วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บ่ายนี้ที่้เวียงป่าเป้า (๓ สิงหาคม ๒๕๕๔)


บ่ายนี้หลังจากทานอาหารกลางวันที่ร้านตำรวจหน้าโรงพักเสร็จแล้วราวเที่ยงครึ่งก็มานั่งที่ห้องทำงานต่อ ไม่รู้จะไปไหนเพราะฝนฟ้าแม้จะไม่ตกก็ตามแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ อีกอย่างงานที่ทำเป็นงานอำนวยการที่จะต้องอยู่ประจำโรงพักไม่ใช่ข้างนอกยกเว้นผู้บังคับการสั่งการอะไรมาเป็นพิเศษนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เหมือนเดิมครับระหว่างนั้้นผมก็เปิดคอมดูข่าวสารข้อมูลอะไรหลายๆ อย่างที่น่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในงานได้ มาสะดุดที่เว็บไซต์ๆ หนึ่งเว็บไซต์นี้เป็นของกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สุดยอดมากเลยทีเดียวครับ แต่จะเป็นอย่างไรในความคิดผมผมจะยกยอดไปเขียนให้อ่านตอนท้ายบทความนี้

งานที่ทำช่วงบ่ายวันนี้มี ๒ เรื่อง เรื่องแรกเป็นงานกำลังพลอีกเรื่องหนึ่งเป็นงานนโยบายและแผนใช้เวลาราวชั่วโมงเศษๆ ก็เรียบร้อย พวกเราช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยผมเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ ที่พอจะมีความรู้ให้เจ้าหน้าที่เขานิดหน่อยในเรื่องเทคนิคการเขียนหนังสือว่าจะเขียนอย่างไรจึงจะไหลรื่น ไม่สะดุดและน่าอ่านตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมข้อเสนอแนะให้ผู้บังคับชาพิจารณา ตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบพร้อมมูลในงานนั้นๆ เรื่องนี้ต้องใช้ประสบการณ์เข้าช่วยพอสมควร ผมบอกเขาว่าการที่คนเราจะเขียนหนังสือให้ไหลลื่ืนได้นั้นจะต้องเป็นคนหมั่นอ่าน หมั่นเขียน หมั่นศึกษาจากผู้อื่นแล้วจับแนวทางที่เหมาะสมมาใช้เป็นสไตล์ของเรา แต่ต้องไม่ลอกเขามาทั้งดุ้นนะ จากนั้นให้ลองฝึกเขียนดูแล้วให้่คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ด้วย ครั้งแรกๆ อาจจะตัดขัดบ้างแต่ถ้าเราหมั่นฝึกฝนไปแบบนี้บ่อยครั้งเข้าข้อมูลก็จะดูไหลลื่นไปเอง ก็ให้กำลังใจเขาครับ



เสร็จจากงานที่รับผิดชอบเสร็จแล้วผมเดินไปพูดคุยทักทายเจ้าหน้าที่งานสอบสวนที่ห้องซึ่งอยู่ติดๆ กัน มีเจ้าหน้าที่ขณะนั้น ๓ คนคือ ด.ต.ทองคำ ห้วยน้ำ (หัวหน้าคดี) , ด.ต.สมพงษ์ เชาว์สุรินทร์ และุ ด.ต.เสมอ อรัญสุวรรณชัย ทุกคนมีเอกสารกองโตอยู่้เต็มโต๊ะกันหมดเลย เอกสารที่ว่านี้เป็นเรื่้ืองเกี่ยวกับการสอบสวนนั่นแหละั ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่งานนี้มีสูงมาก ทุกคนต้องทุ่มเทให้งานอย่างเต็มที่และเต็มเวลา งานที่เข้ามามีทุกวันและแทบทุกชั่วโมงก็ว่าได้ การทำก็จะต้องเร่งดำเนินการทันทีที่งานเข้ามา เรียกว่าหากผู้รับผิดชอบลองไม่ทำงานซักครึ่งวันรับรองว่าจะเป็นดินพอกหางหมูแน่นอน แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่เขาสุดยอดครับ เอาเป็นว่าตั้งแต่ผมมาอยู่ที่่นี่ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มิถุนายนที่ผ่ืานมาก็เห็นเขาทุ่มเทเสียสละอย่างนี้โดยตลอด ผมให้กำลังใจเขาพร้อมบอกว่าทุกคนที่ทำงานคดีนั้นคือ
ผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง



ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้นคือเว็บไซต์กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กันเลย ครั้งแรกที่เปิดเข้าไปดูก็รู้สึกประทับใจแล้วในเรื่องการออกแบบหน้าตาที่ดูดี กลมกลืน ชวนให้ัีคลิกเข้าไปอ่านอย่างยิ่ง แต่้นั่นไม่สำคัญเท่ากับเนื้อหา่สาระข้างในครับ ในเว็บไซต์นี้มีเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับการจราจร ทั้งประัวัติความเป็นมา กฎหมายน่ารู้ ประมวลภาพการปฏิบัติ การ ตอบปัญหาจราจร ฯลฯ ที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งในความคิดของผมก็คือการรายงานผลการปฏิบัติว่ามีอะไรบ้าง ตำรวจเราคิดแบบไหน ทำอะไร โครงการสำคัญๆ ต่างๆ รวมถึงข้ัอคิดข้อเขียนซึ่งส่วนใหญ่ พ.ต.อ.อนุ เนินหาด ผกก.จะเขียนให้ัอ่านกัน อ่านแล้วได้ประโยชน์มากแม้ัเราจะไม่้เคยไปหรือมีธุระปะปังอะไรที่้เชียงใหม่ ก็ตามแต่สามารถนำข้อคิดข้อเขียนเหล่านั้นมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

อย่างที่ผมเคยเขียนไว้หลายๆ ครั้งในบล็อกนี้และที่อื่นว่าตำรวจเรามีอะไรดีๆ มากมาย แต่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องการเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์กันนัก อย่างเก่งก็แค่ถ่ายภาพไว้ภาพสองภาพแล้วเก็บไว้ส่วนตั๊วส่วนตัว บางคนก็เอาภาพมารายงานเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาทราบ บางหน่วยเอาภาพกิจกรรมที่ทำนั้นปิดประกาศไว้ที่บอร์ดของหน่วยงาน แต่นั่นก็รู้เฉพาะคนทำหรือหน่วยงานนั้นไม่กี่คน นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ ทำไมไม่ทำอะไรให้พี่น้องได้รับรู้รับทราบบ้่างว่าเราทำหรือคิดอะไรบ้าง ยิ่งยุคนี้เป็นโลกยุคไซเบอร์ด้วยแล้วทำไมไม่ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ล่ะ สื่อที่จะนำออกเผยแพร่ก็มีออกเยอะแยะ เว็บไซต์เอย บล็อกเอย Twitte หรือแม้แต่ Facebook ที่คนเขากำลังฮิตฮ็อตนี้ก็ใช่ อะไรก็ได้ ทำเถอะครับเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบว่าพวกเราทำอะไร คิดอย่างไรไม่ว่าจะุอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ที่ทำแล้วและผมคิดว่ามีประโยชน์อย่างมากก็คือของกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ที่ืมี พ.ต.อ.อนุ เนินหาด เป็น ผกก.นี่ส่วนหนึ่งล่ะ จึงขออนุญาตชมเชยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น