ก่อนนอนคืนนี้เปิดไปที่บล็อก oknation.net ซึ่้งผมเป็นสมาชิกและเขียนเรื่องราวต่างๆ ลงในบล็อกนี้บ่อยครั้งดูตามปกติ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เปิดดูแล้วประทับใจอย่างสุดซึ้งจนเรียกว่าแทบจะกลั้่นน้ำตาไว้ไม่ได้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พวกเราคนไทยทราบกันเป็นอย่างดีโดยไม่ต้องหาคำอะไรมาอธิบายอีก เรื่องนี้เขียนโดยสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า "เณรรูน" ผมอ่านแล้วอ่านอีกไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบด้วยความซาบซึ้งและตื้นตันและไม่อาจเก็บเรื่องราวนี้ไว้รู้คนเดียวได้จึงขออนุญาตนำเรื่องที่ "เณรรูน" เขียนไว้มาเผยแพร่ต่อในบล็อกผมนี้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวนั้นจะเป็นอย่างไรติดตามได้เลยขอรับ
"ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"
.....................
.. ทรงเหน็ดเหนื่อยบ้างไหมพระพุทธเจ้าข้า...:
... มีใครเคยบันทึกไว้บ้างไหมครับว่า ในแต่ละปีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจกี่ครั้ง เฉพาะภายในประเทศโดยไม่นับรวมหมายกำหนดการที่เสด็จฯไปต่างประเทศ เพราะแทบทุกวันหากพวกเราได้ดูข่าวในพระราชสำนักฯ วันหนึ่งๆไม่ต่ำกว่า ๓ - ๕ ภารกิจเป็นอย่างต่ำ
... ซึ่งตั้งแต่วันที่ ๑๓ - ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จฯมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ สงขลา พัทลุง ยะลา และนราธิวาส และวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พระองค์ท่านได้เสด็จฯมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งผมได้มีโอกาสเข้าบันทึกภาพ ทำข่าว โดยได้เลือกเอาหมายกำหนดการที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มาศึกษาความหลากหลายทางธรรมชาติ ณ ศูนย์วิจัยศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (พรุโต๊ะแดง) อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งนับเป็นป่าพรุที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
นับเป็นการเสด็จครั้งที่ ๒ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเสด็จฯเมื่อปี ๒๕๓๖ สร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นแก่พสกนิกรที่ตั้งบ้านเรือนและประกอบสัมมาชีพอยู่รอบๆป่าพรุ ทั้งพุทธ-มุสลิมเพราะนานมาแล้วที่ไม่มีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดเช่นวันนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่าในแต่ละวันพระองค์ท่านจะทรงงานเยอะมาก เฉพาะวันนี้วันเดียว ( ๑๖ ก.พ.) ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีหมายกำหนดการที่ต้องเสด็จถึง ๖ สถานที่ด้วยกัน
เฉพาะที่ป่าพรุสิรินธร (พรุโต๊ะแดง) แห่งเดียวพระองค์ท่านต้องใช้เวลากับสถานที่แห่งนี้กว่าสองชั่วโมง โดยเฉพาะตอนเสด็จฯไปตามสะพานไม้เพื่อศึกษาธรรมชาติ โดยมีพระสหายซึ่งเป็นสองสามี-ภรรยาชาวฝรั่งเศสตามเสด็จมาด้วย และเท่าที่ผมสังเกตุดูไกลๆ พระองค์ท่านนอกจากจะทรงงานแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นทั้งมัคคุเทศน์ไปด้วยเสร็จสรรพ เสริมความรู้ สร้างความครื้นเครงให้แก่พระสหายชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
หากพูดกันภาษาชาวบ้านก็ต้องยอมรับว่าท่าน " อึด " จริงๆ แม้รู้ว่าพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยกับภารกิจที่ต้องตรากตรำพระวรกายแทบทุกวันแต่เราก็เห็น " รอยยิ้ม " ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์ท่านเสมอสังเกตุดูง่ายๆ ที่หน่วยงานต่างๆนำสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆมาออกร้านเพื่อให้พระองค์ท่านได้ทอดพระเนตร พระองค์จะไม่เสด็จผ่านเลยแม้แต่หน่วยงานเดียว...ขนาดช่างภาพหนุ่มบางคนยังแอบซุ่มนั่งพัก ..
แต่พระองค์ไม่ ....
ผมซึ่งเป็นช่างภาพ คนข่าวในเครือเนชั่น ที่ลงมาสัมผัสพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ และได้เคยตั้งปณิธานให้แก่ตัวเองว่าในแต่ละปีผมจะต้องหาโอกาสไปบันทึกภาพ - ทำข่าว ขณะที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จลงมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ให้ได้อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้งและผมก็ได้ปฏิบัติมาเช่นนี้ทุกปี แม้บางครั้งจะถูกกันบ้างจากเจ้าหน้าที่ถวายความปลอดภัยเพราะความไม่คุ้นเคย แต่ผมก็เข้าใจเพราะนั่นคือหน้าที่
จากการที่ผมได้มีโอกาสเห็นพระจริยวัตรขณะเสด็จฯเยี่ยมราษฎรทำให้เกิดความคิดขึ้นมาในใจลึกๆ..
ถ้าหากผมมีความกล้าพอ อยากจะทูลถามพระองค์ท่านสักครั้งว่า
" พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยบ้างไหมพระพุทธเจ้าข้า " .....
ซึ่งผมก็คงได้แค่คิดครับ เพราะไม่กล้า ..
สุดท้ายกระผมต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงต่อท่านที่เข้ามาอ่านหากใช้คำบางคำไม่ถูกต้องไม่ถูกกาละเทศะเพราะด้อยในการใช้คำราชาศัพท์ แต่เป็นเรื่องที่อยากเขียนและอยากจะเผยความรู้สึกมานาน...
ขอบคุณครับ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/singslatan/2012/02/16/entry-3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น