วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วันนี้ที่เวียงป่าเป้า (๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔)

วันนี้วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ผมมาถึงโรงพัก(ชั่วคราว) ก่อนเวลาทำงานเหมือนเช่นทุกวัน สภาพอากาศทั่วไปครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนเมื่อวานแต่ไม่ตกครับ ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมค่อนข้างครึ้มเอาการทีเดียวไม่แน่นะกลางวันอาจตกมาก็ได้ใครจะไปรู้ ไปไหนมาไหนอย่าลืมระมัดระวังและใส่ใจกฏจราจรให้มากเป็นพิเศษด้วยเพราะ "กฏจราจรคือกฏแห่งความปลอดภัย"

ถึงที่ืทำงานทักทายเจ้าหน้าที่ที่อยู่ขณะนั้นตามธรรมเนียม พูดคุยอะไรกับเขาได้พักหนึ่งก็เปิดห้องทำงานเข้าไป ตอนนั้นผมเป็นคนแรกที่เข้ามาเพราะน้องๆ เขายังไม่ถึงเวลา เปิดห้องเรียบร้อยก็เปิดคอมเหมือนเดิมนั่นแหละ ดูนั่นดูนี่ แต่ีที่แน่ๆ คือ Facebook ครับลืมไม่ได้เลยดูว่ามีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เข้ามาทักทายอะไรบ้าง เขาทักมาเราก็ตอบไปตามประสาคนคุ้นเคย อีกอย่างคือต้องอวยพรวันเกิดให้คนที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันนี้ด้วยซึ่งวันนี้มี ๑๑ คนผมอวยพรให้เขาไปแล้วในนั้นแต่ก็ขออนุญาตอวยพรผ่านบล็อกนี้อีกครั้้ง "ขอให้มีความสุข โชคดี คิดหวังสิ่งใดให้สมความปรารถนาทุกประการ"



อวยพรทักทายเพื่อนฝูงใน Facebook เรียบร้อยก็ถึงเวลาทำงานพอดี งานแรกที่ทำวันนี้คือนำข้อมูลต่างๆ ของตำรวจยศดาบตำรวจที่สมัครใจขอรับการคัดเลือกเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรซึ่งมีจำนวน ๖ คนมาตรวจสอบความพร้อมอีกครั้งเพราะ ผกก.นัดประชุมคณะกรรมการวันนี้เวลา ๙ โมงเช้า ข้อมูลเรียบร้อยดีครับแล้วพอถึงเวลานัดผมก็ไปประชุมที่บ้านพัก ผกก. การประชุมวันนี้เสร็จสิ้ันราวๆ ๑๐.๒๐ น. (รายละเอียดคลิกที่นี่)



ประชุมเสร็จเดินทางกลับโรงพักตอนนั้นเจ้าหน้าที่เขามาทำงานกันครบแล้ว พี่น้องที่มาติดต่อมีอยู่บ้างคนสองคน พวกเราก็ให้บริการด้วยความฉับไว กระฉับกระเฉงตามนโยบายของท่าน ผบ.ตร.ที่ว่า "บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว" นั่น เท่าที่สังเกตดูพี่น้องพอใจในการบริการของตำรวจเวียงป่าเป้ามากเหมือนกัน



มาถึงโรงพักตอนนั้นไม่มีอะไรทำแล้วผมจึงอาศัยเวลาว่างๆ ช่วงนี้ค้นคว้าหาข้อมูลที่น่าสนใจและสามารถนำไปใช้ในชีวิตตำรวจได้ทาง Internet ได้หลายอย่างเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลในเว็บไซต์ของกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติครับ ที่นี่มีข้อมูลหลายหลากที่หากตำรวจคนไหนลองเข้าไปดูและนำซักอย่างสองอย่างมาปรับใช้งานผมคิดว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

ค้นคว้าหาข้อมูลทาง Internet ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาราวๆ ๑๑ โมงครึ่ง โอ้โฮ ไม่น่าเชื่อครับ "น้ำไหลไฟดับ" เสียนี่ น้ำไหลไฟดับนี่ไม่ใช่้การพูดโม้คุยโวโอ้อวดหรอกแต่เป็นเพราะเวลานั้นฝนตกลงมาพอสมควรตกไม่ตกเปล่าไฟฟ้ามาดับเสียอีกแน่ะ นี่แหละคือ "น้ำไหลไฟดับ" ในความหมายของผม เมื่อคอมเปิดไม่ได้ก็ต้องออกไปข้างนอกซิ่ครับ ในห้องมันร้อนน่ะ ไฟไม่มีทำอะไรก็ไม่ได้ อย่างอื่นก็พลอยหมดไปด้วยไม่ว่าจะเป็นแสงสว่าง พัดลมระบายอากาศประมาณนี้ ทำให้อดหวนคิดไปถึงตอนเด็กๆ ไม่ได้ ตอนนั้นเอาเฉพาะที่บ้านผมก็แล้วกัน บ้านน้อกบ้านนอก ไฟฟ้านี่ไม่มีแต่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรใช้ตะเีกียงนี่แหละ ไฟไม่มีไม่มีปัญหา ทำอะไรได้หมด แต่ตอนนี้ไม่ใช่ อย่างว่าแหละเนาะเรื่องแบบนี้มันเป็นไปตามความเจริญของสังคมและเทคโนโลยีนั่นแล

