ศัพท์เสียงสำเนียงระยองเพื่อพี่น้องไทย : แผลเจ็บ (๓๐ เมษายน ๒๕๕๙)

เพื่อนถาม : เอ่อ แผลเจ็บที่ขาเนี่ยะไปโดนอ้ะไรมา ไหนบอกหน่อยฮิ
เราตอบ : ก็ตอนเด็กๆ น่ะฮิ่ เราขี่จักรยานไปเที่ยว ตอนนั้นปล่อยซะเชี่ยว (ขี่เร็ว) ร่ดตกกะหลุก (หล่อบ่อเล็กๆ) กลางถนนเล่นเอาหนังถก (ถลอก) แล่วก็เป็นแผลเจ็บติดตัวมาถึงเดี๋ยวนี่แหนะ

“แผลเจ็บ” ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะองก็คือ “แผลเป็น” นั่นเองครับพี่น้อง

สวัสดีวันเสาร์ (๓๐ เมษายน ๒๕๕๕๙)

วันเสาร์ ปลายเดือน เคลื่อนคล้อย , แช่มช้อย บรรเจิด เฉิดเฉลา
ความร้อน ค่อยผ่อน บรรเทา , ไม่นาน จะเข้า หน้าฝน
วันเสาร์ พักผ่อน สบาย , สุขใจ ทุกที่ ทุกหน
ขอให้ มีสุข ทุกคน , เทวา ดาลดน สิ่งดี

อากาศเย็นสบาย ความร้อนคลายลงไปนิด
อ่อนแรงแสงอาทิตย์ ไม่หงุดหงิดรำราญใจ
ลมเย็นพริ้วพัดโบก ต้นไม้โยกปลิวไสว
ชุ่มชื่นรื่นฤทัย ณ เมื่อปลายเมษายน

ช่วงบ่ายๆ วันนี้ผมกับภรรยาเดินทางไปทำธุระที่เชียงรายและพักนอน,กินข้าวที่บ้านคุณยาย ๑ คืนครับ

เรื่องนี้น่าสนใจ (๒๙ เมษายน ๒๕๕๙)

โจรผยองปิดตลาดปล้น! นายกฯใช้ ม.๑๗ สั่งปล้นที่ไหนยิงเป้าที่นั่นโดย ๖ นาย ตร.ประกบ ๖ โจร!! วันประวัติศาสตร์ ๒๘ เมษายน ราชาภิเษกสมรสตามรูปแบบกษัตริย์ประชาธิปไตย!!! ส่วนเรื่องอื่นๆ คลิกดูที่นี่ครับ

ภาพตัดต่อ (๒๙ เมษายน ๒๕๕๙)

เห็นเขาแชร์เรื่องของเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งซึ่งว่ากันว่ามีนามสกุลยาวที่ สุดในโลกแล้วก็นึกขึ้นมาทันทีว่า “เป็นไปไม่ได้” น่าจะมีการตัดต่อภาพ เพราะคนไทยเรานั้นตาม พ.ร.บ.ชื่อบุคคล พ.ศ.๒๕๐๕ มาตรา ๘ ระบุว่า “ชื่อสกุลจะต้อง...มีพยัญชนะไม่เกินกว่าสิบพยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล” อีกอย่างหนึ่งทางโรงเรียนที่เด็กคนนี้เรียนอยู่ก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง http://www.tsood.com/content/147078/

ไม่รู้นะผมว่าภาพแบบนี้คือมีวิญญาณมาวนเวียนๆ แถวจุดที่มีการตายน่ะ ข่าวชอบออกกันจริง คนเชื่อก็เชื่อกันจริ๊ง
สมัยนี้ภาพตัดต่อน่ะทำง่ายครับ ผมเองยังเคยทำเล่นสนุกๆ คนเดียวอยู่บ่อยๆ แต่คนที่ทำแล้วเอาออกเผยแพร่พร้อมเขียนอะไรซะน่ากลัวนี่ซิ่มันยังไงๆ อยู่นา

หลายหลายภาพ มองเห็นชัด ว่าตัดต่อ
แต่ไยหนอ คนเราถึง เชื่อง้ายง่าย
ว่าภูติผี หรือปีศาจ มุ่งมาดร้าย
แอบแฝงตัว แลแฝงกาย อยู่ในนั้น
.......
ภาพนี้ก็ตัดต่อครับ ภาพจริงมีผมคนเดียว

ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองเพื่อพี่น้องไทย : ชื่อแกล้ง (๒๙ เมษายน ๒๕๕๙)

"ชื่อจริง ด.ช.สุพจน์ มัจฉา..." เราแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ชั้น ป.๕ ในวันเปิดเทอมใหม่รู้จัก "...ส่วนชื่อแกล้งผมชื่อ "อู๊ด" ครับ"

.......

