อากาศที่เวียงป่าเป้าเช้านี้ค่อนข้างดี แดดแทบไม่มีเลยมีแต่เมฆสีขาวๆ ค่อนข้างไปทางดำเกือบเต็มลักษณะครึ้มฟ้าครึ้มฝนเช่นวันวาน ดูท่าทางแล้วฝนคงไม่แคล้วตกมาแน่จะตอนไหนก็อีกเรื่อง ๑ หน้าฟ้าหน้าฝนก็งี้แหละธรรมชาติของมัน ดีเสียอีกที่ไม่ผิดหรือหลงฤดูกาลไป พี่น้องชาวนาจะได้อาศัยน้ำจากฟากฟ้าประักอบอาชีพของเขา ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้ยืนยงคงอยู่ไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน เหลน ลื่อ ลืบ ลืดด้วยนะครับ
มาถึงที่ทำงานก่อนเวลาก็เหมือนเดิมครับโรงพักตอนนั้นมีเพียงสิบเวรหรือเจ้า หน้าที่ควบคุมผู้ต้ืองหา,พลขับรถพนักงานสอบสวนเวรและเจ้าหน้าที่ประจำวันอยู่ ๓ คนผมก็เข้าไปพูดคุยทักทายกันตามธรรมเนียมเสร็จแล้วเข้าห้องทำงาน เปิดคอมดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยฆ่าเวลา ได้อะไรหลายอย่างในโลกไซเบอร์นี้โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ข่าวคราวความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศมีมาก ทำให้เราหูตากว้างไกลอีกเยอะ ถ้าไม่ดูหรือปิดหูปิดตาตัวเองก็คงเหมือนกบในกะลายังไงยังงั้น ยุคข้อมูลข่าวสารนี่ต้องดูต้องติดตามครับ บางอย่างเราไม่สามารถทำอะไรหรือแสดงความคิดเห็นอะไรได้แต่ถ้าเรารู้ไว้ก็ เป็นประโยชน์สำหรับตัวเอง บางอย่างที่เกี่ยวข้องและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ก็จะแสดงความคิดเห็นไป ลักษณะแลกเปลี่ยนความรู้ืความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
ใกล้ถึงเวลาทำงานเจ้าหน้า่ที่เขาก็มาทำงานตามปกติ ช่วงเช้าที่ผ่านมามีพี่น้องมาติดต่อราชการอยู่บ้างแม้ไม่มาก ที่เห็นคือมาแจ้งความเอกสารหายและญาติมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่โรงพักซึ่งมีอยู่ ๔ คนเพศชาย ทุกคนถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด ทั้ง ๔ คนนี้ช่วงสายๆ พนักงานสอบสวนจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงรายตามกฎหมายที่กำหนด เอ้อ พูดถึงข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษนี่ที่เวียงป่าเป้าเท่าที่ผมเห็นตั้งแต่เขาให้มาอยู่ที่นี่มีแทบทุกวันเลยครับ วันละคนบ้าง สองหรือสามคนบ้างแทบไม่มีึเว้น ห้องขังเนี่ยะถ้าถามใครก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีใครอยากมาอยู่หรอก แต่ทำไม้ทำไมมีคนเข้ามาอยู่ได้ทุกวัน ทุกโรงพักคงเป็นคล้ายๆ กันแบบนี้นี่แหละ ผู้ต้องหาทั้ง ๔ คนที่บอกน่ะผมเข้าไปพูดไปคุยและให้กำลังใจเขาว่าเมื่อพ้นคดีนี้แล้วขอให้เลิกเถอะยาเสพติดน่ะอย่าไปยุ่งกับมันเลยไม่มีประโยชน์ซักอย่าง ตัวเองก็เดือดร้อน ลูกเมียญาติสนิทมิตรสหายรวมถึงสังคมเดือดร้อนไปหมด เขาก็รับปากผมนะ
