วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

คืนนี้ที่แม่จริม (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

ตำรวจ บ้านนอก เรียบง่าย
ไม่มี อะไร หวือหวา
ตื่นเช้า กินข้าว แล้วมา
ทำงาน ตามหน้า-ที่ตน
เลิกงาน กลับบ้าน อาบน้ำ
กินข้าว อิ่มหนำ อีกหน
กลางคืน คอยเหตุ ภัยโจร
เพื่อทุก ผู้คน อุ่นใจ 
ก่อนกล่าวลา คำว่า ราตรีสวัสดิ์ 
ขอนำภาพ ชัดชัด ตอนหนุ่มหนุ่ม
ที่สาวสาว เจ้าพา กันมารุม
เป็นกลุ่มกลุ่ม จนกลุ้มใจ ในทุกวัน
ตอนนั้นนะ เราหล่อ พอกะมิตร
สาวสาวติด ล้นเหลือ เชื่อไหมนั่น
แต่ตอนนี้ เราแย่ แก่ไปบาน
จนสาวหัน หน้าหาย ไม่มามอง 
.........
แลน่าสมเพด : ราตรีสวัสดิ์จ้า
เนี่ยะ ดูฮิ ตอนหนุ่มๆ น่ะเราสามารถเล่นหนังบทพระเอกได้สบายๆ เลย เหอๆๆๆ

อาหารเย็นเย็นนี้ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

ข้าวต้มเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมา 
กะหรี่ปูม้า และผัดเปรี้ยวหวาน
คงกินอยู่ดี อิ่มหมีพีมัน 
อีกทั้งของหวาน วันนี้ก็มา
ง่ายง่ายสบาย ไม่มีไรมาก 
ไม่ได้ลำบาก ลำบนด้วยหนา
กินอิ่มสุขใจ สบายอุรา 
ชีวิตมีค่า ขึ้นมาโดยพลัน

มหกรรมอาหารแม่จริม (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

มหกรรม อาหาร วันพุธจ้ะ
อร่อยนะ ลูกค้า ก็เยอะแยะ
ตัวเราได้ ลิ้มลอง สองอย่างแหละ
น่ากินแฮะ ขิงผัดไก่ กับเปรี้ยวหวาน
ซื้อไปกิน กับข้าวต้ม ช่วงเย็นนี้
ที่เห็นนี่ ห้าสิบบาท ขอรับท่าน
แค่นี้ก็ อิ่มหมี และพีมัน
เอาไรกัน มากมาย ใช่ไหมครับ

<< ภาพทั้งหมด >>
เหอเหอฮะฮะ อ๊ะอ๊ะอิ๊อิ๊ 
ฮิฮิฮิฮิ อิ๊อิ๊เฮอะเฮอะ
คราวนี้แหละหนา เสื้อผ้าก็เถอะ 
ถ้ามันเลอะเทอะ เป็นเจอะที่เห็น
อีกยาล้างจาน นั้นขาดไม่ได้ 
ถ้าขาดแล้วตาย ไม่ใช่เล่นเล่น
อ๊ะอ๊ะอิ๊อิ๊ ไม่มียากเย็น 
หลังจากลำเค็ญ ใช้สบู่มานาน (เย้)

วังมัจฉา (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

วังมัจฉา มัจฉา แหวกเวียนว่าย
อยู่ในวัง น้ำใส ใกล้กอหญ้า
หยอกล้อเล่น น้ำกระเซ็น สวยเด่นตา
ลมโบกพริ้ว ไปมา เย็นสบาย
เพลินอารมณ์ ยามชม หมู่ฝูงปลา
สุขอุรา ใจกายา พาแจ่มใส
อยู่ที่นี่ ตรงนี้ ก็สุขใจ
แถมยิ้มย่อง เป็นยองใย ได้ทั้งวัน 
..........
เลิกงานแล้วจ้า

ตอนหนุ่มๆ น่ะเหียอู๊ดต้องชอบจีบสาวแน่ๆ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

มีเพื่อนๆ ถามว่าเห็นในเฟสแล้วเหียอู๊ดดูเป็นคนเจ้าคารี้ศรีคารม สำบัดสำนวนไม่บันเบา บางครั้งมีการตอดนิดตอดหน่อยด้วยแบบนี้แสดงว่าตอนหนุ่มๆ น่ะเหียอู๊ดต้องชอบจีบสาวแน่ๆ