"ชื่อแกล้ง" ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองก็คือ "ชื่อเล่น" นั่นเองครับพี่น้อง

สวัสดีวันศุกร์ (๒๙ เมษายน ๒๕๕๙)

อ๊ะอ๊ะอ๊า วันศุกร์มา แล้วละเหวย
อ๊ะอ๊ะอ๊า ดีจังเลย สนุกสนาน
อ๊ะอ๊ะอ๊า วันเสาร์น้อย พลอยเบิกบาน
อ๊ะอ๊ะอ๊า กิจการงาน พลันหน้าเดิน
อ๊ะอ๊ะอ๊า สุขอุรา พาผ่องแผ้ว
อ๊ะอ๊ะอ๊า เสียงเจื้อยแจ้ว คนสรรเสริญ
อ๊ะอ๊ะอ๊า เงินมากอง ทองมาเดิน
อ๊ะอ๊ะอ๊า นับจนเพลิน มือหงิกงอ

สวัสดีวันพฤหัส (๒๘ เมษายน ๒๕๕๙)

มาแล้วมาแล้วจ้า มาแล้วหนาพฤหัส
มาแล้วมาชัดชัด พฤหัสมาอีกแล้ว
มาแล้วบ่ได้จุ๊ จู้ฮุกกุ๊เสียงเจื้อยแจ้ว
มาแล้วจ้ามาแล้ว พฤหัสสวัสดี

ราตรีสวัสดิ์ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

หน้าร้อนร้อนจนเพี้ยน ร้อนจนเอียนเลยเปลี๊ยนไป
สัตว์-คนไม่พ้นได้ แม้ตั้งใจจะไม่เพี้ยน
แต่ไม่ควรว่าเขา เพราะตัวเราก็อาจเปลี่ยน
กงกำแลกงเกวียน เราอาจเพี้ยนได้สักวัน

**** ราตรีสวัสดิ์ ****

"ขิง" สมุนไพรไทยขับลม,ไล่ลม (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

"ขิง" สมุนไพรไทยที่รู้จักกันดี มีคุณสมบัติในการ "ไล่ลม,ขับลม" ซึ่งใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณจวบจนปัตยุบันสมัยแลอนาคตกาล

จากคุณสมบัติเด่นที่ว่านี้นี่แล ข้าพเจ้าจึ่งขอแนะนำให้ท่านแขวนขิงไว้หน้าบ้านก่อนที่พายุจะเข้ามาระหว่าง วันที่ ๒๘-๓๐ นี้ทุกครัวเรือนเพื่อ "ไล่ลม" ไม่ให้ทำอันตรายบ้านท่านได้

อาหารเย็นเย็นนี้ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

อ้ะอ๊า กับข้าววันนี้ไม่มีที่หมอสั่งห้ามซักกะอย่าง เสร็จเรา เย้ ยิปปี้

ภาพเก่าเล่าอดีต (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

นรต.รุ่น ๓๖ ชั้นปีที่ ๓ ช่วงรีแลกซ์ระหว่างฝึกหลักสูตร ตปส.ที่อำเภอแม่แตง จ.เจียงใหม่เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๒๔ (ในภาพนี้พี่น้องรู้จักใครบ้างเอ่ย)

ขออภัยครับ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะครับที่สั่งจองบัตรเข้ามากันอย่างล้นหลาม ตอนนี้บัตรที่ผมหมดแล้วแต่อาจจะยังพอเหลืออยู่บ้างที่คณะกรรมการรุ่นคร้าบบบ

เมื่อข้าพเจ้า(แอบ)ได้ยินหมอเขาประชุมกัน (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

"เมื่อที่ประชุมพร้อมแล้วผมก็ขอเปิดประชุมเลย..." หมอคนหนึ่งซึ่งดูสภาพแล้วน่าจะเป็น ผอ.พูด "...การทำงานของพวกเราขอให้มีความรัก ความสามัคคีต่อกัน อาชีพหมออย่างพวกเราแม้จะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ไม่เคยเบียดเบียนหรือสร้างความ เดือดร้อนให้ใคร ขอให้ทุกคนมีความภูมิใจในความเป็นหมอให้มากที่สุด ฯลฯ อ้ะ เมื่อพร้อมแล้วขอให้ทุกคนแยกย้ายกันออกไปทำงานได้"

