วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

จีบสาวด้วยบทกลอน (๒๗ กันยายน ๒๕๕๘)

โอ้หน้าหนาว ช่างหนาวเหน็บ เจ็บกระดูก,นึกถึงรัก ที่พันผูก อยู่กับสาว
เมื่อไรหนอ จะได้คลอ เคียงคู่เรา,เพื่อให้หนาว นั้นคลาย มลายลง

.........
จำได้ว่าสมัยอยู่บ้านก๊ะเพาะก๊ะแมะที่พังราดไทย อ.แกลง จ.ร่ะยองเคยแต่งกลอนบทนี้ให้เพาะเหียนอ่าน เพาะอ่านแล่วยิ้มก้ะปุ้มก้ะป้ำพลางตบเข่าเผิ่งแล่วพูดว่า "อ้ะ เอาได้ๆ" ๕๕๕

ผมเริ่มแต่งกลอนเป็นพร้อมๆ กับอ่านหนังสือเป็นนั่นแหละครับ มีความรักความชอบมาตั้งแต่เด็กๆ อาจจะเป็นเพราะคนแถวบ้านผมส่วนใหญ่เป็นนักกลอนกันก็ได้ก็เลยซึมซับมาโดยไม่ รู้ตัว อีกอย่างคนอำเภอแกลงซึ่งเราถือตนว่าเป็น “ลูกหลานท่านสุนทรภู่” ถ้าคนไหนแต่งโคลงกลอนไม่เป็นจะถือว่าเช้ยเชยครับในยุคนั้น

สำหรับกลอนที่แต่งส่วนใหญ่ในตอนนั้นเนื่องจากตัวเองกำลังเริ่มจะเป็นวัยรุ่นก็มักจะหนีไม่พ้นบทกลอนประเภท “รักๆ ใคร่ๆ” เพื่อจีบสาวนั่นแหละแต่ครั้นจะไปจีบเธอจริงๆ กลับไม่กล้าเลยออกมาเป็นกลอนแทน ๕๕๕

อันเมืองแกลง แหล่งนักกลอน แน่นอนครับ
ต้นตำรับ สุนทรภู่ ครูอักษร
คนเมืองแกลง เจ้ากวี ศรีโคลงกลอน
เราสืบทอด สุนทร - ภู่ท่านมา
สุนทรภู่ ครูกวี ศรีสยาม
ระบือนาม ก้องไกล ในโลกหล้า
ท่านคือเจ้า ตำรับ และตำรา 
เรารุ่นหลัง ต้องรักษา สืบต่อไป
คนเมืองแกลง จะต้อง ไม่ทอดทิ้ง 
ต้องสานต่อ ให้ยิ่ง ยืนยาวใหญ่
สุนทรภู่ แม้ตัวท่าน จะวางวาย 
แต่จิตใจ ท่านอยู่ใน ไทยทุกคน
ในเมื่อเรา เป็นลูกหลาน ของท่านภู่ 
ซึ่งถือเป็น ศิษย์มีครู ผู้ฝึกฝน
จึงจำต้อง ใส่ใจ ในกมล 
สืบต่อผล ของท่าน เท่านานเอย

นี่ๆ เค้ามีเรื่องจะเล่าให้ให้ตะเองฟัง รู้ไหมตอนเค้าเป็นหนุ่มๆ อยู่บ้านพังราดไทย อ.แกลง จ.ร่ะยองน่ะหนุ่มๆ เค้าไม่กล้าจีบสาวตรงๆ กันหรอก แบบว่าเค้าอายกันน่ะ จะจีบแต่ละทีต้องนี่ “แต่งกลอน” ให้สาวเจ้า หนุ่มๆ คนไหนถ้าแต่งกลอนเก่งนะสาวจะติดกันงอมเลย ตอนนั้นหนุ่มๆ ในหมู่บ้านน่ะสู้เค้าไม่ได้ซักกะคนเพราะนอกจากเค้าแต่งกลอนเก่งแล้วเค้ายัง “เจ้าชู้” กว่าเขาเช่ดอีกด้วย รู้ปล่าว เหอๆๆๆๆๆ

"เจ้าชู้" ศัพท์เสียงสำเนียงร่ะยองหมายถึง "ผู้ชายหน้าตาดี"
...........นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่หนุ่มๆ รุ่นผมตอนนั้นเขาเขียนส่งให้สาวกัน (ผมลอกเอามาจากหนุ่มน้อยที่ชื่อ “สุพจน์ มัจฉา” คนนั้นครับ แบบว่าถือวิสาสะลอกมาโดยไม่เกรงใจลิขสิทธิ์ด้วยแหละ เหอๆๆๆๆ)
...........
อันศรพิษ ที่ฉีด ยาผสม,แม้ตรอมตรม แต่ก็ รักษาหาย
แต่ศรรัก ที่ปัก อยู่กลางใจ,ไม่มีทาง รักษาได้ หากไร้เธอ

พูดถึงเรื่องการจีบสาวสมัยผมเป็นหนุ่มๆ นั้น (ตอนนี้ก็ยังหนุ่มอยู่) หลายคนเคยถามผมว่ามีจริงไหนตำราจีบสาวเนี่ยะ ผมตอบว่ามีจริงครับ ผมเองก็ยังได้รับการถ่ายทอดทั้งตำรับตำราที่เขียนเป็นหนังสือและคำบอกกล่าวมาจากคนรุ่นเก่าเลย แต่หลังจากมีลูกเมียแล้วผมเผาตำรานั้นทิ้งกลัวคนอื่นจะเอาไปใช้ในทางผิดๆ ยิ่งตัวเองมีลูกสาวแบบนี้ด้วยแล้วเผาทิ้งดีกว่า เดี๋ยวมันเข้าตัว

อีก ๑ บทกลอนของนักรักรุ่นกระเตาะคนนั้นที่บรรจงเรียงร้อยให้ใครคนหนึ่งสมัยยังหนุ่มๆ
.......
แสงจันทร์แจ่ม กระจ่างฟ้า ราตรีนี้

น่าจะมี ใครมอง จ้องบ้างหนอ
รู้ไหมใคร คนนั้น นั่นเฝ้ารอ

อยู่ด้วยใจ จดจ่อ กลางแสงจันทร์
แสงจันทร์นวล แจ่มตา ฟ้าสว่าง,เป็นเหมือนดั่ง เช่นขั้ว หัวใจฉัน
ที่มีให้ ใครบางคน ทุกคืนวัน,ตลอดกาล สว่างไสว ในใจเรา
.........
ผล....สาวเจ้าอ่านแล้วขยำทิ้งทันที เหอๆๆๆๆ สมน้ำมะหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น