สนาน สนุก สุขี
วันนี้ สดใส โสภี
สดชื่น จงมี ทั่วกัน
.........
วันนี้วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ วันทำงานวันสุดท้ายในสัปดาห์นี้ของพี่น้องส่วนใหญ่ก่อนที่จะได้หยุดพักผ่อนในวันเสาร์และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ๒ วันเต็มๆ คิดว่าพี่น้องคงจะมีสุขกันแน่ๆ เลย
วันนี้ผมมาทำงานตามปกติเหมือนเดิมครับ วันทำงานหรือแม้จะไม่ใช่แต่หากเรามีงานทีจะต้องทำก็มาทำซะก็จบ สบายใจกันทุกคนทุกฝ่าย หรือแม้ว่าจะไม่มีงานอะไรให้ทำก็ตามแต่ถ้าวันนั้นเป็นวันทำงานหรือวันราชการและเราไม่มีภารกิจอะไรนอกเหนือจากนั้นก็ไปทำซะ ง่ายๆ ไม่มีอะไรยากพี่น้องว่าจริงไหม
งานช่วงเช้าในส่วนของผมที่มีให้ทำวันนี้ก็พื้นๆ เดิมๆ นั่นแหละไม่มีอะไรหวือหวาหรือตื่นเต้นตามแบบฉบับของโรงพักภูกามยาวโรงพักเล็กๆ ที่พี่น้องอยู่กันอย่างสงบสุข คดีความต่างๆ มีเกิดขึ้นน้อยมาก งานอย่างแรกเมื่อถึงโรงพักหลังจากทักทายโอภาปราศัยกับเจ้าหน้าที่และพี่น้องมาติดต่อราชการบนโรงพักแล้วก็เข้าห้องทำงานตรวจตราสถิติข้อมูลความเคลื่อนไหวในรอบวันที่ผ่านมารวมถึงงานที่จะต้องทำในวันนี้ว่ามีอะไรบ้างรวมถึงเซ็นเอกสารนิดๆ หน่อยๆ ก็จบจากนั้นก็อยู่โยงเฝ้าโรงพักกันต่อเผื่อมีอะไรที่จะต้องให้ทำ
อนึ่ง วันนี้ผมปฏิบัติหน้าที่เวรอำนวยการผู้ใหญ่ประจำวันซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแล อำนวยการและสั่งการการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำวันนี้เพื่อให้การปฏิบัติสำเร็จลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายโดยหากมีปัญหาข้อขัดข้องอย่างไรก็ให้มีหน้าที่ในการจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
การปฏิบัติหน้าที่เวรอำนวยการผู้ใหญ่นี้สถานีตำรวจทุกแห่งจะต้องจัดนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรผลัดเปลี่ยนหมุนกันทำหน้าที่วันละ ๑ คนโดยในส่วนของ สภ.ภูกามยาวได้พิจารณาจัดจากนายตำรวจระดับสารวัตรขึ้นไปทำหน้าที่นี้ซึ่งการปฏิบัติประจำเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ เป็นไปตามคำสั่ง สภ.ภูกามยาวดังภาพด้านล่าง
เวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น.เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่งานสืบสวน สภ. << รายละเอียด >>
อนึ่ง สำหรับผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนครั้งนี้ในช่วงเช้าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน ๑ คน เพศชาย ข้อหาผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษซึ่งผมได้ร่วมสอบถามปากคำผู้ต้องหาด้วย
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จผมออกไปตัดผมที่ร้านตัดผมเจ้าประจำซึ่งอยู่ห่างโรงพักภูกามยาวราวๆ ๓๐๐ เมตรเพราะรู้สึกว่าตัวเองผมชักเริ่มจะยาวละ ไปถึงร้านไม่มีลูกค้าจึงเดินขึ้นไปนั่งบนโต๊ะตัดผมแล้วก็ไม่พูดกับช่างด้วย อ้ะอ๊า ไม่ได้โกรธกันแต่เหตุที่ไม่ได้พูดเพราะไม่จำเป็นต้องพูด ช่างเขารู้ว่าเราต้องตัดทรงไหนเนื่องจากตัดกันจนรู้ใจ ช่างก็ตัดๆๆๆๆ ตัดไปราวๆ ๑๐ นาทีเรียบร้อย ทรงผมถูกต้องตามระเบียบเป๊ะนั่นคือ
ขาวสามด้าน บนจุ๊ดจู่ ดูเท้เท่
มีเสน่ห์ แลเก๋ไก๋ ไฉไลด้วย
ตำรวจไทย แม้ไม่หล่อ พ่อไม่รวย
แต่สาวสวย จ้องมองเพลิน เดินตกคู
อ้ะอ๊า จริงๆ ตำรวจไทยยุคหัวเกรียนสามด้านเนี่ยะล้อหล่อ ใครเห็นโดยเฉพาะสาวๆ ด้วยแล้วเป็นต้องมองเหลียวหลังพร้อมหัวเราะคริกๆๆๆ กันเป็นแถวเลยทีเดียวแหละ เหอๆๆๆๆๆ
หลังจากตัดผมเสร็จเดินทางกลับโรงพักไปถึงราวๆ เที่ยง ๔๕ ภาพแรกที่เห็นยามเดินขึ้นโรงพักตอนนั้นรู้สึกประทับใจเพราะมีพี่น้องประชาชนคนหนึ่งไปติดต่อราชการโดยเจ้าหน้าที่ประจำวันประจำวันนี้คือ ด.ต.สุกิจ วงศ์ชัย กำลังให้บริการพี่น้องอยู่แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นช่วงเวลาทานอาหารกลางวันก็ตาม เห็นแล้วอดที่จะเก็บความประทับใจไว้คนเดียวไม่ได้เลยกดชัตเตอร์แชะสองแชะเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำมาบันทึกไว้ในบล็อกนี้อีกส่วนหนึ่ง
อย่างที่ผมเคยบอกอยู่บ่อยๆ นั่นแหละครับว่าพี่น้องประชาชนน่ะไม่ได้ต้องการอะไรจากตำรวจเรามากไปกว่าเมื่อไปโรงพักแล้วพบเจ้าหน้าที่ที่สามารถดำเนินเรื่องที่เขาต้องการได้แค่นั้นพี่น้องเขาก็พอใจแล้ว ไม่ต้องมีทิดสะดงทฤษฎีบ้าบอคอแตกอะไรมาอ้างมาอิงให้วุ่นวายหรอก ก็ต้องขอบคุณ ด.ต.สุกิจ วงศ์ชัย มา ณ ที่นี้ที่ทำหน้าที่ของตนได้อย่างน่าชมเชย
ช่วงบ่ายวันนี้ผมนั่งทำงานที่โรงพักเหมือนเดิมพร้อมกับตำรวจคนอื่นๆ ที่มีหน้าที่เวรยามประจำสถานีหรือเจ้าหน้าที่ธุรการ ซึ่งเจ้าหน้าที่แต่ละคนต่างคนต่างทำงานของตนเองด้วยความขยันขันแข็งเห็นแล้วก็ปลื้มใจในความวิริยะอุตสาหะของเขา
มีหน้าที่ ทำหน้าที่ ตามหน้าที่
ทำให้ดี อย่าให้เขา ว่าเราได้
มีหน้าที่ ทำอะไร ก็ทำไป
สบายอก สบายใจ ทุกฝ่ายเอย
<< ภาพทั้งหมด >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น