พระเอกของ ไทยทุกยาม เสียชีวิต
ขอวิญญาณ ท่านจง สิงสถิต
ในสวรรค์ นะมิตร ชัยบัญชา
มิตรเป็นพระ-เอกของ ไทยทั้งแดน
ทั่วแว่นแคว้น ใกล้ไกล ในโลกหล้า
แม้มิตรตาย จากไป หลายเพลา
ความทรงจำ ยังแจ่มจ้า สถาวร
วันนี้ในอดีต ๘ ต.ค.๒๕๑๓“มิตร ชัยบัญชา”พระเอกยอดนิยมของคนไทยเสียชีวิต
ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ที่เขาเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำ
วันนี้ในอดีต
๘ ตุลาคม ๒๕๑๓วงการบันเทิงประเทศไทยได้สูญเสีย “มิตร ชัยบัญชา” พระเอกยอดนิยมของคนไทย เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพลัดตกจากเฮลิคอปเตอร์
ขณะถ่ายทำฉากสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง“อินทรีทอง”ที่หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี ขณะอายุเพียง ๓๖ ปี
มิตร
ชัยบัญชา มีชื่อเดิมว่า“จ่าอากาศโท พิเชษฐ์ พุ่มเหม” เกิดที่อำเภอท่ายาง
จังหวัดเพชรบุรี บิดาเป็นตำรวจชั้นประทวน มารดาเป็นแม่บ้าน
ทั้งคู่แยกทางกันตั้งแต่บุตรชายยังเด็ก ๆ ตอนเล็ก ๆ
จึงมีชื่อว่า“บุญทิ้ง”พอเขาอายุได้ ๑ ขวบแม่ก็ไปเป็นแม่ค้าขายของที่กรุงเทพฯ
โดยฝากมิตรไว้กับปู่และย่า
จากนั้นก็พามิตรไปบวชเณรที่“วัดท่ากระเทียม”
ได้คอยติดสอยห้อยตามหลวงพ่อและอาศัยข้าวก้นบาตร
เมื่อเรียนชั้นมัธยมก็ได้ทำงานรับจ้างหลากหลายและหัดชกมวย จนเป็น“นักชกเหรียญทองรุ่นไลท์เวท” ในที่สุดก็สอบเข้า“โรงเรียนจ่าอากาศ” ที่จังหวัดนครราชสีมา
สำเร็จการศึกษาในปี ๒๔๙๗
ต่อมารุ่นพี่ซึ่งเห็นหน่วยก้านของ“มิตร”ได้แนะนำให้รู้จักกับ“ผู้กับกำกับภาพยนตร์” จนได้เล่นหนังเรื่องแรกคือ”ชาติเสือ”พร้อมกับได้ชื่อใหม่ว่า “มิตร ชัยบัญชา”ก่อนจะเริ่มมีชื่อเสียงในปี ๒๕๐๒ จากบท”โรม ฤทธิไกร“หรือ”อินทรีแดง“ในภาพยนตร์เรื่อง”จ้าวนักเลง”ในปี ๒๕๐๔ ได้เล่นหนังคู่กับ“เพชรา เชาวราษฎร์”เรื่อง”บันทึกรักพิมพ์ฉวี”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทั้งคู่ก็ได้เล่นหนังใน“บทพระ-นางเอก”คู่กันมาอีกกว่า ๑๐๐ เรื่อง
จนแฟนภาพยนตร์เรียกว่า“มิตร-เพชรา”เขาลาออกจากราชการในปี
๒๕๐๖ เนื่องจากการสร้างภาพยนตร์เรื่อง”ครุฑดำ”ที่เขาถูกกล่าวหาว่านำสัญลักษณ์ตราครุฑมาใช้อย่างไม่เหมาะสม
จากนั้นก็แสดงหนังออกมาอีกจำนวนมาก จนสามารถทำเงินเข้าบัญชีสัปดาห์ละนับแสนบาท
ในปี ๒๕๑๑ ขณะที่กำลังมีชื่อเสียงดังเป็นพลุแตก
“มิตร ชัยบัญชา”ลงเล่นการเมือง โดยลงสมัครรับเลือกตั้ง“สมาชิกสภาเทศบาล” แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ปีต่อมาก็ทดลองสมัครรับเลือกตั้งเป็น“สมาชิกเขตพระนคร”
แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง
เขาต้องสูญเสียเงินทองจากการหาเสียงไปไม่น้อย จนเงินในบัญชีร่อยหรอ ต้องจำนองบ้าน
มรสุมชีวิตครั้งนี้ทำให้“มิตร”ต้องหลบความผิดหวังเข้าไปพักในป่า
ก่อนจะออกมารับคิวแสดงภาพยนตร์
“มิตร ชัยบัญชา” กลับมามีชื่อเสียงฟีเวอร์อีกครั้ง จนกระทั่งเรื่อง“อินทรีทอง”เขาก็ประสบอุบัติเหตุตก จากการโหนเฮลิคอปเตอร์
ทำไม “มิตร
ชัยบัญชา”จึงไปตายคากล้องกองถ่ายหนังเรื่อง อีนทรีย์ทอง???
