วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ระฆังประจำโรงพัก (๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒)

“ระฆัง” ที่เห็นนี่เป็นระฆังของโรงพักภูกามยาวซึ่งอยู่คู่กันมาแต่เนิ่นนานเรียกว่าพอสร้างโรงพักก็มีระฆังนี้ (ประมาณ ๕๐ ปีเศษ) ปัจจุบันโรงพักหลายๆ แห่งไม่มีการนำระฆังมาแขวนไว้อีกแล้ว ทำให้ตำรวจรุ่นใหม่หรือชาวบ้านทั่วไปในสมัยนี้อาจจะไม่ทราบถึงความสำคัญของระฆังที่ในอดีตโรงพักทุกแห่งจะต้องมีระฆังเอาไว้ประจำโรงพักเพราะจะใช้สำหรับให้สิบเวรตีบอกเวลาในขณะเข้าเวรยามหรือใช้สำหรับตีระฆังเปลี่ยนเวรยามหรือแจ้งเตือนเหตุร้ายและเป็นกุศโลบายของผู้บังคับบัญชาที่จะทำให้ทราบว่าสิบเวรหลับยามขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เพราะต้องตีบอกเวลาทุกชั่วโมง แต่เมื่อกาลเวลาได้เปลี่ยนไปการติดต่อสื่อสารทันสมัยขึ้นมีการใช้โทรศัพท์ วิทยุสื่อสารหรือการติดต่อทางโลกไซเบอร์อื่นๆ ระฆังประจำโรงพักจึงหมดความจำเป็นและค่อยๆ หายไปทั้งที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำโรงพักที่ทุกแห่งจะต้องมี ทาง สภ.ภูกามยาวจึงอนุรักษ์เอาไว้เป็นเพื่อให้ตำรวจรำลึกถึงประวัติความเป็นมาและวิธีการทำงานของตำรวจในอดีต
เรื่องของระฆังนี่มีกำหนดไว้ในระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีมานานแล้วโดยระเบียบที่ว่านั้นได้กำหนดหน้าที่ๆ หนึ่งของยามประจำสถานีตำรวจที่จะต้องปฏิบัติต่อระฆังที่แขวนไว้ด้วยโดยละเอียดมีดังนี้

ข้อ ๑ ตำรวจยามประจำสถานีตำรวจ มีหน้าที่รักษาการณ์อยู่เฉพาะในบริเวณสถานีตำรวจเท่านั้นโดยมีนายสิบตำรวจเวรเป็นผู้ควบคุมและมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) รักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณ
(๒) ควบคุมดูแลผู้ต้องหาหรือผู้ต้องขัง
(๓) รักษาพัสดุของหลวง และสิ่งของที่ยึดมาประกอบคดีต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในเขตที่ยามรักษา อย่าให้ผู้ใดลักเอาไปหรือทำให้เสียหาย
(๔) ตีระฆังอาณัติสัญญาบอกเวลาและอาณัติสัญญาณอื่น 
(๕) ดูแลรักษาความสะอาดเช่น ระมัดระวังมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดทิ้งมูลฝอยเศษกระดาษ เศษ บุหรี่ ไม้ขีดไฟ บ้วนน้ำหมาก น้ำลาย หรือทำการสกปรกโสโครกอย่างใด ๆ
(๖) ดูแลห้ามปรามมิให้ตำรวจหรือประชาชนที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเข้ามาหรือออกไปจากสถานีตำรวจหรือที่ทำการนั้น เว้นแต่ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ามา เช่นผู้ร้องทุกข์ หรือผู้ต้องหาหรือพยาน เป็นต้น
(๗) ห้ามปรามมิให้ผู้ที่ไม่มีคดีหรือกิจธุระเกี่ยวข้องกับหน้าที่ราชการเข้ามาคุยกันเล่นในสถานีตำรวจ หากมาหาผู้ใดในสถานีตำรวจเป็นส่วนตัวให้บอกไปพบปะกันข้างนอก เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาจึงเข้าไปได้ชั่วคราว
(๘) ห้ามปรามมิให้ตำรวจที่ไม่มีหน้าที่ราชการเกี่ยวข้องอย่างใดเข้าไปนั่งเล่นในสถานีตำรวจ หรือจับต้องสิ่งของที่วางไว้กับที่เรียบร้อยดีแล้วนั้นให้เคลื่อนจากที่
(๙) ห้ามปรามมิให้ผู้ใดเข้าไปพูดจากับผู้ต้องหาหรือส่งสิ่งของอย่างใดให้แก่ผู้ต้องหาโดยมิได้รับอนุญาตจากนายร้อยเวรประจำการและถ้านายร้อยเวรประจำการอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปพูดกับผู้ต้องหาหรือส่งสิ่งของให้ เป็นหน้าที่ของยามที่จะต้องช่วยเหลือนายสิบตำรวจเวรตรวจตราดูของนั้นให้ถี่ถ้วน อย่าให้หมกซ่อนอาวุธ สุรา ยา ฝิ่น เครื่องดองของเมา ยาพิษ หรือเอกสารอื่นใดเข้าไปในห้องควบคุมได้ และเมื่อจะพูดจากกับผู้ต้องหานั้นอย่างไร ก็ให้พูดดัง ๆ ให้ได้ยินทั่วถึงกัน ห้ามมิให้พูดซุบซิบกับผู้ต้องหา
(๑๐) ยามในเวลากลางคืนให้มีหน้าที่ปลุกยามสายตรวจและยามผลัดต่อไปซึ่งต้องมานอนอยู่บนสถานีตำรวจแล้วให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามกำหนดเวลา


หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเขียนเกี่ยวกับเรื่องระฆังประจำโรงพักในวันนี้คงจะเกิดประโยชน์ต่อผู้สนใจอยู่บ้างตามสมควร

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ 
มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น