วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เกิดมาเป็นนาย : โลกตำรวจ โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)

ขอเพียงแค่เป็นเส้นเชือกให้พิงตำรวจชั้นประทวนเปรียบเทียบการกระทำของ นายในความคาดหวังของเขา ก่อนที่จะมีคำพูดตามมาในลักษณะของคนที่อยากจะระบายสิ่งที่อยู่ในใจ

ตำรวจหนุ่มเล่าว่าเหล่าบรรดาตำรวจชั้นประทวนต่างรู้กันดีว่าสุดท้ายปลายทางของวิถีการรับราชการสำหรับตำรวจชั้นประทวนคือนายดาบตำรวจ ด้วยเหตุนี้ตำรวจชั้นประทวนจึงมิได้คาดหวังยศฐาบรรดาศักดิ์เฉกเช่นที่นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรต้องการ ไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอก แค่คำพูดที่ให้กำลังใจในยามที่เหนื่อยจากการทำงานพลาดมาตำรวจหนุ่มแสดงความคิดเห็นว่าโดยทั่วไปแล้วเมื่อออกไปทำงานตามคำสั่งนายนั้นไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดตั้งใจที่จะทำงานให้พลาด แต่หากวันใดที่พวกเขาพลาด ท้อแท้ ตำรวจสายสืบพูดแทนเหล่าบรรดาตำรวจชั้นประทวนว่า ไม่ใช่ว่าพอเห็นลูกน้องเริ่มเซก็เอาเท้าขัดให้มันล้มเลย

"เขาเกิดมาเป็นนายจริงๆตำรวจนายเดียวกันเล่าถึงนายตำรวจที่เคยทำงานด้วยกันด้วยน้ำเสียงชื่นชม ศรัทธา แต่หายากนะ ตั้งแต่เป็นตำรวจมาก็เพิ่งจะเห็นนี่แหละเขาเล่าว่า ทุกครั้งที่มีคดีอุกฉกรรจ์นายคนนี้จะไปถึงที่เกิดเหตุทุกครั้ง นายจะมานั่งร่วมกับพวกเขาด้วยบรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเองไม่มีพิธีรีตรอง พูดคุยเรื่องคดีแต่ละคดี ถามไถ่แสดงความเห็น แนะนำ นายเขาจำได้ทุกคดีการติดตามใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอทำให้นายและลูกน้องเข้าใจเรื่องราวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องการคำอธิบายมากมาย

ดึกดื่นแค่ไหนโทรไปเหอะ ไม่มีหรอกที่จะหงุดหงิดหรือไม่รับสายนี่คือนายที่พร้อมสำหรับการทำงานพิทักษ์สันติราษฎร์  "แต่คนแบบนี้ไม่ก้าวหน้าหรอกนะประสบการณ์ในวงการตำรวจทำให้ตำรวจหนุ่มสรุปเช่นนั้น

แปลกนะ พอนายใหญ่ดีนายคนอื่นๆ ก็ดีด้วยตำรวจนายเดียวกันตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อผู้นำมีคุณลักษณะของการเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจที่มีภาวะผู้นำแล้วนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาระดับรองลงมาก็มีภาวะผู้นำและตั้งใจทำงานด้วย

ดิฉันนั่งฟังและวิเคราะห์คำบอกเล่าของตำรวจหนุ่มด้วยความสนใจ เริ่มต้นจากการขอให้นายเป็น แค่เพียงเชือกไม่ได้ขอพิงหลังหรือขอให้นายอุ้มในยามพลาดพลั้งหรือท้อแท้ แต่ดูเหมือนว่าในโลกของตำรวจนั้นแม้เพียงแค่การเป็นเพียงเส้นเชือกก็ยังดูว่าจะหาได้ยากยิ่ง นอกจากจะไม่ทำตัวเป็นเส้นเชือกให้พิงหลังหรือยึดเหนี่ยวแล้วนั้นยังเรียกร้องการดูแลจากผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมากมาย

จับหมื่นได้สามพันนายตำรวจใหญ่เล่าเกริ่นนำ ผู้ได้สามพันคือนายดิฉันถามย้ำเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ นายตำรวจใหญ่หัวเราะ พร้อมเฉลยด้วยคำสั้นๆ "กลับกันกลับกลายเป็นว่า ส่วนแบ่งของรางวัลแห่งการทุ่มเทเหนื่อยยากในการทำงานกลับกลายเป็นนายได้มากกว่าผู้ปฏิบัติงาน

ตัวอย่างเล็กๆ ของการกดขี่เอารัดเอาเปรียบที่เกิดขึ้นบนความสัมพันธ์ระหว่างนายกับลูกน้องในโลกของตำรวจนั้น ทำให้ดิฉันเริ่มเข้าใจปรากฏการณ์ของการที่ประชาชนส่วนหนึ่งในสังคมพูดถึงตำรวจไทยในภาพลักษณ์ผู้กดขี่ ข่มเหง ขูดรีด เอารัดเอาเปรียบ มากกว่าที่จะมองตำรวจในภาพลักษณ์ของผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข

อย่าทำให้ผู้บังคับบัญชาลำบากใจอีกตัวอย่างหนึ่งของคำพูดที่แสดงให้เห็นว่าลูกน้องต้องดูแลนายเสมอ ถึงแม้ว่าลูกน้องจะทุกข์จากการไม่ได้รับความเป็นธรรม บุคคลกลุ่มแรกที่จะต้องให้ความสำคัญและใส่ใจลำดับแรกคือนาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น