วันสุดท้ายของการทำงานหนักของเขา
คือวันธรรมดาๆวันหนึ่ง คือวันพฤหัสบดีที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๓ กองถ่ายอยู่ที่หาดดงตาล
พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี
มีการถ่ายทำหนังกันมาตั้งแต่เช้า..จนมาถึงบ่ายสามโมงเย็นกว่า ๆ แล้ว
เหลือแค่คิวง่ายๆ ถ่ายพระเอกกระโดดเกาะเชือก ที่ผูกติดไว้กับตัวเฮลิคอปเตอร์
ให้นักบินบินข้ามกล้องถ่ายหนัง แล้วลงจอดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที “เรียกว่าจบคัทที่หนึ่ง”
ซึ่งตัวพระเอกคือ“มิตร ชัยบัญชา”ต้องการแสดงเอง เพื่อให้ผู้ชมเห็นชัดๆว่าเป็นตัวเขาโหน
แล้วจึงถ่ายใหม่อีกครั้ง
เปลี่ยนมุมกล้อง เปลี่ยนตัวแสดงมาเป็น“สตั่นแมน”ที่มีเชฟตี้พร้อม ถ่ายตอนเครื่องเฮลิคอปเตอร์บินสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว นี่“เรียกว่าคัทที่สอง”
เมื่อนำฟิลม์มาเข้าห้องตัดต่อ
รวมภาพจาก“คัทที่หนึ่ง”และ“คัทที่สอง”แล้วเราก็จะเห็นภาพยนตร์ที่“มิตร ชัยบัญชา” วิ่งไปกระโดดโหนเชือก แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็ยกตัวบินพาเขาไปบนอากาศ
เป็นภาพฉากจบของภาพยนตร์“อินทรีย์ทอง”ที่ตัวเขาเป็นทั้ง“ผู้กำกับการแสดง”และเป็นนักแสดงนำหรือพระเอกของเรื่อง
รวมทั้งเป็นผู้“ครีเอทีฟฉาก”นี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งเป็นเรื่องเบสิคของการถ่ายทำภาพยนตร์ ไม่มีอะไรซับซ้อนให้ต้องกังวลใจ...!!!!!
และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ดั่งใจเขา
เพียงแต่ในความเป็นจริง มันไม่มีการเปลี่ยนตัว ไม่มีมีคัทที่สอง
!!!เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ลงจอด เพื่อเปลี่ยนมุมกล้อง และเปลี่ยนตัวแสดงเป็น“สตั่นแมน”ที่รออยู่เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นสูงและลากตัวเขาปลิว!!ไปบนอากาศ ความสูงระดับ
๓๐๐ ฟุต(ต้นตาล๒ต้นมาต่อกัน)
ชนิดว่าเลนส์ของกล้องถ่ายหนังก็ไม่สามารถหาภาพความคมชัดได้ โดยที่ตัวเขามือเปล่าๆ
เท้าไม่ได้เหยียบอะไรไว้เลย..
