เจ้าหน้าที่ผลัดนี้ประกอบด้วย
๑. ด.ต.สมบัติ เกษม
๒. ด.ต.ชัยทัต บาลใจ
๓. ด.ต.ทุ่ม มาหาญ
๔. จ.ส.ต.ณัฐวัฒน์ มังคละ
การประชุมวันนี้ได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อทราบและนำไปปฏิบัติดังต่อไปนี้
นโยบายของผู้บังคับบัญชา
ได้แจ้งแนวทางและวิธีดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน ๖ เดือนแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังนี้
๑) ข้าราชการตำรวจของสถานีตำรวจทุกนายต้องแสดงกิริยาวาจา ท่าทางที่สุภาพ และมีบุคลิกภาพที่เป็นมิตร แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ มีจิตใจที่พร้อมในการให้บริการประชาชนทั้งในและนอกสถานีตำรวจ
๒) เมื่อประชาชนมาแจ้งความร้องทุกข์ มาพบหรือร้องขอความช่วยเหลือหรือข้าราชการตำรวจผู้ใดก็ตามที่ประสบเหตุจะต้องแก้ไขปัญหา อำนวยความสะดวกหรือประสานการปฏิบัติในเบื้องต้นให้แก่ประชาชนทุกกรณีด้วยความเต็มใจ ทั้งนี้ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติและไม่คำนึงถึงว่าข้าราชการตำรวจผู้ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานใดจนกว่าจะมีผู้รับผิดชอบโดยตรงรับเรื่องไปดำเนินการ ข้าราชการตำรวจผู้นั้นจึงหมดภาระหน้าที่ดังกล่าว
๓) ข้าราชการตำรวจต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม โดยการเคารพ กฎ กติกา ระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีการใช้อภิสิทธิ์ใดๆ เกินกว่าสิทธิทั่วไป
แนวทางการปฏิบัติ
๑) การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเราปัจจุบันล้วนแล้วแต่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ทุกขณะอย่างเช่นกรณีพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองกำแพงเพชรที่ถูกคนเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายจำนวน ๒ คนเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและมีความพร้อมในทุกด้านดังอุดมคติตำรวจตอนหนึ่งที่ว่า “รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต”
๒) อีกอย่างหนึ่งก็คือปฏิภาณไหวพริบในการปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนจะต้องถึงพร้อมและใช้วิจารณญาณในการปฏิบัติเป็นอย่างสูง โดยนำเทคนิคและวิธีการที่ได้อบรมและแนะนำมาตลอดช่วงระยะการฝึกของสภ.พานและจากหน่วยงานอื่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๓) รัฐบาลมีนโยบายที่จะลดปัญหาอาชญากรรมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ได้อย่างน้อยร้อยละ ๒๐ ภายใน ๖ เดือนซึ่งคาดว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องกำหนดให้มีลักษณะเดียวกันทั่วประเทศอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทุกคนหมั่นสืบสวนหาข่าวคราวความเคลื่อนไหว เบาะแส การกระทำผิดของคนร้ายเพื่อป้องกันปราบปรามและระงับยับยั้งการกระทำผิดหรือจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ
๔) หน้าที่ของงานสายตรวจที่สำคัญก็คือการป้องกันเหตุมิให้เกิดขึ้น ซึ่งหากทุกคนสามารถทำได้เช่นนี้จะต้องส่งผลต่อนโยบายที่แจ้งในข้อ ๓) อย่างเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นจึงขอให้ช่วยกันปฏิบัติด้านนี้ให้ดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดที่เคยแนะนำทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาก็คือการใช้ “ทฤษฎีปรากฏกาย” มาใช้ขณะปฏิบัติหน้าที่ให้ได้ผล เพราะนอกจากจะส่งผลต่อจิตวิทยาแก่พี่น้องสุจริตชนที่เห็นตำรวจบ่อยๆ แล้วกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้ประสงค์ร้ายที่จะกระทำผิดอาจงดหรือละเว้นการกระทำที่คิดไว้ไปในตัวซึ่งจะส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่รับทราบจึงปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น