จากนั้นบรรดาหมอๆ ทั้งหลายก็หอบเสื่อ หอบตำราของตนออกไปปูรอลูกค้าที่โคนต้นมะขามท้องสนามหลวงอย่างมีความสุขกับ งาน

ไปพบหมอ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

วันนี้ตั้งแต่ช่วงสายๆ ผมไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพะเยาซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้านราว ๕๐๐ เมตรครับ เหตุที่ต้องไปพบก็เพราะมีอาการปวดเนื้อเมื่อยตัว ตัวร้อน คล้ายจะเป็นไข้ซึ่งหลังจากหมอตรวจแล้วก็ให้หยูกให้ยามาทานที่บ้านส่วนหนึ่ง และก็เหมือนเคยครับเวลาไปไหนมาไหนผมชอบเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาบันทึกไว้หรือเล่าสู่กันฟัง วันนี้ก็เช่นกัน มา เรามาฟังกันเลย

มันสายไปซะแล้ว...
"เฮ้อ อ้ายอู๊ด น้องขอแสดงความเสียใจตวยเน้อ อ้ายมาหาหมอช้าไป..." น้องพยาบาลสาวสวยคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันดีพูดกะเราด้วยสีหน้าเห็นใจ "...หมอ...ที่อ้ายจะมาพบน่ะเปิ้นลงเวรไปเมื่อ ๙ โมงเช้าแล้ว จะขึ้นแหมเตื้อก็วันพูก ๘ โมงเจ๊า"

ไอ้ปากหมา...
"เอ๊าพจน์ เป็นไงมาไงวะ..." เพื่อนซี้คนหนึ่งซึ่งเพื่อนๆ ให้ฉายาว่า "ไอ้ปากหมาใจพระ" ทักเรา "...เฮ้ย ยังไม่ตายอีกรึมึงนี่ แหม หัวแข็งดีชิ..าย เนี่ยะ ถ้าคนอื่นลองป่วยแบบมึงน่ะเขาตายไปหมดแล้ว เอ้อ ว่าแต่ว่าจะมาหาหมออะไรล่ะเดี๋ยวกูอำนวยความสะดวกให้"

คนไข้หนัก
ช่วงนั่งรอหมอเราสังเกตเห็นว่าวันนี้มีคนไข้หนักเข้ามารักษาตัวกันหลายคน แต่แปลกใจว่าทำไมแต่ละคนหน้าเขาไม่เห็นบูดเบี้ยว ร้องโอดโอยหรือนอนมาบนรถเข็นซักกะคน และที่สำคัญนะแต่ละคนเนี่ย..."น้องช้าง" ดีๆ นี่เอง

เวลาราวๆ ๑๑.๓๐ น. หมอตรวจเสร็จแล้ว ตอนนี้มานั่งรอที่หน้าห้องจ่ายยาจ้า

คนไข้นอก
ระหว่างที่รอหมอนี่เราสังเกตว่าวันนี้คนไข้นอกแทบจะไม่มีซักกะคน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้ใน แหม อากาศร้อนๆ แบบนี้อย่าว่าแต่คนไข้เลย คนธรรมดาก็ยังไม่มีใครอยากไปอยู่ข้างนอก อยู่ข้างในเย็นกว่าเห็นๆ

มาคอยหมอ
"ลุงเจ๊า ลุง..." จนท.ห้องจ่ายยาเดินออกมาทักเราซึ่งกำลังนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่คนเดียว หน้าห้อง "...ลุงมาคอยไผหรือมีธุระหยังเจ๊า น้องเห็นลุงมานั่งตรงนี้ตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนบ่าเดี๋ยวปาเข้าไปเกือบบ่ายสาม จนคนอื่นๆ เปิ้นปิ๊กกั๋นหมดแล้ว"

"มาคอยหมอ..." เราตอบ "...หลังหมอตรวจเสร็จก็บอกว่าให้มาคอยที่ห้องจ่ายยา แต่เฮ้อ ดูฮิ จนป่านนี้หมอก็ยังไม่มาเลย เนี่ยะ หมอเขียนจดหมายน้อยไว้ให้ด้วย" พร้อมยื่นให้ จนท.คนนั้น

