วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตำรวจ(สุขภาพ)จิตเสื่อม : โลกตำรวจ โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (๑ มิถุนายน ๒๕๕๖)

รถติดอย่างนี้เชื่อสิต้องมีตำรวจเสียงของผู้ขับขี่ที่กล่าวถึงสาเหตุที่มาของการจราจรที่ติดขัดบ่งบอกทัศนะว่าไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร ถ้อยคำที่ตามมาเป็นไปในลักษณะที่ว่า ที่ใดมีตำรวจจราจรที่นั่นรถติดตัวอย่างของทัศนคติที่ประชาชนมีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรนี้เป็นตัวอย่างของอคติที่เกิดขึ้นจากการด่วนสรุปตีความหมายปรากฏการณ์เฉพาะส่วนผิวเบื้องหน้าโดยไม่ได้ทำความเข้าใจเงื่อนไขซึ่งเป็นสาเหตุที่มาเบื้องหลังปรากฏการณ์ปัญหาทางสังคมนั้นๆ อย่างชัดเจน...นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่ตำรวจต้องมีวินัย อดทนต่อความเจ็บใจถึงแม้ว่าจะถูกเข้าใจผิดพลาดอย่างไรก็ต้องทนให้ได้

การไร้ความสามารถในการวิเคราะห์เวลาในการบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจรหรือการอำนวยการให้รถเคลื่อนผ่านในแต่ละจุดนั้นอาจเป็นปัญหาประการหนึ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิเสธไม่ได้ว่าจำเป็นต้องทำการฝึกอบรมและพัฒนาความรู้ความสามารถในด้านนี้แก่กำลังพลให้มีศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้น

หากแต่เมื่อทำการวิเคราะห์บริบทเชิงโครงสร้างและการบริหารจัดการแล้วจะเห็นว่ามีความสำคัญและมีอิทธิพลที่ทำให้การจราจรติดขัดมากกว่าพฤติกรรมการไร้ความสามารถของตำรวจจราจรซึ่งเป็นเพียงผู้ปฏิบัติงานปลายทางแต่เพียงเท่านั้น การมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะพฤติกรรมการทำงานปลายทางจึงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาของผู้นำที่มีศักยภาพ

การที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับและเห็นดีด้วยจนทำให้ประเทศของเราเป็นประเทศที่มีการขยายตัวและเติบโตในภาคอุตสาหกรรมนั้นทำให้วิถีชีวิตของคนในสังคมไทยต้องออกมาใช้ถนนสาธารณะในการเดินทางและมีแบบแผนการใช้เวลาแบบเดียวกันมากขึ้นนั้นคือเหตุที่มาประการสำคัญของการจราจรที่ติดขัด แต่กลับถูกมองข้ามหรือมองอย่างให้อภัยมากกว่าที่จะตีตราเพ่งโทษ...เราหลงลืมหลักธรรมอิทัปปัจจยาที่ว่า เพราะสิ่งนี้มี....สิ่งนี้จึงมี

นโยบายรถคันแรก เป็นนโยบายที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยพึงพอใจและใช้สิทธิ์ ดังนั้นถนนสาธารณะจึงมีจำนวนรถมากขึ้น รวมถึงมีนักขับมือใหม่ที่ไร้วุฒิภาวะเพิ่มมากขึ้นด้วย...น่าอายเพียงใดที่รัฐบาลจะปล่อยให้คนตายกลางถนนมากจนติดอันดับโลกเช่นนี้โดยไม่หันมาพิจารณาประสิทธิภาพการทำงานในด้านนี้อย่างจริงจังยังไม่นับรวมการเสริมแรงเพื่อให้ประชาชนคนไทยยึดมั่นในค่านิยมการใช้รถส่วนตัว ด้วยวิธีการเชิญชวนและจูงใจของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และกลุ่มธุรกิจสินเชื่อต่างๆ ที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดที่กระตุ้นเร่งเร้าให้ประชาชนที่เบื่อหน่ายความไร้ประสิทธิภาพของการให้บริการของระบบขนส่งสาธารณะ มีพฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นด้วย...เพราะสิ่งนี้มี...สิ่งนี้จึงมีอีกเช่นกัน!