ตอบครับ : ผิดถนัด ตอนหนุ่มๆ (รวมถึงตอนนี้ด้วย) เหียอู๊ดน่ะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูดกะใครยิ่งกะสาวๆ ด้วยแล้วยิ่งไม่กล้าใหญ่ เวลาสาวๆ เดินมาหานะเหียอู๊ดถึงขนาดแอบหลบใต้โต๊ะเรียนด้วยซ้ำ อายน่ะ จริงๆ เหอๆๆๆ 

 เนี่ยะ หน้าแบบนี้น่ะไม่มีปัญญาจีบสาวหรอก เชื่อฮิ่ เหอๆๆๆๆ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตำรวจ ตอน : "สมุดประจำวัน" (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

สมุดประจำวันหรือสมุดรายงานประจำวันของสถานีตำรวจแต่ละแห่งจะมีอยู่ด้วยกัน ๔ เล่มดังนี้

๑. “เกี่ยวกับคดี” เป็นการบันทึกเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ในคดีอาญาหรือที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เช่น การแจ้งความร้องทุกข์หรือการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เช่น การจับกุมผู้ต้องหา,รับมอบตัวผู้ต้องหา,การเดินทางไปตรวจสถานีที่เกิดเหตุ เป็นต้น


๒. “ธุรการ” เป็นการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีนั้นๆ ว่าแต่ละช่วงเวลามีอะไรบ้างตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๐-๒๔.๐๐ น. เช่น การเข้าเวรเข้ายาม ฯลฯ


๓. “รับแจ้งเหตุสารหาย” มีความหมายตรงตามตัวของสมุดประจำวันนี้นี่แหละครับ
๔. “แจ้งไว้เป็นหลักฐาน” ใช้ในกรณีที่ผู้แจ้งประสงค์จะแจ้งเรื่องราวเรื่องใดเรื่องหนึ่งไว้เป็นหลักฐานก่อนโดยเรื่องนั้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับเป็นคดีอาญาเนื่องจากผู้แจ้งยังไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดี เช่น หมิ่นประมาทที่จะขอไปตกลงกันเองภายหลัง,การถูกปองร้าย ฯลฯ เป็นต้น

คนเขียนประจำวันต้องได้รับคำสั่งจากนายตำรวจเช่น พนักงานสอบสวน,นายตำรวจสายอื่นจะเขียนโดยพลการหรือตามอำเภอใจ


อาหารกลางวันวันนี้ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

ไม่ตายแล้วเรา เช้าก็ข้าวต้ม 
กลางวันตัวผม ก็ข้าวต้มจ้า
เหมือนคนจะตาย วอดวายชีวา 
แต่ว่าแต่ว่า ไม่ตายไม่ตาย
ช่วงนี้แบบนี้ ก็ดีไปอย่าง 
รสจัดปล่อยวาง เพราะกินไม่ได้
กินแต่ข้าวต้ม ชื่นใจ๊ชื่นใจ 
กินไหมกินไหม เชิญได้ทุกคน
เอาผ้าที่ซัก มาตากหน้าบ้าน 
เพราะตอนบ่ายนั้น แดดเข้าทางนี้
อากาศครึ้มบ้าง บางครั้งบางที 
แต่ก็ยังดี ไม่มีฝนมา
หน้าที่ชายไทย ทำเข้าไปเหอะ 
คนอื่นอีกเยอะ เขาก็ทำจ้า
ไม่เห็นจะตาย วอดวายชีวา 
กวาดบ้านซักผ้า น่ะหมูในอวย (เย้)

ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองเพื่อพี่น้องไทย : "ฝา-ร่ะ-มี,สา-ร่ะ-พี,สา-ร่ะ-มี" (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

“ฝา-ร่ะ-มี” = ฝาหม้อ , “สา-ร่ะ-พี” = ทัพพี
“สามี หรือ สา-ร่ะ-มี” = คนใช้ดีๆ นี่เอง เหอๆๆๆๆๆ ...

