วันนี้วันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ วันแรกของสัปดาห์ในการทำงานที่โรงพักของผมและของหลายๆ ท่านหลังจากหยุดพักผ่อนมาแล้ว ๒ วัน คงจะกระชุ่มกระชวยกระฉับกระเฉงกันพอสมควรเลยแหละผมว่าเหมือนแบตเตอรี่ที่นำไปชาร์จไฟเสียหน่อยพอนำมาใช้งานอีกทีก็เครื่องฟิตสตาร์ตติดง่ายอย่างโฆษณาน้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่งยังไงยังงั้น
วันนี้ถึงโรงพักตามเวลาพอดีเป๊ะไม่ขาดไม่เกิน ตำรวจเราที่ทำงานโรงพักมากันหมดแล้ว ทุกคนเริ่มงานใหม่อย่างกระปรี้กระเปร่าอย่างที่บอก งานช่วงเช้ามีไม่ค่อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจที่เจ้าหน้าที่เมื่อรับงานมาก็ประมวลนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการโดยผ่านผมก่อน ๓-๔ เรื่อง ง่ายๆ ครับงานธุรการถ้าเรามีความเข้าใจเสียหน่อย เขียนหนังสือเป็นซักนิดก็เรียบร้อย ไร้ปัญหา
อากาศที่เวียงป่าเป้าเช้าที่ผ่านมาดี๊ดีครับ ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใสแม้ัจะมีเมฆดำๆ บ้างนิดหน่อยก็ตามแต่โดยรวมแล้วสดชื่นมากเลยทีเดียว สำหรับฟ้าฝนนั้นไม่แน่เหมือนกันว่าช่วงบ่ายจะตกมาหรือเปล่า เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วสดชื่นใจยังไงบอกไม่ถูก
มีเรื่องบันทึกไว้หน่อยคือตอนนี้เวียงป่าเป้าจะได้โรงพักใหม่แล้วล่ะหลังจากโรงพักเก่้าถูกรื้อมาเมื่อ ๒ ปีเศษที่ผ่านมา ผมเห็นผู้รับเหมาเขาตอกเสาเข็มอยู่ เขาบอกว่าเริ่มตอกมาตั้่งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา งานของเขาตอกเสร็จก็เรียบร้อยที่เหลือตัวอาคารอะไรนั่นผู้รับเหมาคนอื่นจะมารับช่วงต่อ ถามตำรวจเก่าๆ ที่นี่เขาเล่าให้ฟังว่าตัวอาคารใหม่้ที่จะสร้างนี้เป็นอาคาร ๓ ชั้นแบบโรงพัก สภ.พานที่ผมอยู่ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ ๑๘ เดือน ก็ปีครึ่ง ถ้านับจากวันนี้ไปราวๆ ปลายปี ๒๕๕๖ ตำรวจเวียงป่าเป้าจะมีโรงพักทำงานกับเขาซะทีหลังจากใช้ิอาคารที่ทำการหอประชุมเขาอยู่มานาน พวกเขาบอกว่าจะรอวันนั้น
และนี่คือวันนี้ที่เวียงป่าเป้าช่วงเช้าครับ
เล่าสู่กันฟัง
เมื่อวานวันหยุดผมอยู่บ้านที่พะเยาแล้วก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่สำคัญที่มิอาจปฏิเสธได้ ทำไปเถอะครับแล้วทุกอย่างจะสบาย โล่งตา โล่งใจ สำคัญที่สุดคือโล่งหูด้วย (๕๕๕๕) ส่วนหนึ่งที่ทำก็คือถอนหญ้าหน้าบ้านเพราะฝนตกบ่อยมาก ตัดได้แป๊บเดียว โอ้โฮ ขึ้นเขียวอีกแล้ว ถอนไปถอนมาไปเจอแตนเจ้ากรรมต่อยเข้าให้ที่มือและแขนขวาท่อนล่าง เจ็บแป๊บถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว ผมวิ่งหนีขึ้นบ้านแล้วเอายาหม่องทา แต่ผู้ใหญ่(ที่)บ้านบอกว่า “ทายาหม่องอย่างเดียวไม่ได้นะคุณ ไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลย” เอ้อ ทำไงได้ล่ะ “นี่คือคำสั่ง” ผมก็ไปซิ่ครับไปโรงพยาบาลพะเยาซึ่งอยู่ห่างบ้านไม่ถึงกิโลดี
ที่โรงพยาบาลตอนไปถึงคนไข้เยอะเลยต้องรอคิวกันหน่อย ระหว่างรอผมคุยกับหนุ่มคนหนึ่งอายุน้อยกว่าผมราวๆ ๕-๖ ปีเห็นจะได้หน้าตาหัวหูปูดบวมโนฟกช้ำดำเขียวไปหมดเลยครับ น่ากลัวไม่ใช่น้อย ผมจึงถามน้องคนนั้นเขาว่า “น้องไปโดนอะไรมาหน้าตาถึงเป็นแบบนี้น่ะ”
