วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บ้านของฉัน (๖ ตุลาคม ๒๕๕๘)

วันนี้ขอพาทุกท่านย้อนอดีตไปกับสภาพบ้านเรือน,วิถึชีวิต,ความเป็นอยู่ของคนบ้านเราเมื่อก่อนหน้าโน้นกันหน่อยโดยเสนอในรูปแบบ "วิชชุมมาลาฉันท์ ๘" ในตอนที่ชื่อว่า “บ้านของฉัน”

บ้านฉันบ้านนอก มีคอกงัวควาย 
มีนามีไร่ มีไถมีทุ่ง
พื้นฟากไม้ไผ่ ใช้ใบจากมุง 
ไรเหลือบริ้นยุง ต่างมุ่งบินตอม
หน้าฟ้าหน้าฝน ลมบนกระหน่ำ 
น้ำไหลหล่นพรำ เทซ้ำเป็นหย่อม
หลังคาก็รั่ว หูหัวแมมมอม 

ต้องเอาเสื่อล้อม กันฝนที่ไหล
ไฟฟ้าไม่มี อย่างดีตะเกียง 
สว่างพอเพียง ด้วยแสงแห่งไต้
แม้ลมกระโชก พัดโบกอย่างไร 
ก็หาทำให้ ไฟไต้ดับลง
ยามฝนผ่านไป ร่วมใจปัดกวาด 

ทำความสะอาด ให้บ้านโล่งโจ้ง
แต่จากลมพัด ไม่อาจจบลง 

เพาะปีนขึ้นตรง ไปซ่อมหลังคา


ท้องทุ่งหน้าบ้าน น้ำบานเจิ่งนอง 
ไหลบ่าลงร่อง ท่วมท้องข้าวกล้า
ปูปลาเต็มหนอง เต็มคลองเต็มนา 

พี่น้องพร้อมหน้า จับเอามากิน
กินไม่มีหมด ไม่ลดลงได้ 

ปูปลามากมาย มีไม่หมดสิ้น
ท้องทุ่งทุกแห่ง คือแหล่งทำกิน 

ไม่มีหนี้สิน พะรุงพะรัง


ยามเช้าเพาะออก ไปไถนาไร่ 
พร้อมกับเจ้าควาย ในท้องทุ่งกว้าง
แมะทำอาหาร ลูกหลานช่วยพลาง 

เสร็จแล้วก็นั่ง สำรับร่วมวง
เมื่อถึงเวลา คราไปโรงเรียน 

แมะก็พากเพียร แวะเวียนไปส่ง
จากนั้นมุ่งหน้า ไปทุ่งนาพง 

เอาข้าวไปลง ให้เพาะได้กิน
ปลดควายจากแอก เดินแบกคันไถ 
เหลือแค่อีกงาย ก็ครบจบสิ้น
พรุ่งนี้ไถใหม่ ควายจะได้กิน 

หญ้าอร่อยลิ้น ตามประสามัน
กินข้าวเสร็จแล้ว นั่งพักสักเดี๋ยว 

เอาหมากมาเคี้ยว สนุกสนาน
น้ำหม่งน้ำหมาก ก็ขากถุยมัน 

ลงในนานั่น สบายสบาย
ช่วงตอนลงแขก จ่ายแจกข้าวกล้า 

ที่ไปชักมา เมื่อครายามสาย


หลงขดหลังแข็ง เรี่ยวแรงอ่อนไป 
หยุดพักผ่อนกาย ที่ในขนำ
ปักดำข้าวกล้า เหนื่อยล้าทั้งวัน 

จวบเสียงวัดนั่น พระตีกลองค่ำ
เป็นเหมือนสัญญาณ เสร็จงานที่ทำ 

เดินลุยเดินย่ำ กลับบ้านเอาแรง
อาบน้ำอาบท่า หุงหาอาหาร 

เสร็จแล้วกินกัน หน้าพริ้มยิ้มแฉ่ง
กับข้าวมีน้อย ค่อยจัดค่อยแจง 

มาปันมาแบ่ง กันทั่วทุกคน
น้ำเพียงขันเดียว เที่ยวเวียนสำรับ 

เรามีเสร็จสรรพ เก็บจากหน้าฝน
อิ่มหนำสำราญ เบิกบานกมล อย่างมีสุขล้น บนบ้านของเรา
ช่วงจะหลับนอน พักผ่อนกายา ทุกคนพร้อมหน้า ตั้งตาคอยเฝ้า
ลูกนอนเป็นแนว แอบกันแถวยาว จากนั้นเพาะเล่า นิทานให้ฟัง
นอนไปฟังไป จิตใจเป็นสุข สนานสนุก ด้วยเรื่องต่างต่าง
ทุกค่ำทุกคืน แสนชื่นใจจัง จวบจนสว่าง ฟ้าสางอีกครา 

.............
เมื่อก่อนโน้นทางบ้านเราไม่มีตู้เย็นแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเราจะใช้น้ำในตุ่มนั่น แหละ เดี๋ยวนี้มีตู้เย็นแล้วบางคนก็กินน้ำที่แช่ แต่บางคนยังชอบแบบเก่าอยู่โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ แต่ที่แทบไม่มีเปลี่ยนแปลงเลยจนเดี๋ยวนี้ก็คือในสำรับนั้นเราใช้ “น้ำขันเดียวกัน” หมุนเวียนกันกิน ผมชอบแบบนี้มากเพราะมันคือวิถีชีวิตชนบทบ้านเรา
ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองที่เกี่ยวข้อง

"ชักกล้า" (ชั่กกล้า,ชากกล้า) = ถอนกล้า
"งาย" = ระยะเวลาในการไถนาครั้งหนึ่งๆ ซึ่งจะมากจะน้อยแล้วแต่การไถครั้งนั้น เช่น ช่วงเช้าถึงสาย,สายถึงเพล เป็นต้น

"นอนแอบกัน" = นอนเรียงติดๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น