"อั๊ยยะลุง..." จนท.พูดยิ้มๆ สายตามองเราแบบสงสารระคนสังเวชใจ "...นี่มันใบสั่งยาที่หมอเขียนหื้อลุงมาฮับยาที่ห้องนี้นี่เจ๊า บ่าใจ้จดหมายน้อย อ้ะ ลุงคอยตรงนี้แหมสักกำเน้อเดี๋ยวน้องจะไปจัดยาตามที่หมอสั่งหื้อเจ๊า"

ถามหาคุณธรรมที่หายไปในโลกตำรวจ ? (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

ถามหาคุณธรรมที่หายไปในโลกตำรวจ ? : โลกตำรวจ โดยปนัดดา ชำนาญสุข

เพราะว่าความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับประชาชนทุกคน ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารจัดการของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยการความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้บังเกิดขึ้นกับทุกๆคนในสังคมด้วยความยุติธรรมเพื่อแสดงความขอบคุณ ชื่นชม ยกย่อง หรือแม้กระทั่งการตั้งคำถาม?

ยุติธรรม หมายถึง หลักปฏิบัติที่แสดงให้เห็นว่าบริการที่รัฐจัดให้นั้นมีความทั่วถึง เท่าเทียม เสมอภาค และเป็นธรรม

การดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สิน จึงมิใช่จะดำเนินการแต่เพียงร้านทอง หรือร้านสะดวกซื้อ หากแต่บ้านเรือนทุกหลังที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละสถานีตำรวจก็มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจตรา สอดส่อง ให้คำแนะนำเพื่อให้เกิดความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างกิจกรรมดีๆ ที่ พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เคยดำเนินการไว้เมื่อคราวที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ที่ชื่อว่า STOP WALK and TALK (หยุดพูดคุยกับประชาชน เพื่อสอบถามปัญหาและความต้องการที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ) นั้น มีความสอดคล้องตรงกันกับวิธีคิดและกิจกรรมที่ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “บันทึกเตือนภัย” ควบคู่กับกิจกรรมตำรวจร่วมมวลชนลดอาชญากรรม (ตมอ.) มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งยั่งยืนของสำนึกในการเป็นเจ้าของพื้นที่ของประชาชนที่สมควรเป็นแกนนำหลักในการลดอาชญากรรมในพื้นที่ของตนเองโดยมีตำรวจเป็นพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่เคียงข้าง

ตัวอย่างกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกและยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตำรวจและประชาชน

ทำไมกิจกรรมดีๆ เช่นนี้จึงไม่เกิดขึ้นทั่วประเทศ และไม่ยั่งยืน ?

เมื่อตั้งคำถามว่า...

ตำรวจที่มีประวัติการทำงานที่ดี มีความตั้งใจในการทำงานจนกระทั่งมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในสภาพบริบทของปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่

ตำรวจที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งชัดเจนถึงสาเหตุ ที่มาแห่งปัญหาจนสามารถวิเคราะห์ได้อย่างแตกฉานว่าปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบนั้นจะต้องป้องกัน แก้ไขอย่างไร

ตำรวจที่มีความคิด ริเริ่ม สร้างสรรค์ในการวิเคราะห์หากลยุทธ์ กลวิธีในการแก้ไขป้องกันปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยสามารถเอาชนะปัญหา อุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างอดทน และเข้มแข็ง

และตำรวจที่ลงมือทำโดยไม่ยอมแพ้ หรือยอมจำนนต่อปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วยนั้น

จะมีสักกี่คน ?

สาเหตุที่ตั้งคำถามว่า “จะมีสักกี่คน” นั้น มิใช่เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีตำรวจที่มีจิตใจที่จะทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี หากแต่เป็นเพราะกลไกในการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความผูกโยงอยู่กับอำนาจนอกองค์การ และผูกเกี่ยวกับผลประโยชน์ในมิติต่างๆมากมายแม้กระทั่งในยุคนี้ ?

หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่สามารถสนับสนุนคนดีให้ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพ เหมาะสมกับความรู้ความสามารถที่พวกเขามี โดยปล่อยให้คนที่เหมาะสมและสมควรจะได้รับการสนับสนุนให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนกลับไม่ได้รับรางวัลแห่งการทำงาน แต่กลับมีคนที่ไม่เหมาะสมจำนวนมากได้รับการยกเว้นด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้รับรางวัลนั้น องค์กรตำรวจจะมีผลงานที่ดีได้อย่างไร?

