วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเวียงป่าเป้า (๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔)


วันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น.เป็นต้นไปอำเภอเวียงป่าได้จัดพิธีเนื่องในวันกำนันผู้ใหญ่บ้านประจำปี ๒๕๕๔ ขึ้น ณ หอประชุมอำเภอโดยมีนายเชิดชาย พิบูลย์วุฒิืกุล นายอำเภอเวียงป่าเป้าประธาน ผู้เข้าร่วมประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัุตรกำนัน พี่น้องประชาชนและข้าราชการประมาณ ๓๐๐ คนโดยในส่วนของ สภ.เวียงป่าเป้า พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผกก.,พ.ต.ท.ปวีณ ทองสมบูรณ์ รอง ผกก.(ป.),พ.ต.ท.สุพจน์ มัึจฉา สวป.และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งร่วมพิธีนี้ด้วย


การประกอบพิธีในวันนี้ช่วงแรกเป็นพิธีทางศาสนาเสร็จแล้วประธานอ่านสาส์นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล)





หลังจากอ่านสาส์นแล้วประธานมอบประกาศเกียรติคุณแก่กำนันผู้ใหญ่บ้านที่มีผลการปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น



พิธีวันนี้เสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.

สำหรับวันกำนันผู้ใหญ่บ้านมีประวัติความเป็นมาดังนี้

วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๓๕ เป็นวันที่ได้มีการจัดตั้งสถาบันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก) ทดลองจัดระเบียบการปกครองระดับตำบล หมู่บ้านขึ้นเป็นครั้งแรก ณ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านและเป็นการเน้นให้ เห็นความสำคัญของกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการปฏิบัติภารกิจ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชน ทางราชการจึงกำหนดให้วันที่ ๑๐ สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน"

ในอดีตที่ผ่านมาระบบการปกครองบ้านเมืองของประเทศไทยมีลักษณะค่อนข้างกระจายอำนาจกล่าวคือมีการแบ่งเขตการปกครองและกำหนดวิธีปกครองหัวเมืองต่างๆ ไว้ชัดเจนเพื่อควบคุมเจ้าเมืองโดยมีศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางแต่ในทางปฎิบัติส่วนกลางหรือพระมหากษัตริย์กลับมีอำนาจจำกัดในขณะที่เจ้าเมืองต่างๆ มีอำนาจมากขึ้น นอกจากนี้แล้วระบบการปกครองเช่นนี้ยังก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ อีก เช่นปัญหาทางด้านการคมนาคมสื่อสาร การรั่วไหลในการเก็บภาษีอากร อิทธิพลของผู้เป็นใหญ่ในท้องถิ่น ตลอดจนความทุกข์ยากของประชาชน และยังต้องเผชิญกับอิทธิพลของต่างประเทศในยุคล่าอาณานิคม ทำให้การบริหารประเทศขาดประสิทธิภาพ และขาดความเป็นเอกภาพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีพระราชดำริที่จะปฎิรูประบบการบริหารราชการจากรูปแบบการปกครองที่มีเมืองแม่และเมืองประเทศราชอยู่ในปกครอง ซึ่งนับว่ามีจุดอ่อนตรงที่ขาดความเป็นเอกราชอันอาจนำไปสู่ความแตกแยก ขาดความสามัคคีและขาดความจงรักภักดีได้โดยง่ายมาเป็นรูปแบบการปกครองและการบริหารราชการที่แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนคือส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

การปฎิรูประบบการบริหารราชการส่วนกลางพระองค์ได้ทรงประกาศพระบรมราชโองการตั้งกระทรวงใหม่ขึ้น ๑๒ กระทรวงโดยทรงเลียนแบบมาจากประเทศทางตะวันตก มีการแบ่งสรรอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ แยกตามลักษณะความชำนาญเฉพาะอย่างและพระมหากษัตริย์สามารถควบคุมบังคับบัญชาเหล่าเสนาบดีได้อย่างทั่วถึง การปฎิรูปการบริหารราชการส่วนภูมิภาคพระองค์ทรงรวบรวมหัวเมืองตามชายแดนที่สำคัญๆ รวมเป็นเขตการปกครองเรียกว่า"มณฑล" โดยมุ่งมั่นที่จะปกป้องประเทศจากการคุกคามจากภายนอกโดยจัดระบบที่เรียกว่าระบบเทศาภิบาล มีหัวเมืองต่างๆ มารวมกันเป็นมณฑลและมีจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านลดหลั่นกันไปโดยมีข้าหลวงมณฑลเป็นผู้รับผิดชอบและปกครองโดยรับคำสั่งและนโยบายจากส่วนกลาง

ในการปฎิรูประบบการปกครองส่วนภูมิภาคโดยการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการโดยเริ่มจากโครงการเล็กก่อน เมื่อสำเร็จและจัดระบบดีแล้วจึงค่อยขยายผลและมีการทดลองเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านขึ้นเป็นครั้งแรกที่แขวงบางปะอินเมืองกรุงเก่าหรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบันเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๕ ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มแรกของการปกครองในระบอบระชาธิปไตย ลักษณะการปกครองเช่นนี้ปรากฎเด่นชัดขึ้นเมื่อได้มีการตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ ขึ้นใช้ ซึ่งมีการแบ่งการบริหารราชการของอำเภอออกเป็นตำบลและหมู่บ้าน กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศให้วันที่ ๑๐ สิงหาคมของทุกปีเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน

ที่มา : http://www.sirikitdam.egat.com/days/08august/0408.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น