วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประชุมเจ้าหน้าที่สายตรวจมอบหมายภารกิจก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ (๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔)

วันนี้เวลาประมาณ ๑๕.๕๐ น.ผมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ผลัดที่จะปฏิืบัติหน้าที่ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐-๒๔.๐๐ น.เพื่อชี้แจงและมอบหมายภารกิจก่อนออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าอาคารที่ทำการสถานี โดยก่อนชี้แจงภารกิจได้ตรวจสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในเรื่องเครื่องแต่งกาย,อาวุธปืนประจำกาย,อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสายตรวจและยานพาหนะแล้วพบว่าทุกคนมีความพร้อมที่จะปฏิบัติืหน้าที่โดยไม่มีปัญหาข้อขัดข้องใดๆ







เจ้าหน้าที่สายตรวจผลัดนี้ประกอบด้วย

สายตรวจรถยนต์
๑. ด.ต.องอาง กิติมา
๒. ด.ต.กษิดิ จันพรม
๓. ด.ต.อภิชาติ ธรรมธุระ




สายตรวจรถจักรยานยนต์
๑. ด.ต.ชัยทัต บาลใจ
๒. ด.ต.ทุ่ม มาหาญ
๓. ด.ต.สอนวุฒิ บุญสูง
๔. จ.ส.ต.ณัฐวัฒน์ มังคละ



การประชุมครั้งนี้ได้ชี้แจงและมอบหมายภารกิจแก่เจ้าหน้าที่สรุปได้ดังนี้
๑. ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมและกวดขันสถานบริการหรือร้านอาหารที่มีลักษณะ คล้ายสถานบริการตามหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ ๐๐๐๗.๒๒/๔๘๑๒ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบในการประชุมวันนี้อย่างเคร่งครัด
. เน้นการปฏิบัติให้มากเป็นพิเศษบริเวณย่านชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน



. ให้ดำเนินการตามมาตรการทิ้งทุ่นโดยการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจจากการทำให้คนน้อยเป็นคนมากตามวิธีการที่แจ้งในการประชุมวันนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความอุ่นใจและเป็นการลดช่องโอกาสของคนร้ายที่จะกระทำผิด
. เพิ่มความสังเกตและตรวจค้นบุคคล/ยานพาหนะซึ่งมีลักษณะผิดปกติ เช่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดนานผิดสังเกต หรือพกพาอาวุธ หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่



. ภารกิจสำคัญตำรวจคือต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอุดมคติเพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคมตามความหมายของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจสายตรวจจะต้องมีความใกล้ชิดกับประชาชนทำงานกับสังคม จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตนเองเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคมและพฤติกรรมของคนอันเป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ
. ให้นำจิตสำนึกในการให้บริการ (Service Mind) เป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีดังนี้
) ความสามารถเข้าใจความคาดหวังและความต้องการของประชาชนหรือผู้มาใช้บริการงานตำรวจหรือประชาชนที่ตำรวจพบ ซักถาม
) มีค่านิยมว่าตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนหรือประชาชนผู้เดือดร้อน,ผู้แจ้งหรือชุมชนเป็นผู้ที่ต้องให้ความสำคัญ



) ฝากข้อคิดในเรื่องการตอบสนองความต้องการผู้รับบริการจากตำรวจอย่างเอื้ออาทร เต็มใจ ด้วยกริยาวาจาเหมาะสม ครบวงจร ในสภาพที่เป็นไปได้จริง หรือศีลธรรมและกฎหมายหรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมให้ทุกคนไว้พิจารณาซึ่งได้แก่
ระดับ ๑.ให้บริการประชาชน เพราะหน้าที่หรือผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ทักทาย ไม่แนะนำ ใช้น้ำเสียง หรือคำพูด กริยา ที่ผู้รับบริการหรือสัมผัสฟังแล้วทำให้ไม่พอใจหรือไม่เข้าใจ ทำให้มองภาพพจน์ตำรวจในทางลบ มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำงานบ่อย
ระดับ ๒ ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือปรับบุคลิกภาพหรือมารยาทตามเหตุการณ์ที่เหมาะสม ใช้คำพูด กริยาเหมาะสมไม่ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ผู้รับบริการ แก้ไขปัญหาหรือบริการตามพันธะสัญญาได้ตามที่กำหนด



ระดับ ๓ แก้ไขปัญหาของผู้รับบริการได้อย่างพอใจหรือได้ดีกว่าตามพันธะสัญญาที่กำหนดไว้
ระดับ ๔ เป็นตัวอย่างในการให้บริการประชาชนหรือผู้รับบริการได้พอใจเป็นแบบอย่างในหน่วยงานหรือสถานีตำรวจของเรา
ระดับ ๕ ชักนำ หรือเป็นตัวแบบนำผู้ร่วมงาน หรือถ่ายทอด กระตุ้นให้ผู้ร่วมงานบริการแก้ไขปัญหาของประชาชนหรือผู้ใช้บริการได้ประทับใจอย่างกว้างขวางในหน่วยงานหรือสถานีตำรวจของเรา
. สำหรับภารกิจที่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติมีลักษณะเช่นเดียวกันกับการประชุมเมื่อครั้งที่ผ่านๆ มา

เจ้าหน้าที่รับทราบ

ปิดท้ายด้วยการดำเนินการตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชนของ สภ.พานกันเช่นเคยครับ โดยภาพด้านล่างนี้เป็นการปรับปรุงซ่อมแซมห้องน้ำชั้นที่ ๒ และชั้นที่ ๓ ของอาคารหลังใหม่เพื่อให้สามารถบริการพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น