อึ้ง มึน งง
กับการกลายเป็นแกนนำหลักในการสนับสนุนบ่อนกาสิโนให้กลายเป็นของถูกกฎหมายของผู้นำตำรวจไทย
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่แสดงออกทั้งภาษาพูด
ภาษากาย และภาษาใจ(ดูจากแววตา)อย่างเชื่อมั่นในความรู้ที่เชี่ยวชาญศึกษาดูงานมาอย่างดีผ่านสื่อมวลชน
ตอกย้ำความมุ่งมั่น ตั้งใจอย่างชัดเจนด้วยการลงมือปฏิบัติสอดรับการสั่งการโดย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เรียกว่า คิด พูด ทำ
ไปในทิศทางเดียวกันอย่างรวดเร็วพร้อมเดินหน้าเต็มสูบ
น่าแปลกใจตรงที่ว่า “ประเด็นปฏิรูปตำรวจ” น่าจะเป็นประเด็นที่ผู้นำตำรวจเสียงดังมากกว่า
แต่กลับกลายเป็นว่าประเด็นทำบ่อนให้ถูกกฎหมายกลายเป็นเรื่องราวที่ผู้นำสูงสุดของตำรวจออกมาส่งเสียงเอง
แถมซ้ำเสียงดังฟังชัดไม่อ้อมๆ แอ้มๆ เหมือนกับกระทรวงมหาดไทย?
ทั้งๆ ที่ตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครอง
รวมถึงท้องถิ่น ต่างมีประสบการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับ “บ่อนในพื้นที่” ไม่แตกต่างกัน
บ่อนมีความหมายกับตำรวจหลายความหมาย แตกต่างกันไปตามกาลเทศะ
และสถานะของนายตำรวจผู้ให้ความหมาย ยกตัวอย่างเช่น บ่อน หมายถึง
สิ่งผิดกฎหมายต้องปราบปราม
สภาพแวดล้อมเสี่ยงต่อการสนับสนุนการก่อเกิดอาชญากรรมในพื้นที่ หรือหมายถึงผู้สนับสนุนกิจการตำรวจเพื่อให้มีทรัพยากรในการทำงาน และบริหารจัดการ? (ภายใต้บริบทการสั่งงานแต่ไม่มีเงินให้ของบรรดานายๆ
หน่วยเหนือทั้งหลาย) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม
ตำรวจมีศักยภาพสูงในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนันที่ดำรงอยู่ในพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นบ่อนเล็กหรือบ่อนใหญ่
จะมีหลุดรอดสายตาบ้างในกรณีที่ผู้เล่นการพนันรวมกลุ่มกันแอบเล่นเล็กๆ น้อยๆ
ชั่วครั้งชั่วคราว การที่ตั้งข้อสมมุติฐานเช่นนี้ เพราะ
“มันมีจริงมั้ยล่ะ เวลาที่ทหาร
หรือฝ่ายปกครองเขาไปจับได้ มีพยานหลักฐานจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงก็ต้องยอมรับ”
นายตำรวจใหญ่พูดกับลูกน้องให้ยอมรับผลการสั่งย้ายเนื่องจากทหารหรือฝ่ายปกครองจับบ่อนหรือการเล่นการพนันได้ในพื้นที่
ไม่รับฟังเหตุผล ไม่รับฟังคำอุทธรณ์
หรือข้อสังเกตใดๆ คำสั่งที่ถูกกำชับคือ
ตำรวจต้องควบคุมไม่ให้มีการเล่นการพนันในพื้นที่ให้ได้ ไม่รับฟังคำโต้แย้งใดๆ
ถึงแม้ว่าจะมีเสียงทัดทานจำนวนไม่น้อยที่แสดงความเห็นว่า
หน่วยงานอื่นก็มีบทบาทหน้าที่ร่วมกันกับตำรวจ
ดังนั้นหากพบการกระทำผิดก็สมควรลงโทษข้าราชการในหน่วยงานอื่นเช่นเดียวกัน
เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาด้านความไม่เป็นธรรมในการบริหารจัดการได้
การเล่นการพนันของประชาชนในพื้นที่ทุกรูปแบบต้องหมดไป
หากทำไม่ได้ หน่วยเหนือจะส่งคนอื่นมาทำแทน!!
