แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อคืนนี้ที่บ้านเราฝนตกมาขนาดหนัก ลมพัดกระโชกปานพายุอสูร เสียงครวญครางหวีดหวิวเหมือนผีเปรตในนรกร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด รอบด้านดำทะมึนมองอะไรแทบไม่เห็นนอกจากสีขาวๆ ของน้ำฝนที่หล่นลงมาจากฟากฟ้าไม่หยุดหย่อนซึ่งตอนนั้นเวลาราวตี ๗ ครึ่ง (๑๙.๓๐ น.) ที่มืดค่ำแล้ว
เสียงปึงปังของต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่ข้างบ้านที่หักโค่นด้วยลมพายุมีมาเป็นระยะพร้อมกับจากที่มุงหลังคาบ้านเราหลุดลอยไปตามสายลมทีละแผ่นสองแผ่นจนน้ำฝนที่หล่นลงมาสาดซัดเข้าบ้านเปียกแทบหาที่หลบไม่ได้ ตะเกียงน้ำมันแก๊บ (น้ำมันก๊าด) ที่บ้านเราใช้เป็นประจำช่วงค่ำคืนนั้นไม่ต้องพูดถึงจุดยังไงก็ไม่มีทางติดด้วยแรงลม เพาะต้องเอาไต้ที่พอมีอยู่ครึ่งท่อนมาจุดแทนเพื่อให้เกิดความสว่างขึ้นมาแต่ก็สู้แรงลมไม่ได้อีก สุดท้ายเพาะหยิบตะเกียงแก๊สที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงมาจุดแทนถึงใช้การได้แต่ยังไงเพาะก็ต้องเอามือป้องลมไว้อยู่ดี
ลมพัดหวีดหวิวพร้อมเสียงหักโค่นของต้นไม้ทั้งเล็กทั้งใหญ่แถวบ้านท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาแทบไม่ขาดสายและเสียงหวีดร้องด้วยความกลัวของน้องๆ จนเพาะกับแมะต้องปลอบใจว่าไม่มีอะไรมากและให้ลงไปหาที่หลบเพื่อให้ปลอดภัยใต้ถุนบ้านเป็นเช่นนี้ราวๆ ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ก็สงบลง ครึ่งชั่วโมงแต่เป็นครึ่งชั่วโมงที่นานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ เหมือนตกอยู่ท่ามกลางนรกอเวจียังไงยังงั้น
หลังเหตุการณ์สงบ เพาะกับแมะและเรากับน้องๆ ออกสำรวจความเสียหายในบ้าน เฮ้อ เห็นแล้วแทบร้องไห้เพราะบ้านเราจากที่มุงเหลืออยู่ติดหลังคาเพียงไม่กี่แผ่น ฝาบ้านที่ทำจากทางมะพร้าวซึ่งเพาะกับแมะช่วยกันเย็บอย่างแน่นหนาก็หลุดลอยไปสายลมแทบไม่เหลือ มองจากตัวบ้านออกไปข้างนอกหรือท้องฟ้าเห็นอะไรได้ชัดเจนโดยไม่ต้องออกจากบ้าน ในห้องครัวช้อนถ้วยจานปลิวกระเด็นกระดอนออกไปไกล ทุกที่ทุกแห่งในบ้านเปียกปอนด้วยน้ำฝน ผ้าห่งผ้าห่มที่ใช้ห่มนอนไม่ต้องพูดถึงเปียกหมดทุกชิ้นทุกผืนแล้วคืนนี้เราจะเอาอะไรห่มกันนี่
เพาะบอกให้พวกเราช่วยกันกวาดน้ำที่เจิ่งนอนในบ้านออกเป็นลำดับแรกก่อนเพื่อให้มันแห้งส่วนของอื่นๆ เพาะบอกว่าพรุ่งนี้เช้าช่วงสว่างแล้วถึงค่อยว่ากันอีกที คืนนั้นพวกเราช่วยกันทำตามที่เพาะบอกจนเวลาผ่านไปถึงราวตี ๙ (๒๑.๐๐ น.) จึงเสร็จจนเหนื่อยอ่อนไปตามๆ กัน หลังเสร็จแล้วเพาะบอกให้ลูกๆ เข้านอน แต่มีปัญหาเรื่องที่นอนอีกจะนอนกันที่ไหน เพราะแม้พื้นบ้านจะแห้งแล้วแต่หลังคาและฝาบ้านมันแทบไม่มีถ้าฝนตก ลมพัดมาอีกจะทำกันยังไง ผ้าห่มก็ใช้ไม่ได้ซักผืน
เพาะกับแมะเดินลงไปใต้ถุนบ้าน พักหนึ่งก็บอกลูกๆ ว่า “ลูกเอ๊ย คืนนี่ลงไปนอนใต้ถุนบ้านกันหนะ เพาะก๊ะแมะเอาไม้กระดานมาวางเรียงๆ กันไว้ให้แล่ว นอนที่นั่นแหนะ เรื่องผ้าผวย(ผ้าห่ม) ไม่ต้องห่วงเพาะก๊ะแมะเอากระสอบอีเต้ (กระสอบป่าน) ไว่ให้ห่มคนล่ะลูก สำหรับหมอนก็ใช้ท่อนไม้หนุนแทนไปก่อนหนะลูก แล่วอีกอย่างเรื่องยุงก็ไม่ต้องเป็นห่วงเหาะ(หรอก) เดี๋ยวเพาะจะจุดเปลือกม่ะพร่าวกันยุงให้”
เพาะกับแมะเดินลงไปใต้ถุนบ้าน พักหนึ่งก็บอกลูกๆ ว่า “ลูกเอ๊ย คืนนี่ลงไปนอนใต้ถุนบ้านกันหนะ เพาะก๊ะแมะเอาไม้กระดานมาวางเรียงๆ กันไว้ให้แล่ว นอนที่นั่นแหนะ เรื่องผ้าผวย(ผ้าห่ม) ไม่ต้องห่วงเพาะก๊ะแมะเอากระสอบอีเต้ (กระสอบป่าน) ไว่ให้ห่มคนล่ะลูก สำหรับหมอนก็ใช้ท่อนไม้หนุนแทนไปก่อนหนะลูก แล่วอีกอย่างเรื่องยุงก็ไม่ต้องเป็นห่วงเหาะ(หรอก) เดี๋ยวเพาะจะจุดเปลือกม่ะพร่าวกันยุงให้”
ขอบคุณหนะเพาะก๊ะแมะ
ด.ช.สุพจน์ มัจฉา
๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓
ด.ช.สุพจน์ มัจฉา
๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น