วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เว่จขี้ (๕ ตุลาคม ๒๕๕๙)

ผมจั่วหัวเรื่องแบบนี้เชื่อว่าพี่น้องหลายคนคงจะหน้าเบ้แล้วพาลไม่อยากอ่านต่อเลยก็ได้ อ่านเถอะครับ ใครที่เคยผ่านการใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อนก็ถือว่าเป็นการ “ย้อนอดีต” ส่วนใครที่ยังไม่เคยก็ถือซะว่าเรามารับรู้เรื่องราวเก่าๆ ของบ้านเราสมัยก่อนที่ “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วยังมีเว่จขี้...”กันดีกว่า
สมัยก่อนนั้นคนบ้านเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งแถบชนบท ท้องทุ่งท้องนาไม่มีใครเอาส้วมไว้ในหรือใกล้บ้านหรอก อย่าว่าแต่เอาไว้เลย "มีก็ยังไม่มี" การถ่ายทุกข์ทั้งหนักและเบาก็หาเอา “แถวๆ บ้าน” นั่นแหละไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายด้วยแล้วยังไงก็ได้ แต่สำหรับผู้หญิงอาจจะลำบากหน่อย ที่ว่าลำบากนี่ไม่ใช่อะไร ผู้หญิงเป็นเพศขี้อายน่ะจะมาทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบผู้ชายมันดูไม่ดีเดี๋ยวพาลจะขายไม่ออกเอาได้ง่ายๆ ฮ่ะๆ
การถ่ายทุกข์โดยหาเอา “แถวๆ บ้าน” น่ะเขาทำยังไง ก็มีหลายอย่าง หลายแบบ หลายวิธีครับแต่ผมจะนำมาเล่าเฉพาะเท่าที่ที่ผมเคยเห็น เคยสัมผัส เคยใช้มาสมัยเป็นเด็กๆ อยู่บ้านพังราดไทย อำเภอแกลง ร่ะยองซึ่งคิดว่าที่อื่นๆ ก็คงจะคล้ายๆ กัน

อย่างแรกคนบ้านเราเขาเรียกว่า “ไปทุ่ง” การ “ไปทุ่ง” นี่ส่วนใหญ่เขาจะเอาจอบติดตัวไปด้วยเพื่อขุดหลุมกลางท้องนาท้องทุ่งใกล้ๆ บ้านที่ดูแล้วมันลับตาคน พอขุดเสร็จก็ถลกกางเกง,ผ้าถุงแล้วนั่งให้ก้นตรงกับหลุมที่ขุดจากนั้นถ่ายอุจจาระหรือ “ขี้” ลงไป พอเสร็จก็เช็ดก้นด้วยใบไม้ใบหญ้าซึ่งมีอยู่แถวๆ นั้นมากมายซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ "ใบไอ้มาด" หรือต้นสาบเสือกันเพราะมันมีเยอะและค่อนข้างนุ่มแล้วใช้จอบกลบหลุม กระแทกๆ ให้แน่นกันหมามาคุ้ยก็เป็นอันเสร็จพิธีซึ่งการถ่ายทุกข์ลักษณะนี้จะเป็นแบบของใครของมัน ไม่มีการซ้ำที่กันยกเว้นบางคนที่เอิ๊ญบังเอิญไปจ๊ะเอ๋ของเก่าที่เคยมีใครมาใช้มาก่อนก็คงหน้าเบ้ไม่น้อย
การ "ไปทุ่ง" ลักษณะนี้บางทีอาจจะไม่ต้องกลบหลุมก็ได้หากว่า "ไอ้ด่าง,ไอ้ดำ" ที่อยู่ใต้ถุนบ้านไปเป็นเพื่อนด้วยเพราะหลังจากถ่ายเสร็จไอ้ด่างไอ้ดำที่ว่ามันจะจัดการ "กิน" ให้จนเรียบร้อย หมดจดเกลี้ยงเกลาทั้งหลุม ดีไม่ดีถ่ายยังไม่ทันเสร็จมันพาลมุดหน้าลงไปกินซะงั้นต้องตะเพิดมันออกไปก่อน คนโต (ผู้ใหญ่) เขาเคยพูดให้ฟังว่า "ขี้ใหม่หมาหอม" น่ะครับ

ต่อมาเป็น “เว่จขี้” ตามคำที่ผมจั่วหัวเรื่องไว้ “เว่จขี้” ที่ผมเคยเห็นมีอยู่ ๒-๓ แบบซึ่งเป็นของครอบครัวหรือส่วนรวม “เว่จขี้” อย่างแรกน่ะเขาทำโดยช่วยกันขุดดินจุดที่ห่างจากตัวบ้านไปพอสมควรให้ลึกประมาณเมตร,เมตรกว่าเสร็จแล้วเอาไม้กระดานที่แข็งแรง ๒ อันวางพาดปากหลุมโดยให้ไม้ทั้ง ๒ อันห่างกันพอประมาณคะเนว่าเวลานั่งถ่ายทุกข์ขี้ที่ออกมานั้นจะลงหลุมพอดีโดยไม่เลอะเปรอะเปื้อนกระดาน บริเวณรอบๆ เขาจะเอาฟากไม้ไผ่,ทางมะพร้าวหรืออะไรก็ได้ที่มีอยู่มากั้นกันคนอื่นมองเห็น

สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ติดกับแม่น้ำลำคลองหรือทะเลมีลักษณะเช่นเดียวกันกับ “เว่จขี้” อันบนเพียงแต่ไม่ต้องขุดหลุม เวลาถ่ายก็นั่งยองๆ แบบเดียวกันแล้วขี้ลงไปซึ่งตอนขี้น่ะพวกปูปลากุ้งหอยแถวนั้นจะมากินกันเต็มไปหมดทีเดียว บางทีถึงขนาดแย่งกันจนน้ำกระเด็นขึ้นไปถูกคนถ่ายเลยก็มี (ที่บ้านผมใช้ “เว่จขี้” ลักษณะนี้ครับ)

เว่จขี้” อีกอย่างหนึ่งที่ผมเคยเห็นที่บ้านพังราดไทยแต่มีน้อยมากก็คือ “ส้วมซึม” หรือ “ส้วมหลุม” ครับ “เว่จขี้” แบบนี้จะมีเฉพาะบ้านคนที่พอมีสตางค์หน่อยซึ่งชาวบ้านไม่ค่อยนิยมใช้กัน
ต่อมาความเจริญทางด้านสาธารณสุขรวมถึงการส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจของทางการทำให้ “เว่จขี้” ที่ว่านี่ค่อยๆ หายไปๆๆๆ จน “สูญสิ้น” ไปในที่สุดโดยเดี๋ยวนี้บ้านแต่ละหลังจะมี “ส้วมซึม” หรือ “ส้วมชักโครก” ใช้กัน "ในตัวบ้าน" แล้วซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ป้องกันโรคระบาดหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับอนามัยของประชาชนได้เป็นอย่างดี

เอ้า พี่น่องบ้านเราส้ะหมัยเป็นเด็กๆ น่ะบ้านใครใช่ “เว่จขี้” แบบไหนมั่งง่ะ ไหนบอกให้ฟังหน่อยฮิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น