หรือว่า กระแสข่าวลือที่หนาหูมากกว่ายุคใดสมัยใดที่ว่า ระบบคุณธรรมในการทำงานในโลกของตำรวจหมดสิ้นแล้วในยุคนี้จะมีข้อมูลความจริงอยู่บ้าง ?

ขอได้โปรดใช้สติไตร่ตรองผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ

การขอนี้มิได้อ้อนวอนเพื่อตำรวจ แต่วอนขอให้ผู้มีอำนาจในประเทศได้โปรดเมตตาประชาชนที่จำเป็นต้องพึ่งพาตำรวจที่ยังคงมีจิตวิญญาณของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่บ้าง? โปรดเห็นใจพวกเขาเหล่านั้นบ้าง?

วิกฤติของประเทศไทยที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมมิใช่หรือ? ความไม่ยุติธรรมที่แผ่ซ่านในสังคมมิใช่หรือ ที่เป็นที่มาของภารกิจ “คืนความสุขให้คนในชาติ”

เราสมควรที่จะปล่อยให้คนไทยตกอยู่ภายใต้การดูแลความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเหล่าบรรดาตำรวจที่ไร้ขวัญและกำลังใจในการทำงาน จริงหรือ?

ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20160427/226584.html

ทำไมพวกเพื่อนๆ มันถึงแก่กันจัง (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

เปิดดูไลน์กลุ่มเพื่อนๆ สมัยเรียน ม.ศ.ที่โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร" แล้วหลายคนเราจำหรือแทบจำหน้าไม่ได้เลยทีเดียวเพราะเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปมาก ส่วนใหญ่แก๊แก่ แก่จริงๆ ให้ตายซิ่เอ้า ทำไมมันแก่กันจังน้อเพื่อนเรานี่

"สวัสดีพจน์ นี่แกเหรอ โอ๊ย จำไม่ได้เลย ไปทำอะไรมาวะ แก่ชิ...าย" เพื่อนคนหนึ่งไลน์ทักเรา

ขับรถไม่สุภาพโปรดแจ้ง...(๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

คนขับรถคันนี้สุภาพมากเลยครับ เห็นแล้วประทับใจ ตอนแรกคิดว่าจะโทรไปบอกบริษัทเขาหน่อยอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้น่ะ แต่ต้องล้มเลิกความตั้งใจเพราะ...บริษัทเขาให้แจ้งเฉพาะกรณีขับรถ "ไม่สุภาพ" เท่านั้น เฮ้อ

มันไม่เกินไปหน่อยหรือพรรคพวก (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

มันไม่เกิน ไปหน่อย หรือพรรคพวก
หรือสะดวก ตรงไหน ก็ทำได้
จะต่อว่า ด่าทอ ก็เกรงใจ
ดีไม่ดี เดี๋ยวได้ ติดตะราง
มันจะเกิน ไปแล้ว นะคุณหมา
ใหญ่นักหนา แล้วนี่ ขี้ทิ้งขว้าง
แต่กฎหมาย คุ้มครอง ต้องระวัง
หากประมาท พลาดพลั้ง เข้าซังเต (ก้าย)

สวัสดีวันพุธ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๙)

วันพุธ ปลายเดือน เมษา , ร้อนนัก ร้อนหนา ว่าไหม
เมษา สนุก สุขใจ , จะผ่าน พ้นไป อีกเดือน
วันพุธ ยี่สิบเจ็ด เมษา , ขอให้ เริงร่า นะเพื่อน
สุขสันต์ หรรษา มาเยือน , ทุกข์โศก คล้อยเคลื่อน เลือนไป

สวัสดีวันอังคาร (๒๖ เมษายน ๒๕๕๙)

สุขสวัสดิ์ พิพัฒ-นมงคล
อีกวิบูลย์ พูลผล กุศลทั้งหลาย
จงประสบ แด่พี่น้อง ผองหญิงชาย
ทั้งแคล้วคลาด อันตราย ภัยทั้งมวล
ยี่สิบหก เมษา ห้าห้าเก้า
ไร้โศกเศร้า ลาภหลาย นับไม่ถ้วน
ไปทางไหน ปลอดภัย ในกระบวน
สิ่งดีล้วน เข้ามาหา ทุกคราเทอญ

มาพบหมอที่โรงพยาบาลเชียงราย (๒๕ เมษายน ๒๕๕๙)

