วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คืนนี้ที่แม่จริม (๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗)

คืนนี้เวลาราวๆ ๒ ทุ่มหลังจากทำธุระส่วนตัวต่างๆ เสร็จแล้วผมเดินจากบ้านพักไปที่โรงพักเหมือนเดิมครับ ถ้าถามว่ามาทำไมทุกคืน โรงพักแม่จริมมีงานอะไรมากมายที่จะต้องทำทั้งกลางวันกลางคืนเลยหรือ เปล่าครับ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แม่จริมเป็นโรงพักเล็กๆ อยู่กลางป่ากลางเขาที่แทบจะไม่มีงานอะไรเลยก็ว่าได้ อ้าว แล้วมาทำไม คำตอบก็คือก็ไม่รู้จะอยู่ที่บ้านทำไมเหมือนกัน ที่บ้านพักแม่จริมนี่ผมอยู่คนเดียว ไม่ได้นำครอบครัวมา สำคัญก็คือผมไม่เอาเครื่องอำนวยความสะดวกมาซักอย่างเพราะตั้งใจไว้อย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ แอร์ ตู้เย็น ไม่มีครับ ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนอย่างเดียว ถึงเวลาก็ไปนอน ตื่นเช้ามาทำธุระอะไรเสร็จแล้วก็มาโรงพักหรือไปข้างนอกหากมีงานแบบนั้น อยากดูทีวี ดูข่าว ดูละครก็อาศัยที่โรงพักนั่นแหละดู อยู่บ้านคนเดียวที่ไม่มีอะไร(เพราะตั้งใจจะไม่มี)แบบนี้ถ้ายังไม่ถึงเวลานอนใครจะนอนได้ ยิ่งอายุ(เริ่มจะ)แก่แบบนี้แล้วมันนอนไม่ได้หรอก ตายแน่ๆ ก็เลยมาที่โรงพักซะให้หมดเรื่องหมดราว มีงานอะไรที่จะต้องดูต้องเซ็นก็ดูก็เซ็นไป แต่ถ้าไม่มีล่ะ อ้ะ ไม่ยากครับเรามองทุกอย่างเป็นงานอยู่แล้วสบายมาก ทุกอย่างที่โรงพักนั่นแหละคืองานของเรา พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เขาเข้าเวรยามบ้าง ตรวจดูความสะอาดเรียบร้อยอาคารสถานที่บ้าง ที่สำคัญเราในฐานะหัวนายหรือหัวหน้าสถานี(แม้จะอยู่ในช่วงรักษาการก็เถอะ) ถ้าเรามาอยู่ด้วยแล้วน้องๆ เจ้าหน้าที่เขาจะมีขวัญกำลังใจขึ้นอีกเยอะพอสมควรก็ว่าได้ รวมถึงหากมีเหตุเภทภัยอะไรต่างๆ ขึ้นมาเราก็ยังช่วยเป็นกำลังเสริมได้อีกแรงหนึ่ง นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องมาโรงพักตอนกลางคืน

ไปถึงโรงพักคืนนี้มีพี่น้องมาใช้บริการคนหนึ่งครับซึ่งนานๆ ที่แม่จริมเรากลางคืนถึงจะมีแบบนี้ซักครั้งซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่เขากำลังอำนวยความสะดวกตามหน้าที่ของเขาให้อยู่ ผมก็เข้าไปทักทายพูดคุยตามประสาคนช่างพูด "น้องมีอะไรครับ,ติดขัดอะไรไหม มีอะไรขาดเหลือบอกนะ" ประมาณนี้ ของแบบนี้มันไม่ยากเลยสำหรับตำรวจเราที่จะทำ ขอเพียงให้รู้จักพูด พูดให้เป็น ใช้ถ้อยคำกิริยาวาจาที่เหมาะสมกับผู้มาติดต่อราชการไม่ว่าเขาจะมีในฐานะอะไร ผู้เสียหาย พยาน ผู้มาขอความช่วยเหลือหรือแม้แต่ผู้ต้องหาก็ตาม เขาก็คน เราก็คนเหมือนกันนั่นแหละที่ต้องการสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตแม้คำพูดดีๆ เพราะๆ สักนิดสักหน่อยก็ยังดี สิ่งนี้ผมนำไปปฏิบัติประจำจนติดเป็นนิสัยรวมถึงแนะนำ สั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอด้วย ตำรวจเราคนจะรักไม่รัก จะชอบไม่ชอบ จะเกลียดไม่เกลียดคำพูดนี่สำคัญมาก ก็ไม่เฉพาะแต่ตำรวจหรอกครับ ทุกคน ทุกอาชีพ ทุกวงการนั่นแหละ

สำหรับงานที่ผมจะต้องเซ็น ต้องสั่งการหรือต้องดูต้องแลจะว่าไม่มีเอาซะเลยก็ไม่ใช่ครับคืนนี้ ยังมีอยู่ในแฟ้มที่เจ้าหน้าที่เขาประมวลมาเสนอผมเพื่อส่งไปยังหน่วยงานอื่นๆ ในวันพรุ่งนี้่ ๒ เรื่อง เรื่องธรรมดา งานประจำหรือ Routine นั่นแหละ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เขาทำเสร็จแล้ว เราก็พร้อมแล้วจะรอทำไมก็ต้องดูต้องเซ็นต้องจัดการเสียให้เรียบร้อยเสียตอนนั้น ปล่อยค้างไว้ไม่ดีเพราะพรุ่งนี้อาจจะมีงานสำคัญเร่งด่วนอื่นๆ รออยู่ก็ได้
เจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรยามประจำโรงพักคืนนี้มีดังนี้
๑. ร.ต.ต.สัมฤทธิ์ พูลจำปา ปฏิบัติหน้าที่สิบเวร
๒. ด.ต.วรกิจ อัจฉริยจงกล ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ประจำวัน
๓. ด.ต.ประเสริฐ พิมพ์ศรี ปฏิบัติหน้าที่พนักงานวิทยุสื่อสาร

ในส่วนของห้องควบคุมผู้ต้องหาคืนนี้ไม่มีผู้ต้องหาครับ
งานโรงพัก ใช่ว่า เพียงแค่เซ็น
แม้ไม่มี งานเซ็น เป็นงานได้

มาอยู่เพื่อ เป็นขวัญ กำลังใจ
พูดทักทาย เจ้าหน้าที่ นี่ก็"งาน


<< ภาพทั้งหมด >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น