ชีวิตตอนเป็นเด็กๆ น่ะมีแต่ความสุขสนุกสนาน วันๆ ส่วนใหญ่ได้แต่กินๆ
เรียนๆ เที่ยวๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จะมีบ้างก็แค่ช่วยพ่อช่วยแม่ช่วยคนโต
(ผู้ใหญ่) ทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ เท่าที่พอจะทำได้ เด็กๆ
จึงมีแต่ความสุขรื่นเริงได้ตลอดทั้งปี
แต่ความสุขสนุกสนานที่เด็กๆ
บ้านเราแถบชนบททุกคนรอคอยซึ่งมีเพียงปีละ ๑ ฤดูกาลเท่านั้นก็นี่ครับ
“การนวดลาน”
หรือนวดข้าวที่สมัยก่อนเขาจะใช้ควายย่ำโดยก่อนนวดน่ะคนโตจะถากและขูดพื้นนาที่จะใช้เป็นลานให้เรียบเสมอกันซึ่งส่วนใหญ่จะทำเป็นวงกลมเสร็จแล้วเอาขี้วัวขี้ควายที่มีอยู่เยอะแยะนั่นแหละผสมน้ำเอาไปยาลานให้เรียบเพื่อให้พื้นแน่นกันไม่ให้เม็ดข้าวหล่นลงในดิน
เสร็จแล้วเอาต้นหมากขนาดพอเหมาะมาปักเป็น “เสาเกียด”
กลางลานจากนั้นก็เอาข้าวที่เกี่ยวและมัดเป็นฟ่อนแล้วมา “ลอม”
ไว้รอเวลานวดอีกที
การนวดลานสมัยก่อนก็อย่างที่บอกนั่นแหละคนบ้านเราส่วนใหญ่จะใช้ควายผูกมัดติดๆ
กันหลายๆ
ตัวเท่าความกว้างของฟ่อนข้าวในลานซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะให้ควายเดินย่ำไปเรื่อยๆ
ความสนุกของเด็กๆ
ในการนวดลานส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ตรงนี้ครับถ้าบ้านไหนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเขามีการนวดลานเด็กๆ
จะตัด “ไม้อีกิม” ซึ่งมีอยู่ทั่วไปแถวบ้านไว้ตีควายตัวที่ดื้อๆ
ไม่ค่อยยอมย่ำหรือขี้เกียจเดินให้เดินหรือย่ำให้ได้
แต่ส่วนใหญ่ควายมันก็จะเดินจะย่ำของมันตามประสาอยู่แล้วเพียงแต่มีเด็กบางคนชอบตีมันบ่อยๆ
อย่างสนุกสนานจนคนโตต้องคอยห้ามคอยปรามว่าอย่าทำยกเว้นตัวที่ดื้อถึงค่อยตี
เด็กๆ
จะไล่ควายให้ย่ำลานไปอย่างสนุกสนานจนกว่าเม็ดข้าวจะหลุดออกมาทั้งหมดซึ่งบางทีใช้เวลาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงก็มีแต่ก็ไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยกลับสนุกสนานจนตัวเปียกโชกด้วยเหงื่อไปตามๆ
กัน
เมื่อย่ำลานเสร็จและคนโตปลดควายออกแล้วก็มาถึงช่วงความสุขที่เด็กๆ
รอคอยอีกช่วงหนึ่งนั่นก็คือกิน “ข้าวเหนียวเหลือง”
ซึ่งเจ้าภาพเขาเตรียมมาเลี้ยงแขกรวมถึงเด็กๆเพราะถือว่าเด็กๆ
เนี่ยะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการนวดลานแต่ละครั้งครับ
ข้าวเหนียวเหลืองนั้นวิธีการทำก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่เอาข้าวเหนียวไปมูน
ใส่กะทินิดหน่อยพร้อมขมิ้นเพื่อให้สีออกเหลืองๆ
บนข้าวเหนียวมีส่วนประกอบอย่างหนึ่งทำจากปลาที่ฉีกหรือบดละเอียดพร้อมเครื่องปรุงที่คลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่จะออกสีแดงๆ
ตัดกับสีเหลืองของข้าวเหนียวบนใบตองสีเขียวอย่างลงตัววางอยู่
คนโตน่ะไม่ค่อยกินกันเท่าไรหรอกเพราะมักจะให้เด็กๆ กินมากกว่า
เด็กบางคนนะกินซะพุงกางเลยแค่นั้นยังไม่พอยังห่อกลับบ้านอีกด้วยก็มี
เรียกว่างานนี้นอกจากหายเหนื่อยจากการใช้ไม้อีกิมไล่ควายให้ย่ำลานแล้วยังอิ่มอร่อยแถมมีของติดเนื้อติดตัวกลับบ้านอีกด้วย
สมัยนี้บ้านเราไม่มีสภาพแบบที่ว่าแล้วเพราะการทำนา
การนวดลานแบบก่อนหมดไปคงเหลือไว้แค่ความทรงจำประมาณคำว่า
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” เท่านั้น
ในส่วนของ "ข้าวเหนียวเหลือง"
นั้นปัจจุบันถึงแม้จะไม่มีให้เห็นในท้องนาเวลานวดลานเหมือนเมื่อแต่ก่อนแล้วแต่ก็ยังคงมีขายตามท้องตลาดทุกวันครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวตลาดใหญ่ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น