บ่ายวันนี้ผมมาพบหมอที่โรงพยาบาลเชียงรายครับ เฮ้อ คราวนี้เป็นอีกโรคหนึ่งคือหลังจากนอนหรือนั่งแล้วลุกมาจะเจ็บข้อเจ็บกระดูก ไปหมดไม่ว่าจะนั่งหรือนอนตอนไหน เวลาไหนก็เหอะ

"ขอให้เหียอู๊ดหายเร็วๆ เป็นปกติซะทีหนะ แช้นเห็นแล่วแลสมเพดเหียอู๊ดเหลือเกิน" / ขอบใจหนะน่องพุ่ดซาคนร่ะยองที่น่ารั่ก

เพราะไอ้เรามันเป็นคนหน้าเป็นที่แทบตลอดเวลาไม่มีหรอกที่จะปั้นหน้าปั้นตาจน หลายๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าไม่เป็นอะไร อย่างเมื่อตะกี๊ระหว่างรอพบหมอจะต้องผ่านการคัดกรองผู้ป่วยจากพยาบาลก่อน เฮ้อ ต้องปั้นหน้าปั้นตาให้คนทึ่เห็นเขามองว่าเราไม่สบายจริงๆ กลัวเค้าไม่เชื่อ กว่าจะคัดกรองเสร็จเล่นเอาเมื่อยหน้าไปเล้ย เหอๆๆๆ

ณ จุดคัดกรอง รพ.เจียงฮาย...
พยาบาล : อ้ายๆ อ้ายเป็นหยังเจ๊า
อ้ายๆ : เป็นตำรวจที่แม่จริม จังหวัดน่านจ้า
พยาบาล : ไม่ใช่ น้องหมายถึง...
อ้ายๆ : ใช่ เป็นตำรวจแต๊ๆ เนี่ยะ ดูฮิ บัตรข้าราชการตำรวจของอ้าย
พยาบาล : ถามแต๊ๆ เต๊อะอ้าย จะฮักษาก่อ ฮึ่ม
อ้ายๆ : ฮัก ฮักจ้า

แหม่ ห้องนี้ท่าจะม่วนน้อ ใค่หัวกันใหญ่เลย ๕๕๕๕

สวัสดีวันจันทร์ (๒๕ เมษายน ๒๕๕๙)

สีเหลือง เรืองรอง ผ่องใส
สดชื่น กายใจ สุขสันต์
สีเหลือง เรืองรอง ผ่องพรรณ
สีแห่ง วันจันทร์ เวียนมา
ให้ชื่น ให้สุข สมหวัง
สมคิด สมดั่ง ปรารถนา
มวลมิตร มากมาย หมายมา
ปกปัก รักษา คุ้มครอง

สวัสดีวันอาทิตย์ (๒๔ เมษายน ๒๕๕๙)

ส่งกำลังใจ ฝากสายลมมา
ถึงญาติกา เพื่อนพ้องน้องพี่
อาทิตย์มาแล้ว แจ่มแจ๋วจงมี
สุขสันต์สุขศรี ชีวีเบิกบาน

ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองเพื่อพี่น้องไทย : พะลา

เพาะ : เอ่อนี่แมะมึง ไก่น่ะแช้นทำเสร็จแล่ว เดี๋ยวแมะมึงช่วยเอาไปย่างให้หน่อยหนะ เอาแบบพะลาๆ ก็พอ มันอร่อยดีเกียะ
แมะ : ได้ฮิ่เพาะมึง

........

“พะลา” (อ่านออกเสียงว่า “พ่ะ-ลา”) ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองหมายถึงการปิ้งหรือย่างไฟที่ไม่ต้องสุกมากนัก เอาแค่พอน้ำตกเท่านั้น

ไม่รู้ไม่ชี้ (๒๓ เมษายน ๒๕๕๙)

ไม่รู้ไม่ชี้ กล้าตีไหมล่ะ
ตีติดคุกนะ เดี๋ยวว่าไม่บอก
แค่เรื่องกัดเบาะ นั่นเนาะกิ๊กก๊อก
ใครกัดไม่บอก ไม่รู้ไม่ชี้

เฮ้อ แล้วทีนี้จะเอายังไงกับมันดีนะเนี่ย

สวัสดีวันเสาร์ (๒๓ เมษายน ๒๕๕๙)

สวัสดี วันนี้วันเสาร์ กระปรี้กระเปร่า ไม่เหงาไม่หงอย
สวัสดี วันนี้ที่คอย เบิกบานไม่น้อย ใจพลอยสราญ
สวัสดี พี่น้องหญิงชาย มวลมิตรสหาย ขอให้สุขสันต์
สวัสดี เสาร์นี้ทั่วกัน สิ่งที่คิดฝีน ให้พลันเป็นจริง

