ผบ.ตร.
๑) ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นภัยคุกคามชาติ จำนวนผู้เสพยาทั่วประเทศประมาณ ๑.๒ ล้านคน ชนกลุ่มน้อยต่างๆ รอบประเทศอีก ๗ แสนคน ราคายาเสพติดยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทั้งที่การกดดันจับกุมมากขึ้น ต้องตั้งคำถามและพยายามปราบปรามให้ได้
๒) ยุคนี้โลกาภิวัตน์ทำงานยาก ยุคไอทีไร้พรมแดน ยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคของสิทธิมนุษยชน ข่าวสาร การตรวจสอบ หากตำรวจไม่เท่าทันจะตกเป็นเหยื่อ ทุกวันนี้ข่าวสารในโลกถึงกัน การแฮกระบบคอมพิวเตอร์ เป็นไซเบอร์ไครม์ อาชญากรรมไอทีซึ่งเป็นภัยคุกคาม ทุกวันนี่จราจรทำหน้าที่ไม่เหมาะก็ถูกถ่ายคลิปแพร่ในโลกออนไลน์ จากสถานการณ์นี้ผู้นำหน่วยตำรวจต้องรู้ มีข้อมูลในการขับเคลื่อน จะโตแบบไร้ทิศทางไม่มีประสบการณ์ไม่ได้แล้ว เหตุระเบิดบอสตัน สหรัฐอเมริกา เราได้เห็นการบริการวิกฤต ใช้เวลา ๗ วันในการสืบสวนจับกุมได้รับคำชมจากประชาชน ตรงนี้ตำรวจไทยต้องเอาอย่าง
๓) สำหรับผู้นำหน่วย หัวหน้าสถานีกว่า ๑,๕๐๐สถานีทั่วประเทศท่านได้เน้นย้ำข้อเน้นหนักปี ๒๕๕๖ ซึ่งประกอบด้วย
๓.๑ เรื่องการปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ
๓.๒ การปราบปรามยาเสพติด
๓.๓ การปราบปรามอาชญากรรม
๓.๔ การพัฒนาโรงพักให้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านให้ได้
๓.๕ ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
๓.๖ ประชาชนต้องเชื่อถือศรัทธา
๓.๗ เน้นการพัฒนาความรู้ความคิดบุคคลากรในหน่วย
๓.๘ ผู้บังคับบัญชาอย่าทิ้งลูกน้อง
๓.๙ ต้องมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ
๓.๑๐ เน้นภาวะผู้นำหน่วยซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเคลื่อนนโยบาย
๓.๑๑ ย้ำว่าไร้ไพร่พลเลว มีแต่แม่ทัพนายกองเลว
ในการขับเคลื่อนหน่วยจะเกิดขึ้นได้ความเป็นผู้นำหน่วยนั้นสำคัญ มีเป้าหมายในการทำงาน ลดยาเสพติดได้อย่างไร เป้าหมายดำเนินการรายย่อย ยึดทรัพย์ ต้องทำงานเป็นทีม พูดคุยในหน่วยอย่างเป็นเอกภาพ ต้องสามารถพูดให้ลูกน้องทำงาน ศิลปะในการพูด อำนาจนั้นไม่ยั่งยืนแต่ความเชื่อถือมั่นใจในผู้นำมีพลังสำคัญมาก ปลุกเร้าสร้างพลังผู้ใต้บังคับบัญชา พฤติรรรมของผู้นำมีผลต่อกำลังพล ผู้บังคับหน่วยต้องเสียสละให้ ต้องมีข้อมูลและเกาะติด”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น