สวัสดีวันจันทร์ (๖ ตุลาคม ๒๕๕๗)

วันนี้วันจันทร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีจอซึ่งอีก ๒ วันก็จะออกพรรษาตามประเพณีชาวพุทธของเราแล้ว แป๊บเดียวเท่านั้นเองจริงๆ ครับ ๓ เดือนนี่ แต่ก็ไม่แค่เฉพาะ ๓ เดือนหรอกผมว่า ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีล้วนหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเสียจริงๆ บางครั้งนี้คนเราตามมันแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว

วันนี้ผมทำงานที่โรงพักแม่จริมครับ โดยช่วงเช้าทำงานเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งมีอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ ไม่มากมายอะไรตามแบบฉบับของโรงพักเล็กๆ แบบแม่จริมเรา ทำงานเอกสารเสร็จแล้วก็เดินไปนั่นมานี่ ตรวจตราดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโรงพักให้พร้อมรองรับหรือให้การบริการพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริงรวมถึงพูดคุยทักทายตำรวจที่เขาอยู่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยซึ่งวันนี้ค่อนข้างคึกคักเพราะเป็นวันทำงานตามปกติ

และเมื่อถึงเวลาเที่ยงวันเศษๆ ก็อย่างที่เห็นด้านล่างนี่แหละ ทำตามป้ายประกาศ ทำตามนโยบายของเขาซะหน่อยเพื่อสุขภาพของเรา (อ้ะ จริงๆ แล้วภาพนี้ผมเอามาแต่งเฉยๆ ครับ ภาพต้นฉบับเป็นเรื่องการงดเหล้าตลอดพรรษาต่างหากซึ่งผลปรากฏว่าพวกเราตำรวจแม่จริมทำกันตามนโยบายนี้ได้เป็นอย่างดี สุดยอดมากๆ

ขออนุญาต ทำตาม นโยบาย  ที่ติดไว้ ในป้าย ประกาศจ้า
ตอนนี้นั้น มันถึง ซึ่งเวลา        ดังที่บอก แล้วนะจ๊ะ จะช้าไย

ป้ะ พี่น้องที่รักไปทานอาหารกลางวันกับผมกันเถอะ ผมเลี้ยง

ช่วงบ่ายๆ ผมใช้เวลาที่ว่างจากงานที่โรงพักออกตรวจตราและพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้ๆ โรงพักด้วยรถหรูเริดอย่างที่เห็นนี่แหละ

แบบที่เห็น นี้ไม่ต้อง เปลืองน้ำมัน           ห้อตะบึง บึ่งมัน ไปทุกที่
ขับออกตรวจ แวะทัก ประชาชี                สะดวกดี ร่างกาย ก็แข็งแรง

สะดวก ประหยัด แล้วก็ได้มิตรภาพด้วยครับ เนี่ยะ เจอพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ไหนก็ทักทายไปเรื่อยตามประสาคนพวกมากน่ะครับ

สำหรับการออกพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนที่ตลาดแม่จริมตามนโยบายปรับทุกข์ผูกมิตรของ สภ.สถานที่ที่ผมออกไปพบปะมีอยู่ ๒ แห่งครับคือที่ตลาดแม่จริมซึ่งเป็นตลาดเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ โรงพักที่พอจะมีพ่อค้าแม่ขายและพี่น้องประช่าชนมาจับจ่ายใช้สอยหาซืั้อของกันอยู่บ้างประปรายตามสภาพของเมืองเล็กๆ เช่นแม่จริมของเรา อีกสถานที่หนึ่งก็คือรอบๆ ตลาดนั่นแหละซึ่งพี่น้องส่วนหนึ่งรอรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้านจึงใช้เวลาช่วงนี้พูดคุยสารทุกข์สุกดิบ สัพเพเหระต่างๆ กับพี่น้องเหล่านั้น

นอกจากพบปะพูดคุยกันฉันท์มิตรหรือญาติสนิทแล้วยังได้ใช้โอกาสนี้ให้คำแนะนำความรู้เบื้องต้นที่น่าจะเกิดประโยชน์แก่พี่น้องอีกส่วนหนึ่งด้วยดังนี้
๑. การสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณของคนร้าย
๒. คำแนะนำในการไปติดต่อราชการที่สถานีตำรวจ
๓. การแจ้งความในกรณีต่างๆ พร้อมหลักฐานที่น้องควรจะนำไปประกอบ
๔. การแจ้งข้อมูลเบาะแสของคนร้ายหรืิอเหตุต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่รับทราบ
เป็นต้น