 “ผมก็เครียดนะ มันก็ติดหมดทุกทาง ตำรวจก็ทำเต็มที่ไม่ใช่นั่งอยู่แต่ในตู้และกดไฟตามเวลา คุณเห็นป่าวว่าเราต้องขึ้นไปยืนดูจากมุมสูง ใช้เครื่องมือสื่อสาร ทำทุกวิถีทาง มันเต็มที่จริงๆคำอธิบายของตำรวจจราจรที่ยืนยันความเต็มที่ในภารกิจการอำนวยความสะดวกในการจราจรให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนกลายเป็นสิ่งที่ ฟังไม่ขึ้นและไม่มีคนฟัง? ตำรวจจราจรอาจจะมีภาพลักษณ์เป็นผู้ร้ายในสายตาของใครหลายคน แต่ในสังคมไทยเราก็ยังเห็นภาพที่เด็กนักเรียนรักลุงตำรวจที่คอยโบกรถให้ข้ามถนนที่หน้าโรงเรียน และหากให้ความเป็นธรรมกับตำรวจจราจรจะเห็นว่าตำรวจจราจรเป็นกลุ่มตำรวจที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด

ดังนั้นตำรวจกลุ่มนี้จึงถูกตรวจสอบมากที่สุด และหากผู้บริหารงานจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสโดยนำปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ ที่ตำรวจจราจรมีจนทำให้การปฏิบัติงานในหน้าที่ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือมีพฤติกรรมบิดเบี้ยวจนไม่สามารถสร้างความเชื่อถือศรัทธาให้กับประชาชนได้นั้นมาปรับรื้อกระบวนทัศน์ วิธีคิด และวิธีการในการบริหารจัดการงานจราจรอย่างเป็นระบบ ให้สมกับการเป็นนักบริหารงานตำรวจมืออาชีพ อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจจราจรในสายตาของประชาชนดีขึ้น...อย่าปล่อยให้ตำรวจจราจรชั้นผู้น้อยซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาตกเป็นเหยื่อของระบบที่ล้มเหลวต่อไปอีกเลย!!

เปิดใจยอมรับความจริงว่างานนี้ตำรวจทำเพียงลำพังไม่ได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาล ต้องได้รับการสนับสนุนและเสริมพลังอำนาจจากกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมด้วยจึงจะสามารถทำให้ตำรวจทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนได้...หากปล่อยให้ตำรวจทำงานอย่างโดดเดี่ยวผลงานก็จะปรากฏอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้การหันกลับมาทบทวนประสิทธิภาพการบริหารงานของผู้บริหารเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจผู้ปฏิบัติงานและความพึงพอใจของประชาชนในที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ผู้บริหารตำรวจและรัฐบาลพึงกระทำ...นี่เพียงแค่ตัวอย่างงานจราจรเท่านั้น อย่าลืมว่าตำรวจยังมีภารกิจอื่นอีกมากมายที่หนักหนาสาหัสไม่น้อยกว่างานจราจรเลย

ตำรวจเป็นฐานเสียงที่เข้มแข็งของรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลต้องคิดให้หนักว่ารัฐบาลต้องการมีกำลังพลตำรวจอันเป็นที่รักของประชาชนเพื่อเสริมอำนาจและผลงานให้รัฐบาลหรือต้องการเพียงจำนวนกำลังพลตำรวจที่มีแต่อำนาจในการบังคับใช้กฎหมายแต่ไม่ได้รับการเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน... การตอบคำถามนี้จะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลควรมีบทบาทอย่างไรในการร่วมสร้างตำรวจที่ประชาชนต้องการ

อย่าปล่อยให้ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นกลุ่มบุคคลที่มี สุขภาพจิตที่ไม่ดี มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ จนเผยแพร่ส่งต่อข้อความในลักษณะนี้ปลอบใจกันไปวันๆ

ชีวิตตำรวจใครว่าดี?
ชีวิตวันต่อวันขึ้นอยู่กับดวง
ผิดพลาดกับประชาชนก็ถูกด่า
ผิดพลาดทางกฎหมายก็คุก
ผิดพลาดทางยุทธวิธีก็ตาย
ผิดพลาดกับนายก็ ย้าย”!!!”


การที่ประเทศไทยมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สุขภาพจิตเสื่อมโทรมมันน่าหดหู่มากกว่าการมีตำรวจอ้วนวิ่งไล่จับโจร...รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น...หากรักประชาชนจริงรัฐบาลโปรดหันกลับมาช่วยเหลือตำรวจเพื่อทำให้ตำรวจทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยด่วน!! (ขอความกรุณา...อย่าสั่งแห้ง)

ที่มา : http://goo.gl/UA3yj

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น