สวัสดีวันศุกร์ (๒๒ เมษายน ๒๕๕๙)

วันศุกร์สุขแต่เช้า ไม่มีเศร้าเคล้าน้ำตา
วันศุกร์สุขทั่วหน้า ยิ้มเริงร่าพาสุขสันต์
วันศุกร์สุขเช่นนี้ หาไหนมีมาเทียมทาน
วันศุกร์สุขหอมหวาน ยิ้มทักกันวันศุกร์เอย

อะไรอะไร ก็ไม่คล่องตัว
ปวดหูเจ็บหัว เนื้อตัวไม่หาย
เรี่ยวแรงถดถอย เหมือนคอยวันตาย
ไม่ใช่ไม่ใช่ พาไปแล้วกลอน
เรี่ยวแรงถดถอย ไปหน่อยไปนิด
ร่างกายไม่ฟิต เหมือนดั่งแต่ก่อน
ข้างนอกสดใส แต่ในแคลนคลอน
ก็เลยพักผ่อน นอนซะเต็มวัน

หมอพจน์มาแล้วจ้ะ (๒๑ เมษายน ๒๕๕๙)

หมอพจน์มาแล้วจ้ะ , จริงจริงนะผมน่ะหมอ
พี่เฟส ซ.ต.พ. , ไม่ใช่หมอจะเป็นไร
พ่อหมอตัวเป็นเป็น , ใช่ล้อเล้นอย่าสงสัย
เจ็บป่วยด้วยโรคใด , ปรึกษาได้ ฟรีฟรีฟรี (๕๕๕๕)

เพียงแค่ความฝันลวงๆ ในโลกตำรวจ (๒๑ เมษายน ๒๕๕๙)

เพียงแค่ความฝันลวงๆในโลกตำรวจ : โลกตำรวจ ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ความผาสุกของประชาชนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหัวหน้าสถานีตำรวจ หรือที่เรียกกันว่า “ผู้กำกับ”

พื้นที่ที่เหล่าบรรดาผู้กำกับการสถานีตำรวจอยากอยู่มักเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าพื้นที่ทำเลทองเหล่านั้นจะมีสถิติคดีอาชญากรรมที่สูงจนน่าหวาดกลัวว่า “จะรับมือไหวหรือไม่”? แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่โรงพักเกรดเอในพื้นที่ทำเลทองจะปราศจาก การแข่งขันแย่งชิงที่ดุเดือด

ทั้งวิ่งทั้งเต้นจนลนลาน เสาะแสวงหาผู้มีอำนาจทุกรูปแบบ ทุกสายสัมพันธ์เพื่อเชื่อมต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจสุดท้ายให้ได้ อาการประหนึ่งผู้ป่วยโรคประสาทที่หวาดวิตกว่าจะมีใครมาเตะออกจากเก้าอี้ที่จับจอง ลุ้นจนทุกการหายใจเข้าและหายใจออกล้วนเป็นการพูดจาสอบถามเพื่อสืบความจากทุกแหล่งคล้ายอาการย้ำคิดย้ำทำ

“ต้องเช็กข่าวทุกระยะ ไม่งั้นโอกาสโดนเสียบสูง” ผู้กำกับยืนยันว่าการสืบเสาะหาข่าวตลอดเวลาในทุกช่องทางเป็นสิ่งจำเป็นจนกว่าคำสั่งที่เป็นทางการจะประกาศออกมา ตัวอย่างเพียงบางส่วนของอาการในลักษณะดังกล่าวของเหล่าบรรดาหัวหน้าสถานีตำรวจที่อยู่ในห้วงเวลาของการ “รอคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย” นั้น คงพอจะแสดงให้เห็นว่าภารกิจในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยการบังคับใช้กฎหมายตามบทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดีนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในบรรยากาศของการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่มีความชัดเจน คลุมเครือ และชวนให้เกิดการตั้งข้อสงสัยมากมายว่า ทำไมไม่เป็นที่สิ้นสุดเสียที ? ทำไมบริบทการแต่งตั้งโยกย้ายในยุคนี้จึงไม่ได้ดีไปกว่ายุคการเมืองน้ำเน่าที่ผ่านมาหรือว่า มีบางสิ่งบางอย่างไม่ลงตัว ?

