจากนั้นก็นั่งทำงานด้วยความสบายใจเฉิบ
งานช่วงเช้าวันนี้มีนิดหน่อยแค่ ๒-๓ เรื่องเองครับ แต่นั่นพูดถึงเรื่องงานบนโต๊ะที่เจ้าหน้าที่เขาเอามาเสนอ งานอื่นๆ น่ะมีเยอะแยะตาแป๊ะไก๋เพราะเราต้องหาอะไรมาทำหรือเอามาเป็นงานให้ได้ อย่างเช่นการตรวจติดตามความคืบหน้าของงานในความรับผิดชอบที่ยังคั่งค้าง การคิดแผนงานที่จะทำในวันนี้หรือในช่วงต่อๆ ไป แบบนี้งานทั้งนั้นครับ ทำกันไม่หวัดไม่ไหวเลยทีเดียวแหละสุดแต่ว่าใครจะมองเป็นงานหรือไม่ ถ้าไม่มีมองว่าเป็นงานมันก็ไม่มีงานให้ทำ แต่ถ้าใครมองว่ามันเป็นงานก็อีกอย่างหนึ่งโดยผมเองมองว่ามันเป็นงานครับ
สถิติคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้มาบันทึกไว้หน่อยโดยมีดังนี้ครับ
๑) คดีอาญา ๑๕๗ คดี
๒) คดีจราจร ๒๕ คดี
๓) คดีชันสูตร ๑๓ คดี
๔) ห้องควบคุมวันนี้ไม่มีผู้ต้องหา
ขอบคุณข้อมูลจากงานสอบสวน
ต่อมาเวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น. พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก.ภ.จว.พะเยาเดินทางไปตรวจเยี่ยม สภ.ภูกามยาว สำหรับการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ผมได้แยกเขียนบันทึกไว้อีกส่วนหนึ่งซึ่งรายละเอียดสามารถคลิกดูได้ที่นี่ครับ
ในส่วนของงานสืบสวนซึ่งผมเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบนั้นถึงแม้ว่าขณะนี้ไม่มีคดีหรืองานใดคั่งค้างแล้วก็ตามแต่ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ จะปล่อยให้มีงานเข้ามาแล้วถึงไปจัดการดูจะไม่เหมาะแม้ว่างานสืบสวนส่วนใหญ่จะเป็นไปเรื่องการดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว เช่น การติดตามจับกุมตัวคนร้าย , การสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดก็ตามแต่เราก็ยังมีงานอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ "การสืบสวนก่อนที่เหตุจะเกิดขึ้น" ตำรวจเราจะต้องรู้หรือมีข้อมูลว่าน่าจะมีเหตุเภทภัยอะไรที่ส่งผลต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนเกิดขึ้นบ้างโดยเมื่อรู้แล้วก็ออกไปหาข่าวสารข้อมูลเพื่อหาทางป้องกันมิให้เหตุที่ว่านั้นเกิดขึ้นเมื่อปลายมือ แบบนี้สำคัญไม่น้อยครับ ทำอย่างไรไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นน่ะดีกว่าปล่อยให้เหตุเกิดขึ้นแล้วค่อยตามจับคนกระทำผิดทีหลังแม้ว่าต่อมาจะจับคนกระทำผิดได้ก็อาจจะสายเกินแก้เพราะความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว อย่างงนี้สำคัญครับ สำคัญมากด้วย อย่างภาพ ๒ ภาพนี้ผมปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ว่ากับ พ.ต.ท.เชาวลิต คูห์ตระกูล สว.สืบสวนที่ห้องสืบสวนช่วงเช้าวันนี้ซึ่งก็ได้อะไรหลายๆ อย่างประกอบการทำงาน
ช่วงพักเที่ยงวันนี้ไม่ได้ออกไปไหนไกลเพราะเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านอาหารแล้วเพราะไปกินที่ร้านเมียตำรวจหน้าโรงพักภูกามยาวนี่เอง มื้อนี้เป็นข้าวผัดกะเพราไก่+ไข่เจียวเหมือนเดิม อร่อยเหมือนเดิมแล้วก็ "แปะ" หรือเซ็นไว้ก่อนสิ้นเดือนถึงค่อยจ่ายเหมือนเดิม สะดวก สบายและก็เป็นการอุดหนุนพวกเรากันเองด้วย หลังจากอิ่มแปล้แล้วก็เดินกลับโรงพักและใช้เวลาว่างๆ นี้ออกไปข้างนอกเพื่อตัดผมที่ร้านเจ้าประจำเพราะ (คิดเอาเองว่า) ผมยาวแล้ว ใช้เวลาตัดแค่ ๕-๖ นาทีก็เรียบร้อย สนนราคาเท่ากับละอ่อนมัธยมนั่นก็คือ ๔๐ บาทจ้าาา ล้อหล่อ ฮ่ะๆๆๆ จากนั้นขับรถกลับโรงพักเพื่อไปทำงานช่วงบ่ายต่อ
เจ้าหน้าที่ : นายครับบอกอะไรสักหน่อยเกี่ยวกับภาพนี้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่
นายครับ : อั๊ยยะ หนังสือด่วนที่สุด
๗ เรื่องและต้องทำให้เสร็จภายในบ่าย ๓ วันนี้ ก็ต้องทำซิ่สูเขาบอกได้เลย
จะไปมัวคิดอะไรได้ไง เฮ้อ
.........
สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ผมนั่งทำงานอยู่ที่โรงพักต่อเหมือนช่วงเช้าครับ มีงานเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงงานด่วนที่สุดที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการด้วย แต่ก็เป็นงานที่ยุ่งยากอะไร ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วสำหรับงานพวกเรา << ข้อมูลในเฟสบุ๊ก >>.........
ภาพทั้งหมดในวันนี้คลิกที่ลิงก์ด้านล่างครับ
<< ตรงนี้จ้าาา >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น