วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

สวัสดีวันหยุด / ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ออกไปสืบสวนผู้ร้ายด้วยตนเอง (๒๑ เมษายน ๒๕๖๒)

วันนี้วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๒ วันหยุดพักผ่อนของพี่น้องส่วนใหญ่ซึ่งก็รวมทั้งผมด้วย หลายคนหลายท่านอาจจะเดินทางไปนั่นมานี่ ไปท่องไปเที่ยว ไปพักผ่อนหย่อนใจตตามที่ต่างๆ บางท่านก็อาจจะอยู่กับบ้านแล้วถือโอกาสจัดนั่นนู่นนี่ในบ้านให้ดูสะอาดสะอ้าน น่าอยู่ น่าชม น่ามองและหนึ่งในนั้นก็คือผมคนนี้ด้วยคน วันนี้ถือโอกาสปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดบ้านช่องห้องหอซะเอี่ยมอ่องอย่างกะมืออะไรกันเลยทีเดียว ดีเหมือนกันครับ หยุดทั้งทีต้องให้ได้ประโยชน์ ทำแล้วโล้งโล่ง สบายตา สบายใจ มองไปทางไหนก็สดสวยด้วยมือเรา ว้าววว คนอะไรเก๊งเก่ง ว่ามะ ฮ่ะๆๆๆ
วันหยุดนี้ผมขอนำเรื่องราวที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งมาบันทึกไว้ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจอยู่บ้างนั่นตามหัวเรื่องที่ผมจั่วไว้นั่นแหละ เรื่องราวเป็นยังไงติดตามได้เลยครับ

เมื่อสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ประเทศไทยของเรามีการปฏิรูปการปกครองท้องที่หรือบ้านเมืองไปจากสมัยก่อนหน้านั้นอยู่หลายประการด้วยกัน อย่างเช่นการจัดตั้งกระทรวง ทบวง กรม เทศาภิบาล เจ้าเมือง กรมการอะไรประมาณนี้ ต่อมาหลายอย่างถูกยกเลิกไปตามสภาพของยุคสมัย แต่หลายอย่างก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันอย่างเช่น กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เป็นต้น
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเทศาภิบาล เจ้าเมืองกรมการสมัยนั้นก็คือมีพระราชประสงค์ที่จะทรงปกครองป้องกันเหตุร้าย รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้อยู่เย็นเป็นปกติสุข ปราศจากโจรผู้ร้ายหรือสิ่งที่จะทำให้อาณาประชาราษฎรของพระองค์มีความทุกข์ร้อนโดยการให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเอาใจใส่ดูแลและทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถซึ่งนั่นก็คือที่มาของข้อเขียนในวันนี้ "ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ออกไปสืบสวนผู้ร้ายด้วยตนเอง" ที่จะนำมาเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกัน

ท่านที่รักครับ เรื่องนี้เป็นประกาศกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๕ สมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ลงนามโดยมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๓๙ หน้า ๑๑๕-๑๑๘ มีสาระสำคัญดังนี้
ด้วยในเวลานี้เกิดโจรผู้ร้ายชุมชุมขึ้นในท้องที่หลายมณฑล ซึ่งสาเหตุจะเป็นด้วยสิ่งใดบ้างก็ตาม แต่เมื่อได้ระลึกถึงหน้าที่ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีเทศาภิบาล เจ้าเมือง กรมการขึ้นมาก็ด้วยพระราชประสงค์ที่จะทรงปกครองป้องกันเหตุร้าย รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้อยู่เย็นเป็นปกติสุข ถ้าหากเจ้าหน้าที่ทั้งหลายซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ปกครองจะไม่พร้อมใจกันเข้าบุกบั่นปราบปรามโจรผู้ร้ายเสียให้สงบให้ราษฎรอุ่นใจแล้วค้นหาสาเหตุและที่มาแห่งเหตุซึ่งมีอยู่หลายอย่างรวมกันขึ้นพิจารณาแก้ไขเสียโดยเต็มกำลังเสียแต่บัดนี้ก็เท่ากับไม่ได้ปกครองหรือสิ้นความสามารถของผู้ปกครองในท้องที่นั้นๆ แล้ว และหากเป็นเช่นนั้นก็จะต้องให้คนอื่นเข้ามาจัดการแทนต่อไป จึงจะได้ชื่อว่าตั้งใจทำราชการสนองพระเดชพระคุณอย่างเต็มกำลังความสามารถในหน้าที่ของตน

เพื่อให้กวดขันการปกครองอันเป็นส่วนสำคัญเหล่านี้ จึงได้วางระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

