วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โลกตำรวจ : งบประมาณนอกระบบกับความจำเป็นในโลกของตำรวจ ? : โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗)

หากตำรวจซึ่งเป็นด่านแรกของกระบวนการยุติธรรมปฏิบัติงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพจะส่งให้ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนและสังคมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเห็นได้ว่าตำรวจไทยมีบทบาทหน้าที่ที่กว้างขวางมากกว่าตำรวจประเทศอื่นๆ (อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามีภาระงานที่มากมาย สำหรับตำรวจไทยนั้น ภาระงานบางอย่างยังถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นงานของตำรวจด้วยหรือ? อีกทั้งสำนึกในการป้องกันอาชญากรรมด้วยตนเองของประชาชนและนักธุรกิจเจ้าของสถานประกอบการต่างๆ ยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็นและเกิดความเชื่อและวิธีคิดที่ผิดพลาดอย่างมากว่าการป้องกันอาชญากรรมเป็นหน้าที่เฉพาะของตำรวจ?

เมื่อคิดเช่นนี้ประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? จะต้องใช้ตำรวจสายตรวจมากเพียงไร? จะต้องมีงบประมาณในจัดซื้อยานพาหนะ งบประมาณค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเท่าใดในการทำหน้าที่เช่นนั้น และจะมีหน่วยไหนยินดีที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับตำรวจโดยไม่ต้องเรียกร้องให้ตำรวจต้องอ้อนวอนร้องขอเสมือนหนึ่งว่าเป็นการของบประมาณมาใช้เพื่อการส่วนตัว!!

ปัญหาของวงการตำรวจในขณะนี้คือเรื่องงบประมาณ และองค์กรตำรวจขณะนี้บริหารงานด้วยงบประมาณนอกระบบเป็นส่วนใหญ่เสียงยืนยันที่หนักแน่นหลายครั้งหลายครา แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนตามมาภายหลังการส่งเสียงผ่านสื่อมวลชนของนายตำรวจใหญ่ซึ่งไม่มีผู้มีอำนาจคนใหญ่คนโตของประเทศที่ตั้งคำถามและตกใจกับคำว่า"งบประมาณนอกระบบ" ของตำรวจที่นายตำรวจใหญ่อ้างว่ากลายเป็นเรื่องจำเป็นปกติธรรมดาที่ต้องกระทำเพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ

รัฐไม่ให้เงินเดือน ค่าตอบแทน อุปกรณ์การทำงานและการเลื่อนตำแหน่งโดยความชอบธรรมที่จะสามารถเชิดหน้าชูตาเทียบเท่ากระบวนการยุติธรรมอื่นๆสารวัตรพูดเหมือนกับที่ตำรวจรุ่นก่อนหน้าพูดกันซ้ำซากนับสิบปี แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่ตำรวจส่วนใหญ่คิดเช่นเดียวกันว่า"พูดไปก็เท่านั้นไม่มีอะไรดีขึ้น

 “เปรียบเสมือนเลี้ยงสุนัขป่าไว้เฝ้าฝูงแกะโดยปล่อยให้อดๆ อยากๆ สุนัขป่าก็ต้องเลี้ยงชีวิตตัวเองโดยการกินแกะที่อ่อนแอนั่นเองผู้กำกับเปรียบเทียบให้เห็นภาพความจำเป็นที่เจ้าของฝูงแกะหรือผู้บริหารประเทศจำเป็นต้องเลี้ยงดูสุนัขป่าอย่างเหมาะสมมิใช่ปล่อยให้หิวโซจนต้องกลับมาไล่ล่าฝูงแกะแทนที่จะปกป้องคุ้มครองฝูงแกะนั้น