ดังนั้นในที่สุดเขาก็หมดแรง
มือ(มีแผล)หลุดจากการเกาะกุม แล้วร่างก็ปลิวลงมากระแทกจอมปลวกขาดใจตายทันที
ร่างแหลกยับเยิน!! เหลือทิ้งไว้แต่ความตกใจ! เสียดาย! เสียใจ...
ความผิดพลาดของทีมงานไม่มีใครยึดอกรับผิดชอบ
ทุกฝ่ายโยนให้คนตาย เพื่อเอาตัวรอด และคดีความก็ยุติลงเพียงเท่านี้คือ“มิตร
ชัยบัญชา”ออกเอง เหมือนกับเมื่อครั้งเขามีชีวิตอยู่
เขาชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ ทุกคน ให้พ้นจากความเดือดร้อน ใครมีปัญหาอะไรให้บอก
เขาช่วยเต็มที่ มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก และในที่สุดเขาให้เพื่อนๆด้วยชีวิต
เขาตายฟรี โดยทีมงานที่เกี่ยวข้องรอดพ้นคุกไปได้แบบลอยนวล!!
ศพของ“มิตร
ชัยบัญชา”ตั้งบำเพ็ญกุศล ที่“วัดแคนางเลิ้ง”
แต่มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานหลายหมื่นคน จนพื้นที่ไม่เพียงพอ
ต้องย้ายไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่“วัดเทพศิรินทร์”มีประชาชนมาร่วมงานกว่าสามแสนคน
“ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช” ถึงกับออกปากว่า“เป็นงานศพของสามัญชน
ที่มีคนมาร่วมงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์”ตลอดชีวิต มิตร
ชัยบัญชา แสดงหนังทั้งหมด ๒๖๖ เรื่อง
แต่เขาไม่เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่เป็นหนังขนาด ๑๖ มม.
มีขนาด ๓๕ มม. เสียงในฟิล์มเพียง ๑๖ เรื่อง แสดงคู่กับนางเอกมากกว่า ๒๙ คน
โดยแสดงคู่กับ“เพชรา เชาวราษฎร์” มากที่สุดถึง
๑๗๒ เรื่อง
การจากไปของ“มิตร”ยังความเศร้าโศกเสียใจต่อแฟนหนังไทยเป็นอย่างยิ่ง
ถึงขั้นมีการถอดเรื่องราวชีวิต“มิตร”ผ่านบทละครวิทยุเรื่อง“ดาวดินปาฏิหาร์ยแห่งรัก ลิขิตแห่งหัวใจ”ความยาว ๓๘ ตอน
มีการจัดประกวดแฟนพันธุ์แท้ ฮือฮาสุดเมื่อครั้งครบรอบ ๓๘ ปีของการจากไปของพระเอกหล่อขั้นเทพแต่งตัวเนี๊ยบ!!คนนี้
และเกิดการรวมตัวกันในนาม“คนรักมิตร ชัยบัญชา”จัดกิจกรรมรำลึกขึ้นทุกๆปี
ปีนี้ก็เช่นกัน
ครบรอบ ๔๗ ปีที่“มิตร ชัยบัญชา”พระเอกยอดนิยมของคนไทยเสียชีวิตเริ่มช่วงเช้าของวันที่
๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ไหว้กระดูกที่วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพมหานคร จากนั้น ๘.๐๐ น.ออกเดินทางไปวัดท่ากระเทียม ที่อ.ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
ที่ประดิษฐานหุ่นมิตร ชัยบัญชา
หุ่นมิตร
ชัยบัญชา ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ัชัดว่าประดิษฐานไว้ที่แห่งใดบ้าง
แต่ที่คนไทยค่อนประเทศนิยม ศรัทธา กราบไหว้บูชาขอพรด้วยกล้วยน้ำหว้า, ไข่เจียวใส่มะเขือเทศ,
ข้าวมันไก่, โอเลี้ยง ฯลฯ
มีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง อาทิ ศาลมิตร ชัยบัญชาที่หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้
จังหวัดชลบุรี สถานทีุ่เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต,ที่วัดแคนางเลิ้ง
กรุงเทพฯ,ที่วัดท่ากระเทียม และที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
ศาลายา จังหวัดนครปฐมฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น