วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

วันนี้ที่ภูกามยาว / รอง ผบก.ภ.จว.พะเยาตรวจเยี่ยม (๒๔ เมษายน ๒๕๖๒)

วันนี้วันพุธที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒ วันทำงานของพี่น้องส่วนใหญ่ซึ่งดูสภาพจากข่าวคราวทางสื่อสารมวลชนแล้วสภาพภูมิอากาศโดยรวมทั่วไปของไทยเราเริ่มดีขึ้น ท้องฟ้าแจ่มใสกว่าแต่ก่อนรวมถึงความร้อนอบอ้าวก็ค่อยๆ ลดลงๆ ตามลำดับอย่างที่ภูกามยาวของเราก็เช่นกันเช้านี้อากาศดี๊ดี ก็ขอให้พี่น้องทุกคนมีความสุข สนุกสนานกับงานที่ทำโดยทั่วกันทุกผู้ทุกคนนะครับ
วันนี้ผมเดินทางไปถึงที่ทำงานแต่เช้าตามเวลาราชการเช่นปกติเหมือนทุกวันที่ผ่านมา เมื่อไปถึงหลังจากทักทายพูดจากับตำรวจที่เขาอยู่ที่โรงพักตามธรรมเนียมแล้วก่อนจะนั่งทำงานก็ต้องทำหน้าที่ตาม รปจ.หรือระเบียบปฏิบัติประจำที่ผมทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนเป็นนิสัยก่อนนั่นก็คือการทำความสะอาดห้องทำงานทั้งนอกและในด้วยตัวเองไม่ต้องอาศัยไหว้วานใคร ห้องเราเราทำของเราเองมิพักต้องเกรงใจใคร ทำแล้วได้อย่างใจด้วยแหละ

จากนั้นก็เข้าไปทำงานในห้องทำงานที่สะอ๊าดสะอาด น่าน้อนน่านอน น่ายู้น่าอยู่ด้วยจิตใจที่สดชื่น มีเรี่ยวแรงพลังวังชาเต็มเปี่ยม งานในวันนี้สำหรับเรื่องเอกสารมีไม่ค่อยเท่าไรหรอก ๓-๔ ชิ้นก็เรียบร้อย สบายๆ สำหรับเวลาว่างๆ ที่ไม่มีอะไรให้ต้องเซ็นต้องลงนามก็ค้นคว้าหาข้อมูลในโลกไซเบอร์ซึ่งมีเยอะแยะมากมายผ่านคอมในห้องนั่นแหละ ยุคนี้สมัยนี้ความรู้หรือสิ่งที่เราต้องการรู้สามารถหาได้จากจอสี่เหลี่ยมหน้าเรานี่เองไม่ว่าจะทางคอมหรือมือถือขอเพียงให้ต่อเน็ตได้เป็นพอซึ่งแล้วแต่ว่าใครจะไขว่คว้าหามันมาใส่ตัว

เวลา น. พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พะเยาเดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.ภูกามยาวเราซึ่งผมพร้อมนายตำรวจและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานเรื่องราวต่างๆ โดย รอง ผบก.ฯ ได้บันทึกการตรวจเยี่ยมไว้ไว้ปรากฏตามภาพด้านล่าง
<< ภาพในส่วนนี้ >>
หลังจาก รอง ผบก.ฯ เดินทางกลับแล้วผมออกไปตรวจติดตามและสั่งงานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเกี่ยวกับภารกิจประจำวันที่ห้องสืบว่าวันนี้มีอะไรจะต้องทำมั่งประมาณนี้นี่แหละ พร้อมทั้งเหลือบดูสถิติผลการปฏิบัติของชุดสืบสวนเราประจำเดือนนี้ที่เขาเขียนติดบอร์ดไว้เห็นแล้วก็สบายใจเนื่องจากเราทำได้ครบถ้วนตามเป้าหมายที่หน่วยเหนือกำหนด ไม่มีอะไรคั่งค้าง อย่างนี้ต้องยกเครดิตและความดีความชอบให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเขา ไอ้เรามันแค่คนควบคุมกำกับดูแลไม่ว่าจะสั่งๆๆๆๆ ยังไงก็ตามแต่หากเจ้าหน้าที่เขาไม่ทำหรือทำไปเรื่อยเปื่อยแบบขอไปเป็นวันๆๆๆ จ้างให้งานก็ไม่มีทางสำเร็จ ทุกอย่างนอกจากสั่งๆๆๆ แล้วจะต้องเอาใจใส่ดูแลเขาด้วย การดูแลไม่จำเป็นต้องพาไปเลี้ยงเหล้า แบบนั้นมันหมดสมัยแล้ว การดูแลก็แค่เอาใจใส่เขา ถามไถ่เรื่องราว ปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องในการปฏิบัติเขาแล้วก็จัดการแก้ไขให้เขาแค่นี้ก็จบ ไม่มีอะไรยาก เมื่อเขาได้ใจจากเราเขาก็จะทำงานกันอย่างเต็มที่จนประสบความสำเร็จแบบที่เห็นนี่ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทุกคนด้วยนะ ยุคนี้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าทำตามหน้าที่ ทำให้ครบถ้วน ทำตามเป้าหมายที่เขาสั่งการมาก็พอ อ้อ ลืมไป ยังมีแถมอีกข้อหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ ถ้าขาดล่ะก็ "หัวขาด" ตัวใครตัวมันก็แล้วกันนั่นก็คือ "ตัดผมให้สั้นเกรียนตามระเบียบทุกอาทิตย์" พลาดเรื่องอื่นพอช่วยกันได้แต่พลาดเรื่องทรงผมนี่ไม่รู้จะช่วยกันยังไงต่อให้เป็นเทวดาก็เหอะ อ้ะอ๊า

