สายๆ วันนี้แมะพาฉันไปที่ตลาดสามย่านซึ่งฉันแต่งชุดนักเรียนไปเหมือนเคยเพราะที่บ้านฉันแทบไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไปไหนมาไหนหรือทำอะไรที่มันต้องดูดีๆ หน่อยส่วนใหญ่ก็จะเอาชุดนักเรียนนั่นแหละมาใส่ เพื่อนๆ คนอื่นก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น หลังเสร็จจากซื้อของที่ตลาดจ่าย (ตลาดสด) แล้วแมะพาฉันไปที่ร้านแสงภูษาซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันเพื่อตัดชุดนักเรียนใหม่เพราะวันที่ ๑๗ เดือนนี้ฉันก็จะขึ้น ม.ศ.๑ ที่โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” แล้ว ชุดนักเรียนเก่าสมัยใส่อยู่ตอนประถมต้องเปลี่ยนใหม่หมด
ตอนไปถึงร้านแสงภูษานั้นมีเด็กนักเรียนรุ่นๆ ฉันหลายคนทั้งที่ฉันรู้จักและไม่รู้จักอยู่ที่นั่นเพื่อวัดตัวตัดชุดกันด้วย เมื่อถึงคิวฉันลุงแสงเจ้าของร้านก็เรียกฉันไปกลางร้าน ลุงแสงประกอบอาชีพตัดเสื้อผ้ามานานแล้วพวกเราคนอำเภอแกลงส่วนใหญ่จะรู้จักลุงแกและเป็นลูกค้ากันเบิกบาน (มากมาย) ยิ่งถ้าชุดเครื่องแบบนักเรียนนี่เด็กๆ มักมาตัดที่ร้านนี้เพราะแกตัดเร็วแต่ก็ประณีตไม่มีที่ติเลย
ช่วงวัดตัวแมะบอกลุงแสงว่า “เออนี่เหียแสง ช่วยวั่ด(วัด)เผื่อโตด้วยหนะ ยังไงเถ้า(ถ้า)เป็นไปได้เอาให้ถึงชั่น ม.ศ.๓ เลยจ้ะได้ปล่าว” ลุงตอบว่า “ไม่ต้องกังวลเหาะ(หรอก) เด็กนั่กเรียนทุ่กคนที่มาตัดที่ร่านนี่แช้นก็วั่ดเผื่อโตเหมือนๆ กันหมดแหนะ ตัดครั่งเดียวแต่ใช่ได้หลายปี”
วันนี้แมะตัดชุดนักเรียนใหม่ให้ฉัน ๒ ชุด ทั้งเสื้อและกางเกงชุดละตั้ง ๕๐ บาทรวม ๒ ชุดแมะต้องหมดเงินไปถึง ๑๐๐ เห็นแล้วก็อดสงสารแมะกับเพาะไม่ได้ นี่ยังดีนะที่รองเท้าและถุงเท้านักเรียนช่วงเรียนประถมฉันพอจะเอามาใส่ได้ไม่งั้นเพาะกับแมะต้องเสียเงินมากกว่านี้อีกหลายบาท
“ฉันจะตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้เพาะกับแมะผิดหวังและชุดนักเรียนที่แมะตัดให้วันนี้ฉันจะใช้อย่างทะนุถนอมเพื่อใส่ให้ได้ถึงชั้น ม.ศ.๓ เลยเพราะลุงแสงแก “ตัดเผื่อโต” ไว้ให้เราแล้ว
ด.ช.สุพจน์ มัจฉา
๓ พฤษภาคม ๒๕๑๗
๓ พฤษภาคม ๒๕๑๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น