ผู้ชายคนไหนจะกล้าเถียงผมมั่ง
เนี่ยะ ดูฮิ คนใช้ดีๆ นั่นแหนะ ๕๕๕


พักเบรกจ้า

ไปดีนะครับพี่ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

เมื่อตะกี๊ผมยกหูโทรศัพท์ไปห้าโหลๆ กับรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งสนิทสนมกันดี เคยทำงานร่วมกับพี่แกมาหลายแห่ง พี่คนนี้จะเกษียณพรุ่งนี้ในตำแหน่งรองผู้บังคับการ ยศพันตำรวจเอก (พิเศษ)


“ห้าโหลๆ พี่...ผมสุพจน์มัจฉานะครับ พรุ่งนี้พี่ก็จะเกษียณแล้ว ขออวยพรให้พี่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาวนาน เป็นที่รักของทุกคนเหมือนช่วงพี่ยังอยู่....ไปดีนะครับพี่” ผมพูดกะพี่แก ๕๕๕

วันนี้ที่แม่จริม (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

ซ้ายพร้อมขวาพร้อม พร้อมทั้งซ้ายขวา 
ทุกอย่างนั่นหนา เดินหน้าเร่งรุด
การงานก็ดี ไม่มีสะดุด 
ไร้สิ่งใดฉุด มาหยุดมายั้ง
ซ้ายพร้อมขวาพร้อม ตำรวจเราพร้อม 
ทุกสิ่งอย่างย่อม เป็นอย่างใจตั้ง
ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมกายร่วมพลัง 
เพื่อความสุขัง แห่งมวลประชา

<< ภาพทั้งหมด >>
เจ้าหน้าที่ ทำไว้ดี ที่หนึ่งเลย
เราเป็นนาย ก็เสบย ไปอีกอย่าง
แค่ตรวจตรา ความถูกต้อง ตามแนวทาง
แล้วก็วาง วาดลาย-เซ็นลงไป
ขอบคุณนะ เจ้าหน้าที่ ทุกทุกคน
งานไม่มี สับสน หรือแก้ไข
มีหน้าที่ อะไร ก็ทำไป
และทำให้ ดีดี แบบนี้แล 
..........
ทำงานต่อนะครับ
นาย : ทำอะไรน่ะไอ้น้อง แหม่ ขยันดีจริงๆ 
ไอ้น้อง : ทำงานครับนาย
..........
เอ้อ จริงของเขา ก็เห็นๆ อยู่ว่าไอ้น้องเขากำลังทำงาน ถามไปเรื่อยเนาะนายคนนี้ เหอๆๆๆ ... ขอตัวไปกินข้าวต้มที่แฟลตก่อนนะครับ

เริ่มต้นวันใหม่ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)

เริ่มต้นวันใหม่ ไปทายไปทัก 
แฟนเพลงมิตรรัก ที่ตลาดจ้า
หน้าที่ตำรวจ นอกจากตรวจตรา 
อีกอย่างนั่นหนา พบปะเยี่ยมเยือน
ทักทายพูดจา ประสาญาติมิตร 
ด้วยใจด้วยจิต ใกล้ชิดดั่งเพื่อน
ไปหาถึงบ้าน พบกันถึงเรือน 
ทุกคนเปรียบเหมือน ดั่งญาตินั่นแล

<< ภาพทั้งหมด >>
ที่แม่จริมวันนี้ฝนตกมาตั้งแต่เช้าเลย ดูสภาพน่าจะตกไปอีกนานแต่ก็ชุ่มฉ่ำดีครับ
ฝนตกให้กางร่ม ยามหนาวลมให้ห่มผ้า
เป็นห่วงทุกคนหนา ด้วยรักจ้า จ.จ.จ.

๑๐ โมงฟ้าใสแล้วจ้า เย้

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

คืนนี้ที่แม่จริม (๒๙ กันยายน ๒๕๕๙)

วันนี้วันอังคาร แต่ตัวฉันใส่สีม่วง
ผิดจากคนทั้งปวง ที่ใส่ม่วงกันวันเสาร์
ไม่สำคัญดอกหนา เหลืองม่วงฟ้าน่ะใส่เข้า
ดีชั่วที่ตัวเรา ใช่ว่าเจ้าสีนี้เลย

ไม่เคยถือ ฤกษ์ผา ยามนาที,ดีไม่ดี ใช่อยู่ ตรงนี้ไม่
ดีไม่ดี อยู่นี่ คือที่ใจ,และทำตัว ของเราให้ มันดีดี
ตัวสะกด การันต์ พยัญชนะ,ไม่อาจจะ ทำให้คน นั้นป่นปี้

ไม่มีอะ-ไรเป็น กาลกิณี,ทุกอย่างนี่ อยู่ที่การ กระทำตัว

คืนนี้มาถึงโรงพักราวทุ่มครึ่งกะอีกนิดๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ไม่ใช่ขยันอะไรมากมายแต่อยู่บ้านก็งั้นๆ บ้านที่แม่จริมน่ะอยู่คนเดียว ทีวงทีวี ตู้เย็นเครื่องอำนวยความสะดวกไม่มีซักกะอย่าง ถ้าอยู่ก็แค่นอนแล้วคนรุ่นนี้น่ะนอนเวลานี้ได้ไงอายเขา ก็เลยมาซะที่โรงพักให้รู้แล้วรู้รอดไป