ช่วงพักเที่ยงวันนี้ออกไปกินอาหารที่ร้านเมียตำรวจหน้าโรงพักนี่แหละ มื้อนี้เป็นราดหน้าทะเล กินแล้วก็แปะหรือเชื่อไว้รอจ่ายเดือนหน้าหลังจากอิ่มหนำสำราญก็เดินกลับโรงพักท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างสดชื่นแม้ว่าจะร้อนสักหน่อยก็ตาม

เมื่อกลับถึงโรงพักเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาขจัดคราบเหงื่อไคลที่ไหลย้อยลงบนใบหน้าเสร็จแล้วก็เข้าห้องทำงานต่อครับซึ่งงานตอนนี้ไม่มีอะไรที่ให้ทำเป็นชิ้นเป็นอันแล้วเพราะงานในรอบเดือนของชุดสืบสวนที่ผมรับผิดชอบของเราครบจบบริบูรณ์ปิดหีบปิดงบไปแล้วก็เลยนั่งคิดนั่นคิดนี่ วางผงวางแผนที่จะทำในเดือนต่อไปว่าน่าจะมีอะไรบ้างนอกเหนือจากงานที่หน่วยเหนือจะสั่งการมาอีกส่วนหนึ่ง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของเราประจำโรงพักเขาก็ทำงานของเขาตามหน้าที่โดยมีพี่น้องประชาชนมาพบและใช้บริการอยู่บ้าง ๓-๔ ราย

ช่วงพักเบรกเดินออกไปที่แฟลตหลังใหม่หลังโรงพักซึ่งตอนนี้มีตำรวจเราและครอบครัวที่ขอเข้าพักทยอยขนข้าวของมาอยู่กันบ้างแล้วโดยผมเองก็ขอเข้าพักกับเขาด้วยคนหนึ่งเพราะอาจจะมีบางช่วงบางตอนหรือบางวันที่จะต้องมานอนโรงพักเหมือนกับตำรวจคนอื่นๆ เขาเช่นกัน แฟลตนี้มี ๓๐ ห้องพักๆ ละ ๑ ครอบครัวเท่ากับว่าเข้าพักได้ ๓๐ ครอบครัวเพียงพอสำหรับพวกเราตำรวจภูกามยาวเพราะนอกจากแฟลตที่ว่านี้แล้วเรายังเรือนแถวอีก ๓ เรือนแถวๆ ละ ๑๐ ห้องรวมเป็น ๓๐ ห้องและตำรวจของเรามีไม่ถึง ๗๐ คน

ระหว่างที่ไปดูนั้นมีครอบครัวตำรวจครอบครัวหนึ่งที่ตำรวจคนนั้นพักเวรพร้อมภรรยาและลูกสาวตัวเล็กๆ ๒ คนขนข้าวของเครื่องใช้ส่วนหนึ่งเข้าห้องพักก็ทักทายพูดคุยเขาตามปกติ มีอยู่ช่วงหนึ่งผมถามลูกสาวตำรวจคนเล็กอายุน่าจะสัก ๕-๖ ขวบว่าท่อแดงๆ ที่ติดอยู่หน้ากันสาดตั้งแต่ชั้น ๕ ลงมาถึงชั้นล่าง (ลูกศรชี้) น่ะคืออะไร ลูกสาวตำรวจตอบผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับท่าทางมั่นใจเต็มร้อยว่า "อ๋อ เป็นบันไดหนีไฟเจ๊าลุง" ว้าววว บันไดหนีไฟ บันไดหนีไฟจริงๆ ด้วย แหม ลุงรึก็หลงคิดว่าเป็นท่อน้ำไหลซะอีก เฮ้อ สู้ละอ่อนก็ไม่ได้ เหอๆๆๆ บันไดหนีไฟ เย้
เสร็จจากพักเบรกและได้ความรู้เรื่องใหม่เกี่ยวกับ "บันไดหนีไฟ" จากลูกตำรวจแล้วก็กลับเข้ามานั่งทำงานในห้องต่อ ช่วงนี้มีงานจากชุดสืบสวนเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราต้องดำเนินการซึ่งผมได้สั่งการเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไปแล้วพร้อมให้รายงานผลการดำเนินการให้ทราบทุกระยะ

กิจกรรมอื่นที่น่าสนใจ
เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. พ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผกก.สภ.ภูกามยาวพร้อมชุด ชมส.ร่วมออกหน่วยโครงการอำเภอยิ้ม...เคลื่อนที่ ณ อาคารอเนกประสงค์หมู่ ๑๓ ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาวโดยนายจีรศักดิ์ แสงหอย นายอำเภอภูกามยาวเป็นประธาน << ภาพในส่วนนี้ >>

และก็เช่นเคยสำหรับภาพกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดในวันนี้ทั้งที่นำมาประกอบในบล็อกและไม่ได้นำมาผมได้รวบรวมไว้ในอัลบั้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านใดที่สนใจสามารถคลิกดูได้ที่ลิงก์ด้านล่างครับ

<< ภาพทั้งหมดในวันนี้ >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น