"กระผม ดาบตำรวจเวที เรือนปาง ปฏิบัติหน้าที่นายสิบตำรวจเวรประจำวันนี้ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในห้องควบคุมมีึผู้ต้องหา ๓ คน เพศชาย เหตุการณ์ทั่วไปปกติครับ" สิบเวรเดินเข้ามารายงานเหตุการณ์ให้ทราบตามระเบียบปฏิบัติ
"ขอบคุณมากครับลุงเวที" ผมพูดกับสิบเวรซึ่งอายุมากกว่าผมไม่เท่าไรเองแต่แกชอบที่จะให้ใครๆ เรียกแกว่าลุง "เอ้อ ที่ลุงเวทีบอกว่าผู้ต้องหามี ๓ คนน่ะ ข้อหาอะไรบ้างล่ะลุง" ผมถามต่อ
"ครับผม คนแรกข้อหาเสพยาบ้า คนที่สองข้อหาพรากผู้เยาว์ สำหรับคนที่สามไม่รู้ข้อหาอะไร..."
"เอ๊ะ ยังไงนี่ลุง" ผมพูดแทรกขึ้นมาโดยที่สิบเวรยังตอบไม่ทันจบ "เป็นไปได้ยังไง การเข้าสิบเวรน่ะจะต้ิองรู้ซิ่ึครับว่าผู้ต้องหาในห้องขังถูกจับข้อหาอะไรกันบ้าง"
"นายครับ" สิบเวรพูดต่อ "คือ คนที่สามเนี่ยะ.."
"พอ พอแล้ว ไม่ต้องพูด อะไรกันเข้าเวรแต่ไม่รู้ว่าคนเขาถูกจับข้อหาอะไร" ผมตอบ "ไป ลุงเวทีเข้าไปดูในห้องขังกับผมเดี๋ยวนี้เลยแล้วเรียกเจ้าหน้าที่ประจำวันนำประจำวันที่บันทึกการจัุบกุมเข้าไปพบในห้องขังด้วย"
ผมพูดเสร็จสิบเวรก็บอกเจ้าหน้าที่ประจำวันซึ่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กับห้องขังราว ๓-๔ เมตรตามที่ผมสั่งพร้อมเปิดประตูห้องควบคุมและเดินเข้าไปกับผม ภายในห้องควบคุมมีผู้ต้องหาเพศชาย ๓ คนตามที่ลุงแกบอกจริงๆ โดยแยกขังเป็น ๒ ห้องๆ แรกมี ๒ คน ส่วนอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ในสุดมี ๑ คน
ผมถามผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในห้องแรก ๒ คนนั้นก็ได้ความว่าคนแรกถูกจับข้อหาเสพยาบ้าส่วนอีกคนหนึ่งข้อหาพรากผู้เยาว์ตามที่ลุงแกบอกผมตอนถึงโรงพักเป๊ะ
"สวัสดีน้อง" ผมพูดกับผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งซึ่งถูกขังอยู่คนเดียวในห้องด้านในสุด "เป็นไง ถูกจับข้อหาอะไรเหรอ"
"สวัสดีครับอ้ายตำรวจ" ผู้ต้องหาคนนั้นตอบโดยเรียกผมว่าอ้ายหรือพี่ (ไม่เหมือนสิบเวรที่เรียกลุง (ฮา)) "ผมถูกจับไม่รู้ข้อหาอะไร...."
"เอ๊ย!!!" ผมกึ่งพูดกึ่งอุทานโดยที่ผู้ต้องหายังอยากจะัพูดอะไรต่ออีกนิดหนึ่ง "เป็นไปได้ไงเนี่ย ทั้งคนถูกจับ ทั้งสิบเวรไม่รู้เลยว่าถูกจับข้อหาอะไร เฮ้อ เห็นทีผมจะต้องสังคายนาใหม่ซะแล้ว เอ้อ นี่ลุงเวที..."
"นายครับ" เจ้าหน้าที่ประจำวันเดินเข้ามาหาในห้องขังพร้อมพูดขึ้นก่อนที่ผมจะพูดกับสิบเวรจบ "นี่ครับ หลักฐานการจับกุมในบันทึกประจำวัน"
"ขอบคุณมาก" ผมตอบแล้วดูรายละเอียดในประจำวันเสร็จแล้วยกให้สิบเวรและผู้ต้องหาคนนั้นดู "นี่ไงลุงเวที ข้อหาก็มีอยู่ทนโท่ในบันทึกประจำวันยังไม่รู้อีกว่าถูกจับข้อหาอะไร เอ้า ดูซะ"
"ก็.." คราวนี้สิบเวรและผู้ต้องหาพูดออกมาเกือบจะพร้อมๆ กันด้วยข้อความเหมือนกันเป๊ะ "ผมยังพูดไม่จบเลยครับ สวป.ก็มาตัดบทซะก่อน เพราะจริงๆ แล้วน่ะผมจะบอกว่า..ไม่รู้ืข้อหาอะไรต่อมิอะไรนักหนาเพราะมันมากมายซะจนจำไม่หวัดไม่ไหว"
*************************
รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ
"ขอบคุณมากครับลุงเวที" ผมพูดกับสิบเวรซึ่งอายุมากกว่าผมไม่เท่าไรเองแต่แกชอบที่จะให้ใครๆ เรียกแกว่าลุง "เอ้อ ที่ลุงเวทีบอกว่าผู้ต้องหามี ๓ คนน่ะ ข้อหาอะไรบ้างล่ะลุง" ผมถามต่อ
"ครับผม คนแรกข้อหาเสพยาบ้า คนที่สองข้อหาพรากผู้เยาว์ สำหรับคนที่สามไม่รู้ข้อหาอะไร..."