“ผมถูกแตนต่อยครับพี่” น้องเขาตอบผม
“เอ้อ พี่ก็ถูกแตนต่อยมาเหมือนกัน” ผมพูดพร้อมยกมือขวาที่บวมๆ ให้น้องเขาดู “นี่แสดงว่าน้องต้อง(ถูกคนที่บ้านใช้)ทำงานในสวนเหมือนพี่ซิ่แตนถึงต่อยให้ เจ็บเหมือนกันนะ”
“ไม่ใช่หรอกครับพี่” เขาพูดต่อ “แตนของพี่กับแตนของผมน่ะคงจะคนละแตนแน่ๆ เลย”
“เอ๊ะ ยังไง” ผมถามต่อ “หรือว่าจะเป็นตัวต่อเพราะรูปร่างคล้ายๆ กัน”
“ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละพี่” เขาตอบ “แตนกับต่อน่ะผมรู้จักดีและก็เคยถูกต่อยมาแล้วด้วย แต่ “แตน” ของผมน่ะมันคือ “นังแตน” ผู้ใหญ่(ที่)บ้านผมเอง แหม...กะอีแค่ผมพา “นังต่อ” คู่หูไปเล่นจุ๊กกรู๊ที่ม่านรูดหน่อยเดียว “นังแตน” มันตามไปเจอเข้าก็เลยต่อยผมซะหน้าตาอย่างที่พี่เห็นนี่แหละ เฮ้อ นังแตน”เพิ่มเติมช่วงบ่าย
บ่ืายวันนี้งานมี ๒ งานครับ งานแรกเป็นการเสนอคืนเงินตามสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา ๒ รายต่ือ ผกก.ซึ่งการคืนเงินนี้ก็เป็นไปอย่างที่ผมเคยเขียนไว้เมื่่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ นั่นแหละว่าสั่งจ่ายเป็นเช็คขีดคร่อมธนาคารออมสิน สาขาเวียงป่าเป้า ที่ออกจะยุ่งยากสำหรับผู้รับคืนอยู่ไม่น้อยตอนไปเบิกเงินเนื่องจากต้องเบิก เงินผ่านบัญชีไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ ใครที่มีบัญชีธนาคารนี้ไว้แล้วคงไม่เป็นไรส่วนคนที่ไม่มีคงต้องเปิดบัญชีใหม่ที่ธนาคารนี้หรือนำเช็คไปเข้า่บัญชีธนาคารอื่นที่มีแล้วให้ธนาคารเรียกเก็บให้อีกทีตามระเบียบแต่ก็ต้องเป็นไปตามนั้นเพราะระเบียบเขากำหนดไว้แบบนี้
อีกเรื่องหนึ่งก็คือการเสนอบัญชีเงินเดือนตำรวจประจำเดือนนี้ให้ ผกก.ลงนามเนื่องจากวันพรุ่งนี้ (๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เงินเดือนจะโอนเข้าบัญชีของแต่ละคนแล้ว เห็นเลขยอดเงินที่ได้รับแล้วก็อดใจหายไม่ได้สำหรับบางคนที่เหลือเงินเข้าบัญชีไม่กี่มากมายน้อยเพราะโดนหักไปเยอะ ที่สำคัญคือผู้ที่กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเชียงราย (ผมเองก็กู้ด้วยแหละ แฮ่ะๆ) นอกนั้นก็โดนหักโน่นหักนี่ ไม่เป็นไรครับพวกเราอยู่กันได้ตามสภาพเรียกว่าเคยชินซะแล้ว สบายมาก นอกเหนือจากงาน ๒ เรื่องที่บอกแล้วไม่มีอะไรอีักผมจึงใช้ัเวลาว่างๆ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยใช้ Access เพื่อแจกจ่ายให้ตำรวจใช้งานกันอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องที่เขียนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลพ้นโทษซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกซัก ๒-๓ วันกว่าจะแล้วเสร็จ เวลาที่ใช้เขียนก็มาจากช่วงว่างๆ นี่่แหละดีกว่าปล่อยไปโดยเปล่าประโยชน์ ดีเสียอีกชีวิตจะได้มีคุณค่ามากขึ้น เสร็จเมื่อไรผมจะนำแจกจ่ายให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องตำรวจใช้กันนะครับ
ภาพบรรยากาศที่เวียงป่าเป้าเมื่อเวลาประมาณ ๑๖.๔๕ น.ครับ สวยดีเลยเก็บมาฝากกันอีกซักภาพหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น