"เด้งฟ้าผ่า ๔ เสือ
สภ.ศรีราชา เซ่นบ่อนไฮโล ของกลางเงิน ๒๐ บาท”
“เด้ง ๕ เสือเมืองชลบุรี เซ่นพนันกำถั่ว”
“สั่งเด้ง ๕ เสือ สน.บางนา เข้ากรุ เซ่นจับบ่อน ส.ก.อ้วน”
ด้วยเหตุนี้
เมื่อผู้นำสูงสุดของตำรวจแสดงจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนการทำบ่อนกาสิโนให้ถูกกฎหมายจึงกลายเป็นประเด็นชวนคิดว่ามีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังที่มาของวิธีคิดและการกระทำของนายตำรวจใหญ่
เพราะไม่มีใครเชื่อ หากจะบอกว่า เมื่อมีบ่อนถูกกฎหมายแล้วบ่อนผิดกฎหมายหรือการเล่นการพนันนอกบ่อนจะหมดสิ้นๆ
พอถึงช่วงแต่งตั้งโยกย้ายเปลี่ยนแปลงหัวหน้าสถานีตำรวจ
สถานการณ์การเคลื่อนไหวของบ่อนการพนัน สถานบันเทิงในรูปแบบต่างๆ
จะสงบนิ่งไม่กระตือรือร้นตื่นตัว ประหนึ่งว่า “รอดูท่าที” ในช่วงเปลี่ยนแผ่นดิน
ตีเมืองขึ้น คือ ยุทธวิธีพื้นฐานที่หัวหน้าสถานีล้วนรู้จักดี
เริ่มต้นจากการประกาศกฎเหล็กคุมเข้มบ่อนการพนันสถานบันเทิงทันทีที่รับตำแหน่ง
พร้อมจัดตั้งชุดเฉพาะกิจทำหน้าที่ในการควบคุมอย่างเข้มแข็ง
และเป็นการสื่อสารให้รู้โดยทั่วกันว่า “ขณะนี้เปลี่ยนเจ้าเมืองแล้ว”
“ทีนี้หัวเมืองต่างๆ
ก็จะมารายงานตัวกัน ขอเจรจา มาเดี่ยวบ้าง รวมกลุ่มกันมาบ้าง ขอร้อง ขอผ่อนผัน
ประนีประนอมต่างๆ อ้างเหตุผลนานัปการ พร้อมยื่นข้อเสนอ...” นายตำรวจเล่าด้วยลีลาเปรียบเทียบเชิงอุปมาอุปไมยราวกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์
เมื่อได้ดูตัว เห็นหน้าค่าตากันเรียบร้อย
พร้อมมีข้อตกลงที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก
ไม่ออกนอกลู่นอกทางก็ดำเนินการขึ้นบัญชีอยู่ในการควบคุมบริหารจัดการต่อไป
คงเหลือแต่พวกชาวบ้านที่ลักเล่น แอบเล่น เล็กๆ
น้อยๆ เข้าข่ายภาวะนักการพนันชายขอบที่ต้องวิ่งหนีตำรวจเหมือนที่ปรากฏให้เห็นในรายการขำขันที่ถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์
“จ่ายระดับสถานีตำรวจไม่พอนะ
ต้องจ่ายระดับสูงขึ้น เป็นขั้นๆ ไป รวมถึงส่วนกลางด้วย และที่ไม่ใช่ตำรวจอีกล่ะ
ค่าใช้จ่ายสูงมากเราก็ต้องพยายามทุกวิถีทางให้เราอยู่ได้ด้วย” เจ้าของบ่อนรายใหญ่เล่าถึงรายรับรายจ่ายและวิธีการจ่าย
รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหากไม่สามารถบริหารจัดการการจ่ายค่า....??????
ปรากฏการณ์เช่นนี้สะท้อนภาพอะไรในสังคมไทย? เราจะทำอย่างไรกับประเด็นปัญหาการพนัน
หรืออาจเรียกว่า อบายมุข ที่ใครๆ ล้วนต่างยอมรับว่า
หากใครเข้าไปติดบ่วงกับดักการพนันแล้วนั้น ชีวิตมีแต่โอกาสพบความหายนะ? จริงหรือที่ว่าบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ?
และคำถามอื่นๆ
อีกมากมายที่จำเป็นต้องมีข้อมูลมากพอในการตอบหรือตัดสินใจ
แต่ที่แน่ๆ คือ การตอบคำถามว่า
ประเด็นบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายนี้
ใช่ภารกิจสำคัญลำดับแรกของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในยามที่องค์กรตำรวจถูกโหมกระหน่ำด้วยความเข้าใจที่ผิดพลาดมากมายในยามนี้
ใช่หรือไม่?
ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20150624/208560.html
ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20150624/208560.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น