วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เกณฑ์ตำรวจไปทำอะไร?ที่ไหน? : โลกตำรวจ โดยผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (๖ สิงหาคม ๒๕๕๘)

ความเกลียดชังและอคติต่อตำรวจที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคน ทุกฝ่ายต้องหันกลับมาทำความเข้าใจกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงภายในที่สามารถตอบสนองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ทุกคนในสังคมไทยได้

ไม่มีประเทศใดในโลกที่ไม่มีตำรวจ

ตำรวจเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นสำหรับทุกสังคม และถ้าให้งานตำรวจหรือภารกิจของตำรวจบรรลุเป้าหมายที่จะสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยได้อย่างแท้จริงนั้นจำเป็นต้องยึดหลักการที่ว่า ประชาชน คือ ตำรวจคนแรกเสียด้วยซ้ำ

เมื่อเข้าใจหลักการที่ว่า ประชาชนคือตำรวจคนแรก นั่นหมายความว่า ประชาชนทุกคนในสังคมต่างจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของอาชญากรรมตลอดจนการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมด้วยวิธีการและรูปแบบในการดำเนินการที่แตกต่างกันไป หากแต่จำเป็นต้องสอดคล้องกับบริบทของวิถีชีวิต และบริบททางสังคมวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องด้วย
หัวหน้าสถานีตำรวจทั้งหลายต้องนำพาลูกน้องตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาเดินเข้าหาประชาชนด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนและเป็นมิตร ถึงแม้ว่าเบื้องแรกอาจจะได้รับการตอบสนองด้วยท่าทีระแวง สงสัย และตั้งคำถามต่อความจริงใจและเป้าประสงค์ของตำรวจได้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ประชาชนจะเกิดความรู้ใหม่ ความรู้สึกใหม่ๆ และแสดงท่าทีที่เป็นมิตรต่อตำรวจมากขึ้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ถูกพิสูจน์ตรวจสอบแล้วจากผลงานการศึกษาวิจัยในเรื่องตำรวจร่วมมวลชนลดอาชญากรรม (ตมอ.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ผลงานวิจัยเรื่องนี้ได้ชี้ประเด็นสำคัญของท่าทีตำรวจที่ควรกระทำสำคัญหลายประการเพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้าน
หนึ่งในความสำคัญหลายประการ คือ การที่ตำรวจและสังคมจะต้องไม่ประเมินความรู้ ความสามารถของชาวบ้านที่เข้ามาร่วมมือกับตำรวจต่ำเกินความเป็นจริงอย่างที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมา

อย่าคิดแต่เพียงว่าก็แค่อาสา หรือที่นิยมเรียกว่า ตำรวจอาสา อย่าคิดว่าอาสาที่เข้ามาช่วยงานตำรวจ คือลูกน้องตำรวจ ต้องรับฟังต้องปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจแต่เพียงเท่านั้น เป็นต้น

เพราะแท้ที่จริงแล้วนั้น ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนทั้งในส่วนที่อาสาเข้ามาช่วยทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว และยังไม่ได้ร่วมมือกับตำรวจนั้น ต่างมีความรู้เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรม และความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้านในชุมชนของพวกเขาเป็นอย่างดี

ดีกว่าตำรวจเสียด้วยซ้ำ

การที่ตำรวจให้เกียรติและยอมรับในความรู้ของชาวบ้านจะส่งผลให้ตำรวจมีภาคีเครือข่ายที่จะเข้ามาร่วมแรงร่วมใจกันในการปกป้องอาชญากรรมในชุมชนตามความต้องการของชาวบ้านให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้อย่างที่ต้องการ โดยกลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาร่วมมือกับตำรวจจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานแต่ละด้านและมีทุนทางสังคม-วัฒนธรรมที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้กลุ่มบุคคลที่ทำงานร่วมกับตำรวจก็จะได้รับทราบวิถีการปฏิบัติงาน ข้อจำกัด อุปสรรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และความจำเป็นที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันเป็นตำรวจเพื่อทำให้สังคมปลอดภัย

ไม่ใช่เพราะข้ออ้างที่ว่า กำลังพลไม่พอแต่หากไม่สามารถทำให้คนในสังคมคิดว่าแท้ที่จริงแล้วทุกคนคือตำรวจเช่นเดียวกันได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเช่นเดียวกับตำรวจอาชีพไม่มีความรู้ทางกฎหมาย หรือไม่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อเป็นตำรวจก็ตาม แต่ทุกคนก็มีหน้าที่ในการป้องกันและป้องปราบอาชญากรรมหรือการกระทำที่ผิดกฎหมายในชุมชนและสังคมของตนได้

วิธีคิดเช่นนี้ที่จะทำให้อาชญากรรมจำกัดวงอยู่ในขอบเขตที่สังคมควบคุมได้

เมื่อคิดเช่นนี้ หากชายที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องเข้ารับราชการทหารในขั้นตอนของการลงบัญชีทหารกองเกินด้วยนั้น จะสมัครใจที่จะมารับการฝึกฝนเพื่อเรียนรู้การทำงานในบทบาทหน้าที่ของผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจภายหลังการฝึกวินัยและคุณลักษณะพื้นฐานทางทหารที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่จะส่งผลเสียหายแต่ประการใด

การบริหารจัดการที่ดี ตั้งแต่การพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่จะมารับบทบาทหน้าที่ตำรวจเกณฑ์ การฝึกฝนพัฒนา การกำกับดูแล และการมอบหมายภารกิจที่เหมาะสมให้แก่ตำรวจเกณฑ์จะทำให้ชายไทยเหล่านี้กลายเป็นกำลังที่สำคัญของชุมชนของเขาในการสร้างความปลอดภัยในสังคมของพวกเขาได้

หากทบทวนกระแสคัดค้านเรื่องตำรวจเกณฑ์ จะทำให้เรามองเห็นรูปธรรมที่ชัดเจนของความไม่เข้าใจงานตำรวจ นั่นหมายความว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบรรดาตำรวจทั้งหลาย ยังต้องทำงานอย่างหนักในการสร้างความเข้าใจในประเด็นเรื่องนี้ต่อสังคมให้เป็นที่พอใจเสียก่อน

อย่าปล่อยให้ความเคยชินต่อการเข้าใจผิดของประชาชนดำรงอยู่ โดยหวังว่าสักวันชาวบ้านเขาจะเข้าใจได้เองเลย เพราะเมื่อความเข้าใจผิดฝังรากลึกลงแล้ว ความไม่ร่วมมือหรือการต่อต้านตำรวจเกณฑ์ก็จะเป็นผลสืบเนื่องตามมา และเมื่อนั้นตำรวจเกณฑ์ก็จะทำงานได้ยากขึ้น หรือไม่ได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น