สถานการณ์ของการไม่สามารถสร้างระบบการบริหารงานบุคคลในเรื่องความก้าวหน้าและความมั่นคงในการทำงานในโลกของตำรวจเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำและเป็นสิ่งที่ยืนยันมาอย่างยาวนานว่า สถานการณ์เช่นนี้คือรูปธรรมของการทำลายระบบคุณธรรมในการบริหารงานตำรวจ (ระบบคุณธรรมในการทำงาน หมายถึง ผลงานและความก้าวหน้ามั่นคงในการทำงานเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน)

ระบบการบริหารงานเช่นนี้มิใช่หรือที่ทำให้ตำรวจขาดความเป็นเอกภาพของการเป็นพวกเดียวกัน หากแต่เอาตัวเองไปสังกัดอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคการเมืองต่างๆ แบ่งพวกเลือกข้าง จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายบิดเบือนเอื้อผลประโยชน์ให้แก่พรรคพวกของตน ละเลยการเป็นต้นธารแห่งกระบวนการยุติธรรมที่ดี

การแบ่งพวกเลือกข้างยังส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติผลิตสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งผลเสียต่อสมรรถนะองค์การ กล่าวคือ

เมื่อพวกหนึ่งเรื่องอำนาจจะดึงพวกของตนขึ้นดำรงตำแหน่งที่สำคัญโดยมิได้คำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมเป็นประการสำคัญ และถึงแม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่ามีผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่า (แต่ไม่ใช่พวกตน รวมถึงเป็นพวกของคู่ตรงข้าม) ก็จะไม่มอบหมาย อำนาจ หน้าที่ ความรับผิดชอบให้ (ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ให้ตำแหน่งเท่านั้น แต่งานก็ไม่มอบหมายให้ เพราะไม่ไว้วางใจ เพราะหวาดระแวงว่าจะดีเด่นเกินหน้าเกินตา)

ผลสุดท้ายผู้ที่รับผลกระทบแห่งความเลวร้ายของการบริหารงานนี้ คือ ประชาชน

ยุคที่ประเทศไทยปกครองด้วยพรรคการเมืองที่ผ่านมานั้น บริบทการบริหารงานในโลกตำรวจเป็นเช่นนั้น แตกต่างจากยุคนี้หรือไม่ ?

มิใช่จะมีเพียงแต่พื้นที่ทำเลทองที่เหล่าบรรดานายตำรวจไม่ทำงานเพราะหมกหมุ่นอยู่กับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเท่านั้น หากแต่สถานีตำรวจที่ไร้ซึ่งผลประโยชน์? นั้นก็ไม่ได้รับความเหลียวแลด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเดิมก็ไม่ได้สนใจไยดีอยู่แล้วเพราะเสียขวัญและกำลังใจที่ถูกเตะมา แต่ในยามนี้อาจมีลุ้นที่จะได้หลุดออกไปอยู่ในพื้นที่ที่ชอบ ที่ชอบบ้าง ?

ภายใต้บริบทบริหารงานเช่นนี้ แม่ทัพนายกองและไพร่พลในโลกตำรวจจะสามารถทำให้ ฝันของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ว่า “เป็นหลักประกันความยุติธรรม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” เป็นจริงได้หรือ?

ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20160420/226162.html

จบ ๒ ปีมีงานทำ (๒๑ เมษายน ๒๕๕๙)

อั๊ยยะ นี่หมายความว่าหลังจากจบปริญญาตรีแล้วต้องเตะฝุ่นถึง ๒ ปีจึงจะมีงานทำรึ ไม่มั้ง เฮ้อ

สวัสดีวันพฤหัส (๒๑ เมษายน ๒๕๕๙)

พฤหัส สวัสดี พี่น้องรัก
มาทายทัก ทักทาย สหายมิตร
พฤหัส สะอาดใส ในใจจิต
ทุกชีวิต ทุกผู้คน บนโลกา
พฤหัส วันดี ศรีสวรรค์
จิตสุขสันต์ เริงรื่น ชื่นหรรษา
พฤหัส ห่างไกล ไร้โรคา
ดุจนภา ใสแจ่ม ยิ้มแย้มพราว

หน้าเหมือนหมา (๒๐ เมษายน ๒๕๕๙)

จริงเปล่า หน้าเรา เหมือนหมา
รึว่า หน้าหมา เหมือนฉัน
หน้าหมา หน้าเรา เข้ากัน
หน้าหมา หน้าฉัน นั่นแล (เอ๊ออ้ะๆๆๆๆ)