วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อบรมโครงการการพัฒนาระบบงานสืบสวนในการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน (๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕)

วันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น.เป็นต้นไปตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้จัดให้่มีึการประชุมชี้แจงและฝึกอบรมตามโครงการการพัฒนาระบบงานสืบสวนในการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน (อบถ.) ขึ้น ณ หอประชุมกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเีชียงราย ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยคณะกรรมการภาคีเครือข่าย,ผู้บริหารสถานีตำรวจ,พนักงานสอบสวน,เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลของสถานีตำรวจต่างๆ ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย,ตำรวจภูธรจังหวัดพะเยาและตำรวจทางหลวงรวมทั้งสิ้น ๗๒๑ คน



การอบรมวันนี้มีดังนี้

เวลา ๐๘.๐๐-๐๘.๓๐ น.ลงทะเบียน



จากนั้นเข้่าสู่ห้องประชุมโดยผู้บังคับบัญชากรุณามอบหมายให้ผมทำหน้าที่พิธีกรในการอบรมครั้งนี้อีกหน้าที่หนึ่ง




เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น.เป็นการบรรยายของอาจารย์วรสฤษดิ์ ปิงเมือง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายในหัวข้อเกี่ยวกับฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง



เวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น.เป็นการบรรยายของ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ รองผู้บัญชการตำรวจสอบสวนกลางซึ่งเป็นหัวหน้่าวิทยากรโครงการ อบถ.ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในหัวข้อบทบาทของตำรวจในการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน



การบรรยายของ พล.ต.ต.โกสินทร์ฯ นั้นสรุปได้ว่าแนวคิดในการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนนั้นสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาที่ทำให้ประชาชนสูญเสียมูลค่าทางทรัพย์สินนับแสนล้านบาท บาดเจ็บ พิการ ทุพลภาพกว่าแสนคนและเสียชีวิตจำนวนหมื่นกว่าคนเศษต่อปี ปัญหาและความเสียหายมากมายขนาดนี้หลายฝ่ายได้ร่วมกันแก้ไขและป้องกันในระยะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตามความคิด ศักยภาพและความรู้ความสามารถอย่างหลากหลายวิธีการอย่างไรก็มีส่วนถูกต้องและสามารถลดปัญหาลดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้นแต่แนวทางแก้ไขและป้องกันที่ถูกต้องเหมาะสมและน่าจะเกิดผลดีต่อการลดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดควรจะเป็นอย่างไร

ผลสรุปจากการประชุมสัมมนาของตำรวจผู้บริหารงานจราจรระดับตำรวจภูธรจังหวัดและระดับตำรวจภูธรภาครวมทั้งตำรวจทางหลวงและตำรวจนครบาลทั่วประเทศร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในหลายครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดประชุมสัมมนาจากศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (ศอจร.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ผ่านมาพบว่า “การแก้ปัญหาที่สาเหตุ” จะเป็นคำตอบสุดท้ายของแนวทางการแก้ไขและป้องกัน อบถ. เสมอ นั่นคือที่มาของ “โครงการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งประกอบด้วย

๑. พนักงานสอบสวนเวรรับผิดชอบประจำสถานีตำรวจท้องที่ที่ได้รับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุทางถนนซึ่งออกไปสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอยู่แล้ว ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุอื่นๆประกอบเพิ่มเติมด้วย ได้แก่ สภาพของรถ สภาพของถนน และสภาพแวดล้อมบริเวณถนนที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุร่วมที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วยนอกเหนือจากความประมาทของคนขับรถโดยมีตำรวจจราจรอีก ๑ คน เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนที่ร่วมตรวจและสืบสวน อบถ. ตามแบบรายงานการสืบสวน อบถ. ที่กำหนดไว้

๒. คณะกรรมการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน (กปถ.) ของสถานีตำรวจท้องที่ซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าสถานีตำรวจ รอง ผกก. และ สว. ที่ทำหน้าที่จราจรร่วมกันประชุมวิเคราะห์ข้อมูล อบถ. ตามแบบรายงานการสืบสวน อบถ. ดังกล่าวเพื่อสรุปหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขป้องกัน อบถ. ที่ถูกต้องตรงจุดต่อไป

๓. คณะกรรมการ กปถ. อำเภอ ซึ่งประกอบด้วยตำรวจท้องที่และภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องภายในอำเภอ เช่น ปภ. ขนส่งทางบก การทาง สาธารณสุข ประกันภัย สถาบันการศึกษา เป็นต้น ร่วมกันประชุมพิจารณาผลสรุปสาเหตุและแนวทางแก้ไขป้องกัน อบถ. ที่เกิดขึ้นตามที่คณะกรรมการ กปถ. สถานีตำรวจรวบรวมเสนอในรอบระยะเวลา ๑ เดือน เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน อบถ.ในภาพรวมระดับอำเภอ

๔. คณะกรรมการ กปถ. ระดับจังหวัด ตำรวจภูธรภาคและ ตร. ร่วมกันประชุมพิจารณาผลสรุปของสาเหตุและแนวทางแก้ไขป้องกัน อบถ. ที่เกิดขึ้นตามที่คณะกรรมการ กปถ. อำเภอ จังหวัด และตำรวจภูธรภาค รวบรวมเสนอตามลำดับจนถึงระดับ ตร. ในรอบระยะเวลา ๑ เดือน โดยมีการส่งผ่านข้อมูลทางอิเล็คทรอนิคส์ในทุกระดับของคณะกรรมการ กปถ. เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน อบถ. ในภาพรวมของประเทศต่อไป

(รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนนนั้นท่านสามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.roadsafetyteam.police.go.th)

สำหรับการอบรมในช่วงบ่ายนั้นเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น.โดยเป็นการเรียนรู้วิธีการประมวลผลและวิเคราะัห์ข้อมูล อบถ.โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และฝึกปฏิบัติืของหัวหน้าสถานีตำรวจและเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล

<< ภาพประกอบ (๖๒ ภาพ) >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น