วันนี้วันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ วันครบรอบ ๑ ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระผู้ซึ่งทรงเป็นศูนย์รวมชีวิตและจิตใจของคนไทยทั้งมวลท่ามกลางความเศร้าโศกสลดของคนไทยทุกคน พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่พระองค์ท่านทรงบำเพ็ญมาตลอดพระชนมชีพนั้นยังคงติดตราตรึงในความทรงจำของคนไทยเราอย่างมิมีวันลืมเลือนไปได้ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่านข้าพระพุทธเจ้าขอตั้งใจอธิษฐานว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบของทั้งส่วนรวมและส่วนตัวให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถจะพึงมีตลอดชีวิตหาไม่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
วันนี้ผมมาทำงานที่โรงพักตามเวลาปกติท่ามกลางบรรยากาศที่ดูออกจะซึมเศร้ายังไงบอกไม่ถูก ตำรวจของเราทุกคนที่พบเห็นก็จะมีสภาพคล้ายๆ กัน การพูดจาระหว่างกันจะเป็นไปในลักษณะค่อยๆ พูดหรือพูดช้าๆ ผิดกับวันอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เข้าใจกันได้ดีเพราะว่าทุกคนมีความโศกสลดรันทดใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซึ่งครบรอบขวบปีพอดีในวันนี้นั่นเอง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ยังคงติดตราตรึงในความทรงจำของพวกเราตลอดไปตราบจนชีวิตหาไม่และพวกเราจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ตลอดไป
วันนี้ที่ สภ.ภูกามยาว (รวมถึงหน่วยงานราชการ,รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง) ลดธงชาติลงครึ่งเสาเพื่อไว้ทุกข์แด่พระองค์ท่านโดยรัฐบาลกำหนดให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑๓-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
สการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำวันนี้ปรากฏตามภาพด้านขวามือซึ่งทุกคนมาปฏิบัติหน้าที่กันตามเวลาและครบถ้วนพร้อมให้บริการพี่น้องประชาชนซึ่งเช้านี้มีอยู่บ้างประปราย และหลังจากตรวจตราดูแลความเรียบร้อยต่างๆ แล้วผมนั่งทำงานที่ห้องทำงานต่อครับ << ภาพในส่วนนี้ >>
วันนี้ผมมาทำงานที่ สภ.จนถึงเวลาประมาณสิบโมงครึ่งก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมตำรวจเราแทบไม่มีใครมาเลยถ้าไม่นับร้อยเวร สิบเวร ประจำวัน พนักงานวิทยุซึ่งเขาต้องมาทุกวันอยู่แล้ว จนกระทั่งถามหมู่เฮาที่เข้าเวรเขาบอกว่า “วันนี้เป็นวันหยุดครับนาย” นี่ดีนะที่ไม่เผลอว่าใครไปก่อน
กลับบ้านละนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น