วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แอ่วพระธาตุม่อนจอมผ่อ (๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔)


วันนี้หลังเลิกงานแล้วไม่รู้จะทำอะไรเพราะไม่มีอะไรให้ทำ ครั้นจะทำแบบที่ใจชอบก็ไม่ใช่หน้าที่ ดีไม่ดีเขา(คนที่รับผิดชอบ)จะด่าให้ ไม่ดีแน่ แล้วจะทำไงดีล่ะ เวลาก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะกว่าจะเข้านอน ตอนนั้นราวบ่าย ๔ โมง ๔๐ คิดไปคิดมา นึกไปนึกมา เอ้อ ตอนนี้ช่วงเข้าพรรษานี่ เข้า่วัดดีกว่า อ้า ได้การละ แล้ววัดที่จะไปล่ะวัดไหน นี่เลย "วัีดพระธาตุจอมผ่อ" ซึ่งเราเคยได้ยินและอยากไปมานาน อยู่ใกล้ๆ โรงพักเวียงป่าเป้าไม่กี่มากน้อย พอนึกออกก็คว้ามอเตอร์ไซค์คู่ใจสตาร์ทเครื่องออกไปทันที ไม่กี่นาทีก็ถึงครับ "วัดพระูธาุตุจอมผ่อ" ที่เราอยากไปมานานได้เห็นและสัมผัสแล้วละคราวนี้





พระธาตุจอมผ่อตั้งอยู่ที่วัดอรัญญวิเวกคีรี (จอมผ่อ) บ้านดง-หล่ายหน้า หมู่ ๗ ตำบลเวียง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โทร. o-๕๓๗๘- ๑๓๖๓ มีพระครูปฏิภาณธรรมทิ เป็นเจ้าอาวาส

ประวัติพระธาตุตามหลักฐานเอกสารในทำเนียบการตั้งวัดของจังหวัดเชียงรายระบุว่าได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๖๓ แต่ยังไม่พบหลักฐานใดอื่นอีก นอกจากหลักฐานทางโบราณวัตถุ เช่น เจดีย์ พระพุทธรูป กองหินกองอิฐที่สันนิษฐานได้ว่าตรงนี้เคยเป็นโบสก์เป็นวิหารมาก่อนเท่านั้นจากคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนกล่าวว่าที่วัดม่อนจอมฝ่อนี้เดิมมีพระพุทธรูปทองเหลืองทองแดงองค์เล็กองค์ใหญ่จำนวนมาก พิงอยู่ตามต้นไม้บ้าง วางอยู่บนกองอิฐกองดินบ้างไม่มีใครสนใจ เมื่อทางการได้เข้าไปสำรวจโบราณวัตถุ ประกอบกับทางวัดไม่มีผู้ดูแลแน่นอนจึงได้เก็บเอาพระพุทธรูปที่เป็นโลหะชนิดต่างๆไปรวบรวมไว้จนหมดไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว ในระหว่างการรื้อเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒o ยังพบวัตถุมงคลอีกมากมายพร้อมแผ่นเงินจารึกประวัติศาสตร์การสร้างเจดีย์ที่จานด้วยเหล็กจานเป็นภาษาล้านนาจึงได้มีการบูรณะเรื่อยมา จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๔๖ และได้จัดให้มีประเพณีสงฆ์น้ำพระธาตุจอมฝ่อขึ้นทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๔

พระธาตุจอมผ่อเป็น ๑ ใน ๙ จอมหรือพระธาตุสำคัญของจังหวัดเชียงรายซึ่งประกอบด้วย

พระธาตุดอยจอมทอง (อำภอเมือง) พระธาตุจอมหมอกแก้ว (อำเภอแม่ลาว) พระธาตุจอมแจ้ง (อำเภอแม่สรวย) พระธาตุจอมผ่อ (อำเภอเวียงป่าเป้า) พระธาตุจอมแว่ (อำเภอพาน) พระธาตุจอมจ้อ (อำเภอเทิง) พระธาตุจอมกิตติ (อำเภอเชียงแสน) พระธาตุจอมจัน (อำเภอแม่จัน) และพระธาตุจอมสัก (อำเภอเมือง)





การเข้าวัดครั้งนี้สิ่งที่ได้อย่างน้อยที่สุดก็คือความสุขใจที่้ได้พบได้เห็นสิ่งของมีึค่้าซึ่งบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย ทวด เทียด ของเราได้หวงแหนและอนุรักษ์ไว้เพื่อให้เป็นมรดกสืบทอดไปจนรุ่นพวกเรา ลูก หลาน เหลน ลื่อ ลืบ ลืด สืบไปรวมถึงที่สำคัญก็คือได้สัจธรรมของชีวิตอีกหลายอย่างเลยทีเดียวครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น