“อ่างล้างตีน” หรือ “อ่างล้างเท้า”
นี้บ้านเราสมัยก่อนถือว่าเป็นของสำคัญที่ทุกบ้านจะต้องมี ไม่มีไม่ได้
เพราะสมัยนั้นการเดินไปไหนมาไหนส่วนมากจะเดินเท้าเปล่า
รองเท้าน่ะไม่มีกันหรอกถึงมีก็ใส่ลำบาก กลางท้องทุ่งนาเต็มไปด้วย “กะหลุก”
เต็มไปด้วยโคลนทั้งนั้นใส่ไม่ได้แน่ๆ เท้าแต่ละคนที่เดินออกจากบ้านไปน่ะ
“เล่อะม่อกแม่ก” ด้วยดินด้วยโคลนด้วยอะไรต่อมิอะไรทั้งนั้น
ทีนี้เวลาจะขึ้นบ้านก็ต้องล้างต้องทำความสะอาดให้ดีก่อน
การล้างนั้นครั้นจะไปตักน้ำจากบ่อมารึก็เสียเวลาโดยใช่เหตุ คนสมัยก่อนจึงทำ
“อ่างล้างตีน” ไว้หน้าบ้านซะเลย เวลาล้างก็ใช้เท้าที่เลอะๆ “จุ้ม”
หรือจุ่มลงไปให้สะอาดดีแล้วจึงขึ้นเรือนซึ่งผิดกับสมัยนี้ที่สภาพบ้านเราไม่
เหมือนแต่ก่อน ถนนหนทาง การสัญจรไปมาสะดวกสบายไม่มีอะไรติดเท้า
อีกอย่างคนส่วนใหญ่ก็ใส่รองเท้ากันแล้วไม่ได้เดินตีนเปล่าแบบสมัยนั้นทำให้
บ้านส่วนใหญ่ไม่มี “อ่างล้างตีน” อีกต่อไป
ภาพประกอบนี้คือ"อ่างล้างตีน" บ้านแมะเผือน มัจฉาที่บ้านพังราดไทยครับ แมะบอกว่าถึงแม้ว่าสมัยนี้แทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรแต่แมะก็อนุรักษ์ไว้ ให้ลูกๆ หลานๆ รุ่นหลังได้ดูได้รู้จักกันว่าสมัยหนึ่งบ้านเราเคยเป็นแบบนี้ แหม่ แมะนี่เอาได้จริงๆ เกี๊ย
เอ้า พี่น่องบ้านเราบ้านไหนที่ตอนนี่ยังมี “อ่างล่างตีน” เหลืออยู่ที่บ้านมั่งย่กมือบอกหน่อยฮิ
ภาพประกอบนี้คือ"อ่างล้างตีน" บ้านแมะเผือน มัจฉาที่บ้านพังราดไทยครับ แมะบอกว่าถึงแม้ว่าสมัยนี้แทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรแต่แมะก็อนุรักษ์ไว้ ให้ลูกๆ หลานๆ รุ่นหลังได้ดูได้รู้จักกันว่าสมัยหนึ่งบ้านเราเคยเป็นแบบนี้ แหม่ แมะนี่เอาได้จริงๆ เกี๊ย
เอ้า พี่น่องบ้านเราบ้านไหนที่ตอนนี่ยังมี “อ่างล่างตีน” เหลืออยู่ที่บ้านมั่งย่กมือบอกหน่อยฮิ
ตรงกลางอ่างล้าง เรียกว่านมกลางอ่างล้างเท้า
ตอบลบ