

งานที่ทำช่วงบ่ายวันนี้มี ๒ เรื่อง เรื่องแรกเป็นงานกำลังพลอีกเรื่องหนึ่งเป็นงานนโยบายและแผนใช้เวลาราวชั่วโมงเศษๆ ก็เรียบร้อย พวกเราช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยผมเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ ที่พอจะมีความรู้ให้เจ้าหน้าที่เขานิดหน่อยในเรื่องเทคนิคการเขียนหนังสือว่าจะเขียนอย่างไรจึงจะไหลรื่น ไม่สะดุดและน่าอ่านตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมข้อเสนอแนะให้ผู้บังคับชาพิจารณา ตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบพร้อมมูลในงานนั้นๆ เรื่องนี้ต้องใช้ประสบการณ์เข้าช่วยพอสมควร ผมบอกเขาว่าการที่คนเราจะเขียนหนังสือให้ไหลลื่ืนได้นั้นจะต้องเป็นคนหมั่นอ่าน หมั่นเขียน หมั่นศึกษาจากผู้อื่นแล้วจับแนวทางที่เหมาะสมมาใช้เป็นสไตล์ของเรา แต่ต้องไม่ลอกเขามาทั้งดุ้นนะ จากนั้นให้ลองฝึกเขียนดูแล้วให้่คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ด้วย ครั้งแรกๆ อาจจะตัดขัดบ้างแต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนไปแบบนี้บ่อยครั้งเข้าข้อมูลก็จะดูไหลลื่นไปเอง ก็ให้กำลังใจเขาครับ


เสร็จจากงานที่รับผิดชอบเสร็จแล้วผมเดินไปพูดคุยทักทายเจ้าหน้าที่งานสอบสวนที่ห้องซึ่งอยู่ติดๆ กัน มีเจ้าหน้าที่ขณะนั้น ๓ คนคือ ด.ต.ทองคำ ห้วยน้ำ (หัวหน้าคดี) , ด.ต.สมพงษ์ เชาว์สุรินทร์ และุ ด.ต.เสมอ อรัญสุวรรณชัย ทุกคนมีเอกสารกองโตอยู่้เต็มโต๊ะกันหมดเลย เอกสารที่ว่านี้เป็นเรื่้ืองเกี่ยวกับการสอบสวนนั่นแหละั ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่งานนี้มีสูงมาก ทุกคนต้องทุ่มเทให้งานอย่างเต็มที่และเต็มเวลา งานที่เข้ามามีทุกวันและแทบทุกชั่วโมงก็ว่าได้ การทำก็จะต้องเร่งดำเนินการทันทีที่งานเข้ามา เรียกว่าหากผู้รับผิดชอบลองไม่ทำงานซักครึ่งวันรับรองว่าจะเป็นดินพอกหางหมูแน่นอน แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่เขาสุดยอดครับ เอาเป็นว่าตั้งแต่ผมมาอยู่ที่่นี่ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มิถุนายนที่ผ่ืานมาก็เห็นเขาทุ่มเทเสียสละอย่างนี้โดยตลอด ผมให้กำลังใจเขาพร้อมบอกว่าทุกคนที่ทำงานคดีนั้นคือผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น