วันนี้ตั้งแเต่เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น.เป็นต้นไปผมร่วมปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจกวดขันและรักษาวินัยจราจรตามโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรซึ่งมี ร.ต.อ.ธวัฒน์ เจริญผล รอง สว.จร.เป็นหัวหน้าชุดที่ถนนพหลโยธิน (สายเก่า) บริเวณด้านหน้าที่ทำการ สภ.พาน
การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้พี่น้องส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฏจราจรที่กำหนดไว้อาทิเช่นขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เปิดไำฟ,สวมใส่หมวกกันน็อก,มีใบอนุญาตขับขี่ติดตัวไปขณะขับรถ,ใช้ความเร็วไม่เกินที่กฏหมายกำหนด เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามยังมีพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยไม่ปฏิบัติตามกฎนี้โดยเฉพาะในเรื่องขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยซึ่งมีทั้งไม่นำหมวกนิรภัยติดตัวไปขณะขับขี่หรือซ้อนท้ายและมีหมวกนิรภัยไปแต่ไม่สวมใส่โดยนำไปวางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถหรือห้อยไปกับแฮนด์รถเป็นต้น จึงถูกเรียกตรวจและทำการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ฝากไว้ทิ้งท้ายด้วยนะครับ "เดินทางใกล้ไกล ขับขี่หรือซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สวมใส่หมวกกันน็อกทุกครั้ง แล้วท่านจะเป็นโชคดีในความปลอดภัยโดยไม่ต้องลุ้นให้ยุ่งยากเหมือนใครบางคน"
ด้วยความรักและปรารถนาดีจากตำรวจเมืองพาน
อนึ่ง โครงการนี้สืบเนื่องมาจากรัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวจึงมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๓ เห็นชอบให้ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๖๓ เป็น “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และต่อมาวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ ได้มีมติเห็นชอบประกาศให้ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งประกาศให้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราการเสียชีวิตลงครึ่งหนึ่งเมื่อถึงปี ๒๕๖๓ มาตรการสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันเป็นอันดับแรกคือการส่งเสริมให้ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ “สวมหมวกนิรภัย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์” ดังนั้น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้จัดทำโครงการ “ปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยสนับสนุนการดำเนินงานทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนและแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๕” เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำและปฏิบัติตามโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง จริงจังเพื่อความปลอดภัยของประชาชน สังคมและประเทศชาติในที่สุด ซึ่งสถานีตำรวจภูธรพานได้จัดทำโครงการรองรับขึ้นในครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในเรื่องการสวมหมวกนิรภัย , ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม , เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีการนำเสนอแผนงาน/โครงการสนับสนุนส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและเพื่อให้ลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายที่ปฏิบัติตามแผนส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้เปิดโครงการนี้ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา
ถึงบางอ้อแล้วค่ะ...คุณตำรวจ...หนึ่งในร้อย ค่ะ
ตอบลบ