วันนี้วันพฤหัสบดีที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ วันทำงานของพี่น้องส่วนใหญ่ ขอให้มีความสุขสนุกสนานกับงานที่ทำโดยทั่วกันนะครับ
เช้านี้ผมมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาราชการเล็กน้อยเหมือนๆ กับทุกวันที่ผ่านมา เมื่อมาถึงแล้วก็ตรวจตราดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรเข้ายามที่โรงพักตามหน้าที่ซึ่งพบว่าทุกคนมาทำหน้าที่กันครบถ้วน
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่บรรยากาศที่ภูกามยาวและใกล้เคียงแจ่มใส สดชื่น ลมพัดมาเอื่อยๆ เย็นๆ รอบทิศทาง ดูสภาพแล้วฝนฟ้าไม่น่าจะตกลงมา แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันนะครับของพรรค์นี้
สำหรับสถิติคดีอาญาและจราจรของโรงพักภูกามยาวเราที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้มีคดีอาญาเกิดขึ้น ๑๐๓ คดี คดีจราจรเกิดขึ้น ๓๓ คดีซึ่งถือว่าไม่มากและก็ไม่น้อยนักสำหรับโรงพักเล็กๆ อย่างภูกามยาวที่มีประชากรราว ๑๑,๐๐๐ คนเศษโดยพนักงานสอบสวนของเราตามปกติมี ๓ คนแต่ปัจจุบันเหลืออยู่ ๒ คนเพราะอีก ๑ คนไปอบรมหลักสูตรสารวัตรซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ
ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ติดต่อราชการที่โรงพักช่วงเช้ามีอยู่บ้างประปราย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแจ้งเอกสารหายหรือแจ้งไว้เป็นหลักฐานโดยพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้พี่น้องจนเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นานและสำหรับผมเองก็ได้ใช้โอกาสนี้พูดคุยกับพี่น้องด้วยส่วนหนึ่ง
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของผมในวันนี้จะมีอะไรบ้างนั้นผมจะนำมาบันทึกไว้หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนั้นเป็นระยะๆ เหมือนเคยครับ
<<
ภาพในส่วนนี้ >>
เวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น.เป็นต้นไป สภ.ภูกามยาวจัดให้มีการฝึกข้าราชการตำรวจประจำสัปดาห์ขึ้นที่ลานหน้าที่ทำการ สภ.โดยข้าราชการตำรวจที่ไม่ติดราชการสำคัญเข้ารับการฝึกประมาณ ๖๐ คน
<< รายละเอียด >>
"เออนี่สูเขา ยังไงก็อย่าลืมขอเบอร์โทรพี่เจ้าของร้านวิทยุสื่อสารไว้ด้วยนะเผื่อจะได้ถามพี่เขาว่าโรงพักเฮามีฝึกวันไหน พี่คนนี้น่ะเขารู้ดีกว่าตำรวจเราบางคนอีก เฮ้อ" ผู้บังคับบัญชาจ่ม (บริภาษ) ตำรวจบางคนหลังจากฝึกเสร็จ
..........
<< ภาพในส่วนนี้ >>
ร้านของเรา ใจดี ตัดฟรีจ้ะ
เชิญสิจ๊ะ มามะ มาลองตัด
ขาวสามด้าน บนเหี้ยนเต้ เก๋ชะมัด
แถมไม่ต้อง เสียสักอัฐ ไปตัดเล้ยยยยย
.........
ทุกๆ วันฝึกร้านของเรา "ภูกามยาวบาร์เบอร์" เปิดบริการจ้า อย่าลืมอุดหนุนนะ ฟรีฟรีฟรี
<< ภาพในส่วนนี้ >>
"ม่ายต้องห่วงหรอกตำรวจโยเดีย (ไทย) พวกโผมกินตามที่พี่แอ๊ด คาราบาวเขาบอกว่า 'ห้ามดื่มเกินวันละ ๒ ขวด' ครับโผมม" คนงานหนุ่มชาวพม่าพูดให้ฟัง
..........