งานที่ให้ทำก็ไม่มีหรอก เพียงแต่ผมมองอะไรทุกอย่างเป็นงานก็เลยเอางานเก่าๆ มาดูนั่นโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็ได้อะไรหลายๆ อย่างเหมือนกันนะ
น้องจ๋อน : ใครจ้ะว่ายังไงแช้นไม่รู้หนะแต่แช้นว่าเหียอู๊ดเนี่ยน่ารั่กกว่าเค้าเช่ด ดูฮิ ยิ้มทั่งวันแถมยังเจ้าชู้ (หน้าตาดี) อีกด้วย
น้องแจ๋น : ก็อ้า (เห็นด้วย) แต่...แช้นกลัวเหียอู๊ดจ้ะเป็นอ้ะไรไปน่ะ ยิ่งตอนนี่ไม่ค่อยจ้ะสบายอยู่ด้วย ถ้าเหียอู๊ดตายไปซักคนหนะในเฟสคงจ้ะเหงาแย่
น้องจ๋อน : งั่นพรุ่งนี่เราไปทำบุญกวดน้ำอุทิ่ด (อุทิศ) ส่วนกุศลไปให้เหียอู๊ดกัน เหียอู๊ดจ้ะได้หายเร็วๆ เอาแม้ (ไหม) เหอๆๆๆ

ต้นสาย : ห้าโหลๆ พี่พจน์ นี่น้อง...นะ น้องมีเรื่องจะปรึกษาพี่พจน์หน่อย
พี่พจน์ : ห้าโหลๆ ว่ามา
ต้นสาย : ห้าโหลๆ คืองี้นะ น้องน่ะ. น้อง...(น้องยังงั้นน้องยังงี้) ฯลฯ แล้วแบบนี้น้องจะทำยังไงดี 
พี่พจน์ : ห้าโหลๆ ไอ้น้องชายเอ๊ย เป็นผู้ชายภาษาอะไรว..พูดน้องยังงั้นน้องยังงี้ พี่พจน์นอนก่อนนะ รำคาญว่.. เหอๆๆ

อาหารเย็นเย็นนี้ (๒๙ กันยายน ๒๕๕๘)

ข้าวต้มร้อนร้อน อ่อนอ่อนน่ากิน 
เริ่มอร่อยลิ้น และชินแล้วจ้ะ
ไข่เจียวสามฟอง ใส่จานรองมา 
ไข่เค็มด้วยหนา พร้อมผักกาดดอง
ท้องไส้ใสสด ยามงดของเผ็ด 
อาหารจานเด็ด ที่เคยกินคล่อง
ถ้าหายดีนะ เราจะไม่มอง 
ของเผ็ดทั้งผอง ไม่ลองลิ้มเลย

"ไอ้สุย" (๒๙ กันยายน ๒๕๕๘)

ด้วยการที่ผมเป็นคนร่ะยองโดยกำเนิดทำให้มีความรัก ความผูกพันกับศัพท์เสียงสำเนียงบ้านเกิดอย่างแนบแน่น บางครั้งเวลาพูดกับเพื่อนๆ คนภาคอื่นที่ถึงแม้จะสื่อสารกันด้วยภาษากลางก็เหอะแต่ก็ยังมีอยู่มั่งที่ติด ปาก “คำร่ะยอง” โดยไม่รู้ตัว อย่างการขี่จักรยานน่ะถ้าขี่ไหวก็ขี่ไป แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องลงเข็นหรือดันไปข้างหน้าด้วยแรงของตัวเองซึ่งลักษณะนี้คำ ร่ะยองบ้านผมเขาพูดว่า “สุย” (บางแห่งพูด “ไส”)


 วันหนึ่งผมเอาจักรยานสองล้อไปปั่นกับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน ปั่นไปปั่นมาจนถึงที่ที่มันเป็นเนินปั่นต่อไปไหวพวกเราก็เลยลงมาเข็นรถแทน โดยผมพูดกับเพื่อนๆ ว่า “เออนี่พวกเรา สภาพถนนแบบนี้น่ะคงขี่ต่อไปไม่ไหวแล้วเห็นทีต้องลง “สุย” แน่ๆ“ เมื่อเพื่อนๆ ได้ยินผมพูดแบบนั้นต่างก็หัวเราะชอบใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใน “ความหวังดี” ของผมกันหมดเลย แหม่ คนรักเพื่อนก็งี้แหละ