ออกไปข้างนอกได้แป๊บหนึ่งเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเวียงป่าเป้าเขามาจัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ที่ทำก็ตรงหม้อแปลงไฟหน้าโรงพักนี่แหละใช้เวลาสัก ๑๐ นาทีเห็นจะได้ไฟก็มาดังเดิม ขอบคุณการไฟฟ้าด้วยที่บริการฉับไว รวดเร็ว ขอบคุณแต๊ๆ

เืมื่อไฟฟ้ามาแล้วก็เข้าห้องทำงาน ทำอะไรเรื่ีอยเปื่อยตามปกติจนเวลาเที่ยงเศษๆ ได้เวลาออกไปทานอาหารเจ้าประจำหน้าโรงพักซึ่งเป็นของดาบตำรวจโรงพักนี้เหมือนเดิม

นี่คือวันนี้ที่เวียงป่าเป้าเช้าวันนี้


เพิ่มเติม : ช่วงบ่าย

บ่ายวันนี้งานไม่ค่อยมี ที่มีก็เป็นเพียงเรื่องเกี่ยวข้องเฉพาะตำรวจที่น้องๆ เขาได้รับหนังสือหรือข้อมูลมาแล้วก็ร่างและปะหน้าเสนอผู้บังคับบัญชาผ่านผมสามสี่เรื่องใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ ช่วงเวลาที่เหลือผมเลยเปิดเรื่องราวต่างๆ ของผมที่เคยบันทึกไว้ในบล็อกส่วนตัวซึ่งเริ่มอย่างเป็นงานเป็นการวันแรกเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ในชื่อ http://phanpatrol.spaces.live.com (ตอนหลังระบบเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น http://phanpatrol.wordpress.com) และอีกบล็อกหนึ่งซึ่งข้อมูลต่อเนื่องจากบล็อกก่อนคือ http://mrsp2503.blogspot.com มาดูว่าสองสามปีในบล็อกนั้นเราทำอะไรไปบ้าง ดูแล้วเป็นปลื้มตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เอ้อ เราทำงานเกือบทุกวันเลยหรือนี่ ภาพประกอบและข้อมูลมีเพียบ ฮ่า สุดยอด (ชมตัวเองซะเลยคนอะไร) นี่แหละที่ผมถือว่าเป็นหลักฐานชั้นดีของผมในการโชว์หรืออวดผลการปฏิบัติงานให้ใครก็ได้ในโลกนี้ดู ทุกคนมีสิทธิ์รับทราบว่าเราเป็นไง ทำงานแบบไหน มีความคิดความอ่านอย่างไร แล้วช่วงพิจารณาขั้นผมก็ใช้ข้อมูลที่ทำนี่แหละ Print เสนอผู้บังคับบัญชา แต่ละช่วงเนื้อหาในกระดาษมีเป็นพันๆ หน้าเลยทีเดียว การบันทึกทุกวันและทุกครั้งที่เราปฏิบัติงานเนี่ยะทำให้ไม่ค่อยรู้สึกว่ามากมายอะไรพอเอามาดูตอนหลังมันกลายเป็นตรงกันข้าม ใจผมนะอยากให้ตำรวจคนอื่นๆ ทำแบบนี้บ้างแต่ืคิดว่าคงจะยากเพราะเท่า่ที่พบมาส่วนใหญ่มักบอกว่าไม่รู้จะทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร หรือทำแล้วได้ประโยชน์อะไรประมาณนี้ ไม่ว่ากันเพราะนั่นมันเรื่องของเขา ร้อยคนก็ร้อยอย่าง พันคนก็พันอย่าง คนเราไม่จำเป็นต้องคิดหรือทำอะไรเหมือนกันแต่สำหรับผมจะทำแบบนี้และทำไปตลอดจึงขออนุญาตบันทึกไว้ช่วงบ่ายนี้หน่อยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น