วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข้าวเหนียวเหลืองหน้าปลาหน้านวดลาน (๔ ตุลาคม ๒๕๕๘)

ชีวิตตอนเป็นเด็กๆ น่ะมีแต่ความสุขสนุกสนาน วันๆ ส่วนใหญ่มีแต่กินๆ เรียนๆ เที่ยวๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จะมีบ้างก็แค่ช่วยพ่อช่วยแม่ช่วยคนโตทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ เท่าที่พอจะทำได้ เด็กๆ จึงมีแต่ความสุขรื่นเริงได้ตลอดทั้งปี

แต่ความสุขสนุกสนานที่เด็กๆ บ้านเราแถบชนบททุกคนรอคอยซึ่งมีเพียงปีละ ๑ ฤดูกาลเท่านั้นก็นี่ครับ “การนวดลาน” หรือนวดข้าวที่สมัยก่อนเขาจะใช้ควายย่ำโดยก่อนนวดคนโตจะถากและขูดพื้นนาที่จะใช้เป็นลานให้เรียบเสมอกันซึ่งส่วนใหญ่จะทำเป็นวงกลมเสร็จแล้วเอาขี้วัวขี้ควายที่มีอยู่เยอะแยะนั่นแหละผสมน้ำเอาไปยาลานให้เรียบเพื่อให้พื้นแน่นกันไม่ให้เม็ดข้าวหล่นลงในดิน เสร็จแล้วเอาต้นหมากขนาดพอเหมาะมาปักเป็น “เสาเกียด” กลางลานจากนั้นก็เอาข้าวที่เกี่ยวและมัดเป็นฟ่อนแล้วมา “ลอม” ไว้รอเวลานวดอีกที
การนวดลานสมัยก่อนก็อย่างที่บอกนั่นแหละคนบ้านเราส่วนใหญ่จะใช้ควายผูกมัดติดๆ กันหลายๆ ตัวเท่าความกว้างของฟ่อนข้าวในลานซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะให้ควายเดินย่ำไปเรื่อยๆ
ความสนุกของเด็กๆ ในการนวดลานส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ตรงนี้ครับถ้าบ้านไหนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเขามีการนวดลานเด็กๆ จะตัด “ไม้อีกิม” ซึ่งมีอยู่ทั่วไปแถวบ้านไว้ตีควายตัวที่ดื้อๆ ไม่ค่อยยอมย่ำหรือขี้เกียจเดินให้เดินหรือย่ำให้ได้ แต่ส่วนใหญ่ควายมันก็จะเดินจะย่ำของมันตามประสาอยู่แล้วเพียงแต่มีเด็กบางคนชอบตีมันบ่อยๆ อย่างสนุกสนานจนคนโตต้องคอยห้ามคอยปรามว่าอย่าทำยกเว้นตัวที่ดื้อถึงค่อยตี

เด็กๆ จะไล่ควายให้ย่ำลานไปอย่างสนุกสนานจนกว่าเม็ดข้าวจะหลุดออกมาทั้งหมดซึ่งบางทีใช้เวลาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงก็มีแต่ก็ไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยกลับสนุกสนานไปตามวัยจนตัวเปียกโชกด้วยเหงื่อไปตามๆ กัน
เมื่อย่ำลานเสร็จและคนโตปลดควายออกแล้วก็มาถึงช่วงความสุขที่เด็กๆ รอคอยอีกช่วงหนึ่งนั่นก็คือกิน “ข้าวเหนียวเหลือง” ซึ่งเจ้าภาพเขาเตรียมมาเลี้ยงแขกรวมถึงเด็กๆเพราะถือว่าเด็กๆ เนี่ยะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการนวดลานแต่ละครั้งครับ ข้าวเหนียวเหลืองนั้นวิธีการทำก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่เอาข้าวเหนียวไปมูน ใส่กะทินิดหน่อยพร้อมขมิ้นเพื่อให้สีออกเหลืองๆ บนข้าวเหนียวมีส่วนประกอบอย่างหนึ่งทำจากปลาที่ฉีกหรือบดละเอียดพร้อมเครื่องปรุงที่คลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่จะออกสีแดงๆ ตัดกับสีเหลืองของข้าวเหนียวซึ่งตักวางไว้บนใบตองสีเขียวอย่างลงตัววางอยู่ คนโตน่ะไม่ค่อยกินกันเท่าไรหรอกเพราะมักจะให้เด็กๆ กินมากกว่า เด็กบางคนนะกินซะพุงกางเลยแค่นั้นยังไม่พอยังห่อกลับบ้านอีกด้วยก็มี เรียกงานนี้นอกจากหายเหนื่อยจากการใช้ไม้อีกิมไล่ควายให้ย่ำลานแล้วยังอิ่มอร่อยแถมมีของติดเนื้อติดตัวกลับบ้านอีกด้วย
สมัยนี้บ้านเราไม่มีสภาพแบบที่ว่าแล้วเพราะการทำนา การนวดลานแบบก่อนหมดไปคงเหลือไว้แค่ความทรงจำประมาณคำว่า “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” เท่านั้น แหม่ น่าเสียดายเหลือเกิน
"ไม้อีกิม" ผมหาภาพมาประกอบไม่ได้ แต่เป็นไม้ล้มลุกต้นสูงราวเมตรกว่าเมื่อโตเต็มที่ เนื้อไม้เหนียว หักยาก คนสาวนใหญ่เขาจะเอามาทำไม้กวาดกันครับ
สมัยก่อนเขาเกี่ยวข้าวกันแบบนี้...
...แต่สมัยนี้เป็นแบบนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น