ฮ่ะๆๆๆ แล้วตั้งแต่บัดนั้นเพื่อนๆ ผมกลุ่มที่ว่าเนี่ยะต่างเรียกชื่อแกล้งว่าผมว่า “ไอ้สุย” มาจนถึงบัดนี้ เหอๆๆๆๆๆ “ไอ้สุย” มาแล้วจ้า ๕๕๕๕
เนี่ยะ เมื่อปั่นต่อไม่ได้ก็ต้องลง "สุย" กันเป็นธรรมดา ๕๕๕

คำร่ะยองอีกคำหนึ่งครับที่ผมนำมาเสนอวันนี้นั่นก็คือ "ชื่อแกล้ง" สำหรับคำคำนี้ตรงกับภาษากลางว่า "ชื่อเล่น" นั่นเอง

อ้ะ ตอนนี้รู้กันแล้วนะว่า "ชื่อแกล้ง" อีกชื่อหนึ่งของผมน่ะชื่อว่า "ไอ้สุย" เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ


วันนี้ที่แม่จริม (๒๙ กันยายน ๒๕๕๘)

การงานแม้มันเครียด แต่อย่าเครียดไปกับมัน
หน้าที่คนเรานั้น ก็คืองานนั่นแหละหนา
ทำงานให้สนุก นั่งยืนลุกเป็นบางครา
ถ้าเครียดแล้วหน้าตา จะชราหนังหย่อนยาน (เราเลยไม่เครียด เหอๆๆๆๆๆ)

มีพรรคพวกเพื่อนฝูงผมบางคนพอเช้ามาก็เครียดๆๆๆๆๆๆ เครียดกับงานนั่นแหละทั้งๆ ที่ก็ไม่เห็นว่าน่าจะมีอะไรเครียดซักกะอย่าง ผมเลยเอายาแก้เครียดให้แต่เพื่อนคนนั้นไม่เอาเพราะยาแก้เครียดที่ว่าเนี่ยะเป็น "เชือกผูกคอตาย" ครับ เหอๆๆๆๆๆ 

เนี่ยะ "ยาแก้เครียด" ที่ผมเตรียมให้เพื่อนคนนั้น เสียดายที่มันยอมใช้ ๕๕๕๕

จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเรานะแต่มันดูแปลกๆ ยังไงพิกล เรื่องของเรื่องก็คือเราเปิดดูในเฟสเจอภาพ “ผู้ชาย” อ้ะ แล้วมันเกี่ยวอะไร ผู้ชายก็ผู้ชายซิ่ แต่..ไม่ใช่แค่นั้นจ้าพี่น้องเพราะผู้ชายคนที่ว่าน่ะโพสต์ภาพที่ตัวเองกำลัง “ร้องไห้” โดยบรรยายรำพึงรำพันถึงความรักที่ไม่สมหวัง อกหัก สาวไม่แลประมาณนั้นก็เลยโพสต์ภาพ “ผู้ชายร้องไห้” โชว์ซะ

แหม่ ไอ้น้องเอ๊ย ผู้ชายน่ะเขาไม่ร้องไห้ออกสื่อกันหรอก จำไว้ เหอๆๆๆๆๆๆ (พักเบรกก่อนนะ)

แปดนาฬิกายืนตรงเคารพธงชาติ (๒๙ กันยายน ๒๕๕๘)

แปดโมงเช้า เคารพธง ชาติตรงหน้า
ด้วยศรัทธา ความแกร่งกล้า คนรุ่นเก่า
ที่รักษา ชาติไทย ไว้ให้เรา
ได้มีเรือน มีเหย้า เท่าวันนี้
เราคนไทย ใจรักชาติ ศาสน์-กษัตริย์
และยืนหยัด มั่นคง ตรงหน้าที่
พร้อมเอาเลือด เอาใจ เอากายพลี
เพื่อไทยนี้ คงเป็น”ไท” ในโลกา
ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย

คุณสุรินทร์ แปลงประสบโชค ข้าราชการบำนาญกรมประชาสัมพันธ์ (เกษียณอายุราชการเมื่อปี ๒๕๕๒)


ที่มา :  http://narongthai.com/song-thai1.html