การพบปะเยี่ยมเยียนในวันนี้ก็คล้ายๆ
กับทุกครั้งนั่นแหละคือนำข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ
ที่เกิดขึ้นที่โรงพักให้พี่น้องทราบว่ามีอะไรบ้าง สาเหตุเกิดจากอะไร
แล้ววิธีป้องกันจะทำกันแบบไหนอะไรประมาณนี้
เพราะผมถือว่าหากพี่น้องของเรารู้เท่าทันเล่เหลี่ยมของคนร้ายซะอย่างแล้วโอกาสที่พี่น้องจะประสบกับเรื่องเหล่านั้นคงจะเป็นไปได้ยาก
เมื่อพี่น้องไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพสังคมเราก็จะมีแต่ความสุขเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้นั่นเอง
ทั้งนี้เพราะพวกเราตำรวจเมืองพานได้ยึดถือและน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ที่พระราชทานไว้ว่าการจับผู้ร้ายนั้นไม่ถือเป็นความชอบ
เป็นแต่นับว่าผู้นั้นได้กระทำครบถ้วนแก่หน้าที่เท่านั้น
แต่จะถือเป็นความชอบต่อเมื่อได้ปกครองป้องกันเหตุร้ายให้ชีวิตและทรัพย์สินของข้าแผ่นดินในท้องที่นั้นอยู่เย็นเป็นสุขพอสมควรมาเป็นแนวทางในการทำงานซึ่งพระบรมราโชวาทนี้ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดก็ตามก็ยังคงความทันสมัยอยู่เสมอและใช้ได้ผลอย่างแท้จริง
นอกจากพบปะเยี่ยมพูดคุยสารทุกข์สุกดิบที่กล่าวข้างต้นแล้วหากพบว่าพี่น้องมีการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูกคนร้ายโจรกรรมหรือลักทรัพย์สินขึ้นได้ก็จะให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่พี่น้องเหล่านั้น อย่างเช่นวันนี้ผมพบรถจักรยานยนต์จอดไว้โดยไม่นำลูกกุญแจติดตัวไปด้วยจึงนำลูกกุญแจนั้นติดตัวไว้และออกสอบถ่ามผู้เป็นเจ้าของจนพบจึงคืนให้พร้อมแนะนำวิธีการแก่พี่น้องคนนั้นว่าทำอย่างไรการจอดรถจึงจะปลอดภัย
การออกพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องครั้งนี้ผมใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะครับเพราะมีความสะดวก คล่องตัวสามารถหยุดพักท้กทายพี่น้องได้ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาด ในชุมชน หมู่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม อีกอย่างหนึ่งก็คือแสดงให้เห็นถึงการปรากฏกายตามทฤษฎีที่พวกเราตำรวจร่ำเรียนกันมาว่าหากตำรวจเราออกปรากฏกายให้เห็นเด่นชัดเท่าใด พี่น้องสุจริตชนก็จะมีความอุ่นใจมากเท่านั้น ประกอบกับเป็นการตัดโอกาสของคนร้ายที่เห็นตำรวจในเครื่องแบบที่จะกระทำผิดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
พี่น้องที่ผมออกไปพบวันนี้มีทุกเพศและทุกวัยซึ่งได้รับการตอบรับจากพี่น้องด้วยไมตรีจิตอันอบอุ่นโดยผมใช้เวลาในการพบปะเยี่ยมเยียนครั้งนี้ประมาณ ๑ ชั่วโมงเศษจึงเดินทางกลับที่ตั้ง
<< ภาพทั้งหมด >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น