ช่วงบ่ายผมเดินไปตรวจติดตามความคืบหน้าการสร้างแฟลต ๕ ชั้นของโรงพักภูกามยาวซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอาคารที่ทำการนี่แหละครับ ตามสัญญาการก่อสร้างนั้นกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเวลา ๑ ปีซึ่งนี่ก็ผ่านไปได้เดือนกว่าๆ แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสร้างฐานรากซึ่งเท่าถามจากหัวหน้าคนงานเขาบอกว่าหลังจากผ่านการสร้างฐานรากแล้วอะไรต่ออะไรก็จะง่ายขึ้นแล้วและการก่อสร้างจะเสร็จทันภายในกำหนดสัญญาแน่นอน
พูดถึงเรื่อง "เครื่องดื่มชูกำลัง" อย่างที่ผมเปรยหัวเรื่องไว้นั้นผมได้พูดคุยกับคนงานก่อสร้างซึ่งทุกคนเป็นคนพม่าและพักอาศัยอยู่ที่ที่พักด้านหลังโรงพักซึ่งเขาปลูกสร้างกันเองแล้วได้ความว่าคนงานที่นี่ (รวมถึงแทบจะทุกคนที่มาทำงานในเมืองไทยด้วย) จะดื่มกันทุกคนๆ ละ ๒ ขวดต่อวันไม่เว้นแม้กระทั่งคนงานหญิง เช้าขวดบ่ายขวด โดยเขาเชื่อว่ามันจะทำให้กำลังวังชาของเขาดีขึ้น ทำงานได้เต็มกำลังขึ้น หากวันไหนไม่ได้ดื่มดูเหมือนแทบจะไม่มีแรงเลย เขาว่าอย่างนั้น สำหรับราคาของเครื่องดื่มที่พวกเขาดื่มกันนี้ตกขวดละ ๑๐ บาท วันหนึ่งก็ ๒๐ บาทต่อคน ที่นี่มีคนงานราว ๒๐ คน ดื่มกันวันละ ๒ ขวด ๒๐ คนก็ ๔๐๐ บาท ไม่น้อยเหมือนกันนะสำหรับเงินที่เสียไป <<
ภาพในส่วนนี้ >>
เวลา ๑๔.๓๗ น.ผมเดินทางไปตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสามแยกหนองลาวพบ พ.ต.ท.นิธิศ นันตาลิต สวป.ฯ กับพวกอยู่ปฏิบัติหน้าที่
.......
<<
รายละเอียด >>
เช้านี้ผมมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาราชการเล็กน้อยเหมือนๆ กับทุกวันที่ผ่านมา เมื่อมาถึงแล้วก็ตรวจตราดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรเข้ายามที่โรงพักตามหน้าที่ซึ่งพบว่าทุกคนมาทำหน้าที่กันครบถ้วน
สำหรับสถิติคดีอาญาและจราจรของโรงพักภูกามยาวเราที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้มีคดีอาญาเกิดขึ้น ๑๐๓ คดี คดีจราจรเกิดขึ้น ๓๓ คดีซึ่งถือว่าไม่มากและก็ไม่น้อยนักสำหรับโรงพักเล็กๆ อย่างภูกามยาวที่มีประชากรราว ๑๑,๐๐๐ คนเศษโดยพนักงานสอบสวนของเราตามปกติมี ๓ คนแต่ปัจจุบันเหลืออยู่ ๒ คนเพราะอีก ๑ คนไปอบรมหลักสูตรสารวัตรซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ
ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ติดต่อราชการที่โรงพักช่วงเช้ามีอยู่บ้างประปราย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแจ้งเอกสารหายหรือแจ้งไว้เป็นหลักฐานโดยพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้พี่น้องจนเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นานและสำหรับผมเองก็ได้ใช้โอกาสนี้พูดคุยกับพี่น้องด้วยส่วนหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น