วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ประจำหน่้วยบริการประชาชนตำบลสายเหนือ (๑๐ มกราคม ๒๕๕๔)

วันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น.เป็นต้นไปผมเดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชน (ตู้ยาม) สายเหนือดังนี้

หน่วยบริการประชาชนตำบลธารทองพบ จ.ส.ต.ดิเรกลาภ ริืมทอง อยู่ปฏิบัติหน้าที่

















หน่วยบริการประชาชนตำบลทรายขาวพบ ด.ต.วิทวัสเคลือบหิรัญ อยู่ปฏิบัติหน้าที่
















หน่วยบริการประชา่ชนตำบลเจริญเมืองพบ ด.ต.ธัชชัย วจีพิทักษ์กุล และ ด.ต.อดุลย์ นามวงค์ อยู่ปฏิบัติหน้าที่















การตรวจหน่วยบริการประชาชนทั้ง ๓ แห่งพบว่าความสะัอาดและความเป็นระเบียบร้อยของอาคารที่ทำการอยู่ในเกณฑ์เป็นที่น่าพอใจ ในส่วนของเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น สมุดรับแจ้งเหตุเบื้องต้น,สมุดการตรวจพื้นที่,เอกสารรายงานประจำวัีน,ข้อมูลท้องถิ่น ฯ เจ้าหน้าที่จัดทำไว้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน

สำหรับแนวคิดที่แจ้งแก่เจ้าหน้าที่นั้นได้แจ้งให้ทราบว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนในภาพรวมของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่สูงทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บถึงแม้ว่าในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสภ.พานจะไม่มีผู้เสียชีวิตก็ตามแต่จำนวนของอุบัติเหตุก็ยังมีอยู่บ้าง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนนแก่พี่น้องประชาชนเท่าที่จะสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นการออกพบปะพูดคุย,การให้ความรู้แก่นักเรียนในสถานศึกษาที่รับผิดชอบ,การประสานผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยกันรณรงค์อีกทางหนึ่ง เป็นต้น เพื่อให้พี่น้องมีความเข้าใจและตระหนักถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่นเ้พิ่มมากขึ้น โดยผู้บังคับบัญชาของ สภ.พานจะลงมาช่วยดูแลให้อีกทางหนึ่ง

ในส่วนของภารกิจและแนวทางปฏิบัติได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ถือตามนโยบายเร่งด่วนระยะที่ ๓ (๖ เดือนแรก) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังนี้

นโยบายเร่งด่วน (ระยะ ๖ เดือน) “ปัดกวาดบ้าน ร่วมใจพัฒนา”


ปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ

ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง สถานีตำรวจถือเป็น “จุดแตกหัก” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีภารกิจ บทบาทหน้าที่สัมผัสใกล้ชิดและให้บริการประชาชนโดยตรง ทั้งนี้จะเน้นที่การปรับปรุงข้าราชการตำรวจ และระบบการปฏิบัติงาน โดยคำนึงถึงประชาชนผู้รับบริการเป็นหลักให้มีประสิทธิภาพ โดยอาศัย กฎ ระเบียบ ขั้นตอนการปฏิบัติงานและแนวทางการปฏิบัติตาม “โครงการสถานีตำรวจเพื่อประชาชน” ให้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีกิจกรรมดำเนินการทั้งตัวข้าราชการตำรวจและระบบการให้บริการ ดังนี้ “กิริยาวาจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมใจช่วยเหลือ ไม่อยู่เหนือกฎหมาย ขยายบริการ ทำงานว่องไวใส่ใจประชาชน”


๑ กิริยาวาจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส

ข้าราชการตำรวจของสถานีตำรวจทุกนาย ต้องแสดงกิริยาวาจา ท่าทางที่สุภาพ และมีบุคลิกภาพที่เป็นมิตร แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ มีจิตใจที่พร้อมในการให้บริการประชาชนทั้งในและนอกสถานีตำรวจ

๒ พร้อมใจช่วยเหลือ

เมื่อประชาชนมาแจ้งความร้องทุกข์ มาพบหรือร้องขอความช่วยเหลือ หรือข้าราชการตำรวจผู้ใดก็ตามที่ประสบเหตุจะต้องแก้ไขปัญหา อำนวยความสะดวก หรือประสานการปฏิบัติในเบื้องต้นให้แก่ประชาชนทุกกรณีด้วยความเต็มใจ ทั้งนี้ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติและไม่คำนึงถึงว่าข้าราชการตำรวจผู้ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานใดจนกว่าจะมีผู้รับผิดชอบโดยตรงรับเรื่องไปดำเนินการ ข้าราชการตำรวจผู้นั้นจึงหมดภาระหน้าที่ดังกล่าว

๓ ไม่อยู่เหนือกฎหมาย

ข้าราชการตำรวจต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม โดยการเคารพ กฎ กติกา ระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีการใช้อภิสิทธิ์ใดๆ เกินกว่าสิทธิทั่วไป

๔ ขยายบริการ

กำหนดเป้าหมายและระยะเวลาการตรวจเยี่ยมประชาชน ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะต่างๆ เพื่อเยี่ยมเยียน รับฟังปัญหาของประชาชน ชุมชน ตลอดจนจัดทำฐานข้อมูลท้องถิ่น โดยเน้นผู้เสียหายหรือผู้เคยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ทั้งนี้ให้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายต่างๆ ของสถานีตำรวจและ กต.ตร.สภ./สน.ในการลงพื้นที่และแก้ไขปัญหา

๕ ทำงานว่องไวใส่ ใจประชาชน

ลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการบนสถานีตำรวจ โดยนำรูปแบบจากสถานีตำรวจที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี (Best Practices) มาเป็นแนวทางในการปรับปรุงขั้นตอนการให้บริการ ได้แก่ การให้บริการตามลำดับ (ระบบคิว) และการให้บริการด้วยความรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่รับทราบ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น