แท้ที่จริงแล้วตำรวจไทยที่จะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจ เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนได้นั้นอาจไม่สามารถเปรียบเทียบได้เพียงแค่สุนัขป่าที่เฝ้าฝูงแกะแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ควรเทียบถึงระดับการเป็น "ยอดมนุษย์" เลยทีเดียว เพราะการปฏิบัติงานของตำรวจนั้นมีปัญหาและอุปสรรคมากมาย ทั้งในด้านบุคลากรและงบประมาณ ดังนั้นนอกเหนือจากศักยภาพ สมรรถนะ ความทุ่มเทและความตั้งใจในการทำหน้าที่ที่ดีของตำรวจแล้วนั้น ตำรวจยังต้องสร้างความเข้มแข็ง อดทน อดกลั้นให้กับลูกเมียของตำรวจด้วย เพราะการที่ตำรวจจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่หนักอึ้งและไม่สามารถกำหนดขอบเขตเวลาที่แน่นอนได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกองหลังหรือกองหนุนที่มีความเข้มแข็งเพื่อให้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จโดยมิต้องพะวงหน้าพะวงหลังจนส่งผลกระทบถึงภารกิจหลักของงานในหน้าที่

เป็นกำลังใจให้พ่อของคุณและเจ้าหน้าที่ทุกคนในสังกัด สตช.ครับเป็นข้อความที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์โต้ตอบกระทู้ของลูกตำรวจที่ระบายความรู้สึกของตนเองที่ต้องอดทนและเข้มแข็งต่อกระแสความรู้สึกเชิงลบที่มีต่อตำรวจ

ในช่วง ๗ ปี มานี้เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมฝูงชนมาก ต้องทำงานหนักในสภาพตึงเครียด ไม่ว่า เรื่องอาหารการกิน การนอน เวลาเกิดม็อบเรื่องปะทะมีแต่ถูกด่ากับเจ็บตัว หนีก็ไม่ได้ ต้องตามคำสั่งเจ้านายอย่างเดียว เวลาอยู่กับครอบครัวก็คงน้อยลงเพราะต้องทำหน้าที่ตามคำสั่ง น่าเห็นใจ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้โต้ตอบใช้นามว่า "บ้านดิน" ในขณะที่ผู้ใช้นามว่า "ลิเวอร์เนียร์" บอกว่า "ในสายตาคนส่วนมากภาพลักษณ์ตำรวจมันติดลบแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่แค่วันสองวันนี้

อยู่กับตำรวจมาตั้งแต่เกิดเลยเข้าใจ แต่พูดไปก็ไม่มีใครฟังนายทหารวัย ๓๐ ผู้เป็นลูกชายของข้าราชการบำนาญตำรวจปลอบใจลูกตำรวจรุ่นน้องโดยแนะนำเสริมว่า "...ตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า ที่เขาด่าตำรวจนั้นมันจริงไหม แล้วเป็นตัวของตัวเองที่สุด...ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะรับราชการทหารตามที่พ่อผมต้องการ แต่จริงๆ แล้วในใจผมอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะผมรู้ไงครับว่าอะไรเป็นอะไรนายทหารลูกตำรวจกล่าวย้ำ

"อะไรเป็นอะไร" คงหมายถึงเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังที่มาของการกระทำต่างๆ ของตำรวจ ทั้งในรูปแบบที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนในสังคมและรูปแบบพฤติกรรมที่ทำให้เกิดเสียงก่นด่าจนเกิดการเหมารวมสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ตำรวจทั้งองค์กร หากแต่ผู้ที่เข้าใจเหตุที่มาของการผลักให้ตำรวจส่วนหนึ่งต้องเข้าไปติดกับดักผลประโยชน์และการกระทำในสิ่งที่มิชอบต่างๆ นั้น ก็ไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการบริหารงานในองค์กรตำรวจไทยให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานและการครองตนได้อย่างสง่าผ่าเผยสมศักดิ์ศรีได้เลย...คงได้แต่ภาวนารอให้ถึงวันที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายจะเข้าใจต่อไป!!

สิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ทำได้จึงเป็นเพียงการมีสติ ตระหนักรู้และตื่นตัวที่จะไม่กระทำในสิ่งที่จะทำให้ตนเองต้องติดกับดักของอำนาจและผลประโยชน์โดยกระทำการในสิ่งที่มิชอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น