การทำงานช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ดีหน่อยมีงานเข้ามาพอสมควรแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของตำรวจเราครับ น้องๆ ในห้องธุรการเขาทำหน้าที่ของเขาโดยมีผมเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาแนะนำ งานที่สำคัญคือการประมวลเรื่องราวของตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่ผู้บังคับบัญชากำหนดให้มีการประชุมในวันพรุ่งนี้โดยในคำสั่งผมทำหน้าที่เลขานุการซึ่งก็ประมาณเจ้าหน้าที่ที่จัดเตรียมข้อมูลและรายละเอียดนั่นแหละ
พูดถึงเรื่องดาบตำรวจที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรข้างต้นนั้นไม่ใช่การสอบคัดเลือกนะครับแต่เป็นเรื่องที่ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ที่กำหนดโดยข้อหนึ่งมีอยู่ว่าต้องมีความรู้ความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ เรื่องนี้ยากไม่ใช่เล่นนะผมว่า อะุไรคือเป็นที่ประจักษ์แล้วใครประจักษ์ คำว่าประจักษ์คืออะไรในหลักเกณฑ์ไม่ได้กำหนดไว้คงให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยคิดและพิจารณากันเอง ลำบากใจเหมือนกันเรื่องนี้ ผมได้ยินตำรวจหลายคนเขาบ่นๆ กันออกมาดังเหมือนกันก็หวังว่าผู้มีอำนาจคงจะให้ความเป็นธรรมอย่างดีที่สุดเพื่ออนาคตของผู้มีสิทธิ์เหล่านั้น
อีกเรื่องหนึ่งที่ขอบันทึกไว้ มีงานอยู่งานหนึ่งเป็นเรื่องการคืนหลักทรัพย์ซึ่งเป็นเงินสดในการประุกันตัวผู้ต้องหา ข้อมูลคร่าวๆ ก็คือการคืนหลักทรัพย์นี้สั่งจ่ายเป็นเช็คขีดคร่อมธนาคารออมสิน สาขาเวียงป่าเป้า ที่ออกจะยุ่งยากสำหรับผู้รับคืนอยู่ไม่น้อยตอนไปเบิกเงินเนื่องจากต้องเบิกเงินผ่านบัญชีไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ ใครที่มีบัญชีธนาคารนี้ไว้แล้วคงไม่เป็นไรส่วนคนที่ไม่มีคงต้องเปิดบัญชีใหม่ที่ธนาคารนี้หรือนำเช็คไปเข้า่บัญชีธนาคารอื่นที่มีแล้วให้ธนาคารเรียกเก็บให้อีกทีตามระเบียบ วุ่นวายครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะระเบียบตำรวจเขากำหนดมาอย่างนี้ ผมเองแค่ตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจอะไรก็ได้แค่เพียงบ่นให้ฟังกันดังๆ เท่านั้น
นี่คือเช้านี้ที่เวียงป่าเป้าประจำวันนี้ครับ
ปิดท้ายคลายเครียด
“อ้ายเจ๊า ตำรวจนี่บ่ดีเลย” สาวคนหนึ่งบอกผมช่วงมาแจ้งความ
“เรื่องราวเป็นยังไงบอกผมหน่อย เดี๋ยวผมจะจัดการให้ ตำรวจไม่ดีนี่ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน” ผมพูด
“ก็ชอบจับน้องน่ะเจ๊า จับตลอดเลย” เธอตอบ “น้องไม่ได้ทำผิดอะหยังซักอย่างแต่ก็ยังจ้องจับอยู่นั่นแหละ เมื่อคืนก็จับเจ๊า”
“เอ๊ะ ยังไง ก็ในเมื่อน้องไม่ได้ทำผิดอะไรทำไมตำรวจจับล่ะ ผมไม่เข้าใจ” ผมซักต่อ
“ก็....” เธอพูดและหยุดไปนิดหนึ่งพร้อมทำท่าทางเอียงอาย “ตำรวจคนนั้นเป็นผัวน้องเจ๊า”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น