๑. เมื่อเกิดคดีอุกฉกรรจ์ ปล้น ชิงทรัพย์ ฆ่ากันตายขึ้นในจังหวัดใดเมื่อใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดนั้นๆ ต้องออกไปหรือแยกกันไปสืบและไต่สวนในที่เกิดเหตุด้วยตนเองในทันที ถ้าไปไม่ได้ด้วยเหตุใด ให้รายงานชี้แจงส่งตามลำดับจนถึงกระทรวง
๒. ถ้าในคดีเรื่องใดยังไม่ได้ตัวหรือยังไม่ได้หลักฐานหรือของกลาง ก็ให้ผลัดเปลี่ยนกันอยู่ทำการสืบสวนโดยเต็มกำลังและความสามารถ
๓. ถ้าผู้ร้ายหลบหนีไปที่ใด จังหวัดใดในมณฑลใดภายในพระราชอาณาจักรก็ให้แยกย้ายกันติดตามไปโดยแข็งแรงให้ถึงที่สุดเต็มความสามารถ เพื่อได้ตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกติดตามไปด้วยตนเอง
๔. ถ้าเรื่องใดสิ้นความสามารถแน่แล้วก็ให้รายงานชี้แจงการที่ได้กระทำไปแล้วมาให้ทราบ
๕. ในเรื่องอั้งยี่สมาคมมั่วสุมประชุมกันที่ผิดกฎหมายอันเป็นเหตุร้าย ให้ทำการสืบสวนหาหลักฐานและจัดการโดยแข็งแรงเพื่อทำลายและฟ้องร้องหรือจัดการเนรเทศเสียให้จงได้
๖. ถ้าท้องที่ใดจังหวัดใดเกิดโจรผู้ร้ายชุกชุม ให้สมุหเทศาภิบาล ปลัดมณฑล ผู้บังคับตำรวจมณฑลแยกกันออกไปประจำจัดการอยู่ในท้องที่อำเภอนั้นๆ จนกว่าจะสงบเรียบร้อยแล้วจึงให้กลับ
๗. ให้เจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ทุกชั้นจงเป็นที่เข้าใจให้แน่ชัดว่า การจับผู้ร้ายนั้นจะไม่ถือเป็นความชอบ เป็นแต่นับว่าผู้นั้นได้กระทำการครบถ้วนแก่หน้าที่เท่านั้น แต่จะถือเป็นความชอบต่อเมื่อได้ปกครองป้องกันเหตุร้ายให้ชีวิตและทรัพย์สมบัติของข้าแผ่นดินในท้องที่นั้นอยู่เย็นเป็นปกติสุขพอสมควร เพราะไม่มีเหตุการณ์หรือมีแต่น้อยเป็นการจรแปลกมา แลจะถือเป็นความผิด ความบกพร่องเมื่อการปกครองยุ่งยิ่งไม่เรียบร้อยเพราะปราบปรามโจรผู้ร้ายไม่ราบคาบก็ตาม หรือเพราะแตกความสามัคคีในฝ่ายเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ไม่กลมเกลียวกันด้วยการแย่งยื้อถืออำนาจไม่เป็นผู้ใหญ่ผู้น้อยอันเป็นต้นเหตุให้เกิดเสียหายแก่ราชการก็ตาม ให้ผู้บังคับบัญชาทุกชั้นจงถือเป็นข้อสำคัญที่จะระมัดระวังและจัดการตามอำนาจในทันที

แลด้วยเหตุนี้ให้ผู้บังคับบัญชาทุกชั้นงดการขอบำเหน็จความชอบในเรื่องเจ้าพนักงานจับผู้ร้ายได้ตั้งแต่บัดนี้ไป นอกจากจะขอให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและราษฎรที่ช่วยเจ้าพนักงานหรือขอบำเหน็จบำนาญเป็นเงินซึ่งได้มีระเบียบอยู่แล้วหรือที่จะมีต่อไป เป็นแต่ให้รายงานการกระทำว่ามีผลเพียงไรเท่านั้น 
แลให้เสนอความชอบความดีเฉพาะผู้ที่ได้ทำการปราบปรามแล้วและสามารถจัดการรักษาการปกครองท้องที่เรียบร้อยเป็นปกติดี เป็นที่นิยมชมชื่นของประชาชนผู้อยู่ในความคุ้มครอง
ทั้งนี้ ให้ถือเป็นระเบียบโดยเคร่งครัด

กระทรวงมหาดไทย

วันที่ ๒๖ สิงหาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๕
มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยายมราช
เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
ประทับตราพระราชสีห์น้อยมาเป็นสำคัญ

ครับ นั่นก็คือประกาศกระทรวงมหาดไทยสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เมื่อเกือบๆ ร้อยปีมาแล้วที่เน้นและกำชับให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องออกสืบสวนติดตามคนร้ายในกรณีเกิดเหตุฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อประชาชนทั่วไปด้วยตนเองอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อประชาชนจะได้เกิดความอุ่นใจหรือมั่นใจต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้สมกับพระราชประสงค์ขององค์พระมหากษัตริย์ที่จะทรงปกครองป้องกันเหตุร้าย รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้อยู่เย็นเป็นปกติสุข

ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรานั้นได้ยึดถือและดำเนินการตามระเบียบนี้มาโดยตลอดและต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพี่น้องหลายท่านคงจะเคยได้ยินได้ฟังอยู่บ่อยครั้งในกรณีเกิดเหตุร้ายหรือเหตุฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เช่น ฆ่าคนตาย,ปล้นทรัพย์,ชิงทรัพย์ ฯ ที่นอกจากตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุจะต้องออกสืบสวนติดตามหรือดำเนินการอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้วผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผู้บังคับการหรือสูงกว่าจะออกตรวจหรือติดตามเรื่องนั้นด้วยตนเองแทบจะทุกครั้ง การปฏิบัติหรือการดำเนินการของผู้บังคับบัญชาระดับสูงนั้นนอกจากจะเป็นไปตามระเบียบหรือคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำหนดมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วท่านยังจะได้นำประสบการณ์ ความรู้ความสามารถที่สั่งสมมาแนะนำชี้แจงแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ รวมไปถึงเป็นการระดมกำลังสมองของหลายๆ คนเข้าจัดการแก้ไขในเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามารถรู้ตัวและจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งหากตำรวจเราสามารถจัดการได้เร็วเพียงใดประชาชนก็จะมีความอุ่นใจมากขึ้นเพียงนั้น 
.........
สวัสดีวันหยุดครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น