ก่อนการประชุมชี้แจงภารกิจนั้้นมีหลักว่าจะต้องตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยก่อนว่ามีความพร้อมแค่ไหน อย่างไรในการทำงานที่จะไม่มีปัญหาข้อขัดข้องตามมา การตรวจความพร้อมนั้นจะตรวจดังต่อไปนี้ครับ
๑. เครื่องแต่งกาย ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
๒. อาวุธปืนประจำกายที่เจ้าหน้าที่ต้องมีและต้องพร้อม เพราะไม่แน่ว่าระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้นอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ เช่น อาจต้องล้อมจับคนร้าย,คนร้ายต่อสู้ หรืออาจต้องป้องกันตัวอะไรประมาณนี้
๓. อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายตรวจ เช่น สมุดพกประจำตัวที่เจ้าหน้าที่จะต้องจด จะต้องบันทึกเหตุการณ์หรืออะไรก็ตามที่พบขณะปฏิบัติหน้าที่ , ไฟฉายนี่ก็สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลากลางคืน , วิทยุรับส่งที่ใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับศูนย์วิทยุหรือเจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง
๔. ยานพาหนะ นี่สำคัญอย่างยิ่งเลยทีเดียว ยานพาหนะไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ต้องอยู่ในสภาพพร้อมเสมอ น้ำมันจะต้องพร้อม , สภาพต้องใช้การได้ดี หากมีปัญหาก็จะให้ตรวจซ่อมแก้ไขก่อน ถ้าเกินกำลังความสามารถก็ต้องโน่นครับให้ช่างจัดการ
เรื่องต่อมาก็คือหลังจากตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่แล้วหากเป็นการประชุมในเวลาแปดโมงเช้าพวกเราทุกคนจะต้องเคารพธงชาติและร้องเพลงชา่ติร่วมกันกับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศเพื่อให้มีจิตสำนึกของความเป็นไทย รักชาติไทย หวงแหนชาติไทย แล้วหลังจากนั้นจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนและอุดมคติตำรวจเพื่อความฮึกเหิมและมีจิตวิญญาณของการเป็นตำรวจอาชีพ เป็นตำรวจที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งผมขอนำคำกล่าวปฏิญาณตนและอุดมคติตำรวจมาแจ้งให้ทราบครับว่ามีอะไรบ้าง
อุดมคติตำรวจ
เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่กรุณาปรานีต่อประชาชน
อดทนต่อความเจ็บใจ
ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
ไม่มักมากในลาภผล
มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ดำรงตนในยุติธรรม
กระทำการด้วยปัญญา
รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต
คำปฏิญาณตน
ข้าพเจ้า จักจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ข้าพเจ้า จักยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อระงับทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชนตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ข้าพเจ้า จักปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดศีลธรรมเป็นหลักประจำใจ
ข้าพเจ้า จักยึดมั่นอยู่ในวินัยและรักษาไว้ซึ่งระเบียบแบบแผนของตำรวจ
ข้าพเจ้า จักเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเที่ยงธรรมอย่างเคร่งครัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น