"เอ๊ะ ยังไงนี่ลุง" ผมพูดแทรกขึ้นมาโดยที่สิบเวรยังตอบไม่ทันจบ "เป็นไปได้ยังไง การเข้าสิบเวรน่ะจะต้ิองรู้ซิ่ึครับว่าผู้ต้องหาในห้องขังถูกจับข้อหาอะไรกันบ้าง"
"นายครับ" สิบเวรพูดต่อ "คือ คนที่สามเนี่ยะ.."
"พอ พอแล้ว ไม่ต้องพูด อะไรกันเข้าเวรแต่ไม่รู้ว่าคนเขาถูกจับข้อหาอะไร" ผมตอบ "ไป ลุงเวทีเข้าไปดูในห้องขังกับผมเดี๋ยวนี้เลยแล้วเรียกเจ้าหน้าที่ประจำวันนำประจำวันที่บันทึกการจัุบกุมเข้าไปพบในห้องขังด้วย"
ผมพูดเสร็จสิบเวรก็บอกเจ้าหน้าที่ประจำวันซึ่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กับห้องขังราว ๓-๔ เมตรตามที่ผมสั่งพร้อมเปิดประตูห้องควบคุมและเดินเข้าไปกับผม ภายในห้องควบคุมมีผู้ต้องหาเพศชาย ๓ คนตามที่ลุงแกบอกจริงๆ โดยแยกขังเป็น ๒ ห้องๆ แรกมี ๒ คน ส่วนอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ในสุดมี ๑ คน
ผมถามผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในห้องแรก ๒ คนนั้นก็ได้ความว่าคนแรกถูกจับข้อหาเสพยาบ้าส่วนอีกคนหนึ่งข้อหาพรากผู้เยาว์ตามที่ลุงแกบอกผมตอนถึงโรงพักเป๊ะ
"สวัสดีน้อง" ผมพูดกับผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งซึ่งถูกขังอยู่คนเดียวในห้องด้านในสุด "เป็นไง ถูกจับข้อหาอะไรเหรอ"
"สวัสดีครับอ้ายตำรวจ" ผู้ต้องหาคนนั้นตอบโดยเรียกผมว่าอ้ายหรือพี่ (ไม่เหมือนสิบเวรที่เรียกลุง (ฮา)) "ผมถูกจับไม่รู้ข้อหาอะไร...."
"เอ๊ย!!!" ผมกึ่งพูดกึ่งอุทานโดยที่ผู้ต้องหายังอยากจะัพูดอะไรต่ออีกนิดหนึ่ง "เป็นไปได้ไงเนี่ย ทั้งคนถูกจับ ทั้งสิบเวรไม่รู้เลยว่าถูกจับข้อหาอะไร เฮ้อ เห็นทีผมจะต้องสังคายนาใหม่ซะแล้ว เอ้อ นี่ลุงเวที..."
"นายครับ" เจ้าหน้าที่ประจำวันเดินเข้ามาหาในห้องขังพร้อมพูดขึ้นก่อนที่ผมจะพูดกับสิบเวรจบ "นี่ครับ หลักฐานการจับกุมในบันทึกประจำวัน"
"ขอบคุณมาก" ผมตอบแล้วดูรายละเอียดในประจำวันเสร็จแล้วยกให้สิบเวรและผู้ต้องหาคนนั้นดู "นี่ไงลุงเวที ข้อหาก็มีอยู่ทนโท่ในบันทึกประจำวันยังไม่รู้อีกว่าถูกจับข้อหาอะไร เอ้า ดูซะ"
"ก็.." คราวนี้สิบเวรและผู้ต้องหาพูดออกมาเกือบจะพร้อมๆ กันด้วยข้อความเหมือนกันเป๊ะ "ผมยังพูดไม่จบเลยครับ สวป.ก็มาตัดบทซะก่อน เพราะจริงๆ แล้วน่ะผมจะบอกว่า..ไม่รู้ืข้อหาอะไรต่อมิอะไรนักหนาเพราะมันมากมายซะจนจำไม่หวัดไม่ไหว"
*************************
รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น